ลอบทำร้าย

1828 คำ
หลิวหยางเดินออกมาส่งซูหลิงที่หน้าโรงรับจำนำ เพราะหญิงสาวต้องการมารอขึ้นรถแท็กซี่ ตรงป้ายรถประจำทาง “ให้เราไปส่งที่บ้านดีกว่า” หลิวหยางเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสาว ที่ทั้งรูปร่างหน้าตาสวยงาม ทั้งมีเช็คเงินสดอยู่ในกระเป๋าเป็นเงินจำนวนมาก “ไม่เป็นไรหลิวหยาง เราจะไปทำธุระอีกหลายที่ เรียกแท็กซี่น่าจะสะดวกกว่า ขอบใจนายมากนะ” ซูหลิงที่จะไปซื้อรถยนตร์อยู่แล้ว เลยไม่อยากรบกวนเพื่อนที่กำลังช่วยงานของครอบครัวอยู่ “ถ้าอย่างนั้นก็เดินทางปลอดภัย ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็โทรศัพท์มาหาเราได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ” หลิวหยางจำต้องยอมตามใจเพื่อนสาว เพราะเห็นแววตามั่นใจในตนเอง “ขอบใจมากเลยนะหลิวหยางที่ช่วยเหลือเราในวันนี้ โอกาสหน้าเราจะเลี้ยงข้าวตอบแทนนายนะ วันนี้เรามีธุระด่วน” “อืม เราจะรอเธอนะ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบา เพราะเขาไม่ได้แค่รอให้เพื่อนมาเลี้ยงข้าว แต่เขาอยากรอเธอในทุกๆเรื่อง “เดี๋ยวเราจะรีบติดต่อกลับมานะ”หญิงสาวที่ไม่ได้เข้าใจในความหมายลึกซึ้งของคำพูดเพื่อนชาย ก็ยิ้มแย้มเอ่ยตอบออกมาอย่างสบายใจ . . . ซูหลิงเดินมาขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่บริเวณป้ายรถประจำทาง พอรถแท็กซี่ขับเคลื่อนตัวออกไปในใจหญิงสาวก็รู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง เพราะเหลือบไปเห็นแววตามีลับลมคมในของคนขับรถ แต่ก็อยู่ในอาการสงบเพราะประเมินดูแล้วไม่มีอะไรที่น่ากังวล หากมีอันตรายเกินกว่าที่จะรับมือได้ เธอก็แค่หลบเข้าไปอยู่ในมิติส่วนตัว และก็เป็นอย่างที่ซูหลิงสังหรณ์ใจ รถแท็กซี่ที่คนขับเป็นชายวัยกลางคน ขับรถพาเธอมาจอดบริเวณโกดังร้างแห่งหนึ่งในซอยเปลี่ยวร้าง ที่ไม่มีผู้คนสัญจรผ่านไปมา “ลงไปได้แล้ว” ชายวัยกลางคนเอ่ยสั่งหญิงสาวเสียงเข้ม “ฉันยังไม่ได้จ่ายเงินค่ารถเลยลุง ยังลงไปไม่ได้หรอก” น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นแผ่วเบา จนคนได้ยินรู้สึกขนลุกขึ้นมา “ไม่ต้องจ่าย มีคนจ่ายให้แล้ว” ชายวัยกลางคนรีบพูด สายตาก็เหลือบมองไปทางคนกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ชาย4คน กำลังเดินออกมาจากโกดังร้าง ซึ่งในมือก็ถือปืนอยู่ทุกคน บ่งบอกว่าไม่ได้มาดี “หึหึ คนพวกนั้นก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว แต่ก่อนอื่นฉันจะจ่ายให้ลุงก่อน” น้ำเสียงเย็นๆเอ่ยขึ้นข้างหูคนขับรถ วงแขนเรียวข้างหนึ่งก็ยกขึ้นมารัดคอคนขับรถแท็กซี่จนสลบแน่นิ่งไป อ๊อก!!!!!! จากนั้นหญิงสาวก็เดินข้ามมาเบาะที่นั่งด้านหน้ารถ แล้วนั่งลงเก้าอี้ด้านข้างคนขับรถ เพื่อมองสภาพแวดล้อมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น จากนั้นก็เอื้อมมือไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ เพื่อจะจัดการกับร่างเจ้าของรถแท็กซี่ ที่พาเธอมายังสถานที่อันตรายแห่งนี้ ผลัวะ!!! เสียงเท้าเล็กๆถีบร่างชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่เก้าอี้คนขับรถ ให้กลิ้งตกลงไปจากรถแท็กซี่ “ทำมาหากินดีๆไม่ชอบ ถ้าอย่างนั้นฉันขอยืมรถลุงไปใช้ก่อนนะ ค่อยไปตามหาเอาเองทีหลังละกัน โลกนี้ฉันไม่อยากฆ่าใครเดี๋ยวตำรวจจะตามเจอ ฉันจะละเว้นชีวิตลุงสักครั้ง” หญิงสาวบ่นพึมพำอยู่คนเดียว สายตาก็จดจ้องไปที่กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง4คน ที่กำลังเดินมาที่รถแท็กซี่ เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าจะจัดการอย่างไรดี เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะลงไปสอบถามหาคนบงการ เพื่อให้รู้สาเหตุที่ตนเองถูกปองร้ายในครั้งนี้ ทั้งๆที่ไม่เคยมีศัตรูที่ไหนมาก่อน ซูหลิงหยิบปืนเก็บเสียงออกมาจากมิติส่วนตัว เธอเป็นนักฆ่าฝึกหัดในยุคโบราณไม่เคยใช้ปืน แต่ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในยุคที่มีอาวุธปืน หญิงสาวจึงจัดการหาซื้อปืนอย่างถูกกฏหมายตั้งแต่วันที่ไปขายสมุนไพร เพราะเล็งเห็นว่าชีวิตของตนเอง กับน้องชายที่แยกไปอยู่กันสองคนไม่ค่อยปลอดภัย ถึงแม้ที่บ้านหลังใหม่จะมีรั้วรอบขอบชิดที่ปลอดภัยก็ตาม แต่ผู้หญิงกับเด็กอยู่กันเพียงลำพังย่อมต้องมีอาวุธไว้ป้องกันตนเองบ้าง หญิงสาวเข้าไปฝึกยิงปืนที่สถาบันสอนยิงปืนมาครึ่งวัน จนสามารถยิงปืนได้อย่างแม่นยำ เพราะมีทักษะในการยิงธนู และใช้มีดสั้นที่ต้องอาศัยความแม่นยำเช่นเดียวกันมาก่อน พอตัดสินใจได้ว่าจะลงไปสอบถามสาเหตุ ที่ตนเองถูกปองร้ายกับกลุ่มคนร้าย หญิงสาวก็เปิดประตูรถแท็กซี่และก้าวขาลงจากรถทันที “ใครจ้างให้พวกแกมา แล้วพวกแกต้องการอะไร”หญิงสาวเอ่ยถามกลุ่มคนร้ายออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ใครจ้างไม่สำคัญ รู้แค่ว่าพวกฉันจะเอาเธอทำเมียก็พอคนสวย” หนึ่งในคนร้ายตะโกนตอบกลับมา พร้อมทั้งทำท่าทางแลบลิ้นเลียปากอย่างหื่นกระหาย เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวที่พวกตนต้องมาข่มขืนชัดๆ ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ!!! “โอ๊ยยยยยย” ซูหลิงยิงปืนไปที่มือของคนร้ายทั้ง4คน อย่างแม่นยำและรวดเร็ว จนปืนหลุดออกจากมือคนร้ายทุกคน เพราะแต่ละคนไม่ทันระวังตัว และไม่คิดว่าผู้หญิงที่พวกตนถูกจ้างวานให้มาข่มขืน จะมีปืนและยิงปืนแม่นยำขนาดนี้ “ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร แต่แน่ใจนะว่าจะเอาฉันทำเมีย” หญิงสาวเคลื่อนไหวตัวอย่างว่องไว เพื่อไปเก็บปืนทั้ง 4กระบอกโยนเข้าไปเก็บในมิติ จากนั้นเท้าเล็กๆก็ถีบเข้าตรงความเป็นชายของคนร้ายทั้ง4คน อย่างรวดเร็วและหนักหน่วง จนคนร้ายล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ทั้งส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและจุก อ้ากกกกกก!!!! “ถ้ามีแล้วมันคิดดีๆกับผู้หญิงไม่เป็น ก็ตัดทิ้งไปเสียเลยดีไหม” น้ำเสียงเรียบเฉยเอ่ยขึ้นท่ามกลางชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คน ในมือเรียวสวยอีกข้างหนึ่งก็ถือมีดสั้นคมกริบขนาดพอดีมือ และเดินไปนั่งยองๆข้างๆคนร้ายที่พูดว่าจะเอาเธอมาทำเมีย คนร้ายทั้ง 4ที่ทั้งเจ็บมือ และจุกตรงกลางกายจนหน้าเขียว ได้แต่เขยิบตัวออกห่างหญิงสาวแสนสวยที่ถือมีดสั้นกวัดแกว่งไปมาเฉียดๆกลางกายของพวกเขา อีกมือหนึ่งก็ถือปืนจ่อไปที่ศรีษะคนร้ายอีกคน “ยะอย่า นะ ฉันพูดแล้ว แต่อย่าทำอะไรพวกเราเลย” หนึ่งในคนร้ายรีบพูดออกมา เพราะตอนนี้พวกเขากลัวถูกตัดความเป็นชายขึ้นมาจริงๆ “หืม ใครจ้างพวกแกมา” น้ำเสียงหวานๆเอ่ยถามออกมาเสียงเรียบ แววตาก็ดำมืดจนคนร้ายไม่กล้าพูดโกหกออกมา “คุณหนูเหมยจิน เพราะเธอไปยุ่งกับว่าที่คู่หมั้นของคุณหนู คุณชายหลิวจงเสียน” คนร้ายที่ถูกมีดสั้นที่คมกริบจ่อไปที่กลางกาย ก็หวาดกลัวว่าของรักจะถูกตัดทิ้ง จึงรีบพูดข้อมูลที่ตนเองรู้ออกไปทันที “หึหึ ผู้ชายไม่รักเลยมาโทษฉันสินะ” ซูหลิงนึกถึงแววตามาดร้ายของเหมยจินที่มองเธอในวันนี้ ก็เข้าใจในเรื่องราวที่ตนเองถูกปองร้าย ในใจก็คิดว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร จะบุกไปฆ่าทิ้งก็ไม่ใช่วิสัยของเธอ แต่ก็คงต้องจัดการกันบ้าง ไม่อย่างนั้นเธอคงจะถูกระรานไม่เลิก “เหมยจินพักที่ไหน และพักอยู่กับใคร” “อยู่คอนโดBกลางกรุงปักกิ่ง อยู่คนเดียว” คนร้ายคนหนึ่งที่เป็นลูกน้องคนสนิทของไห่เทา บอดี้การ์ดของเหมยจิน รีบตอบคำถามนี้เพราะถูกปืนจี้ที่ศรีษะ “ดี ขอบใจที่ตอบคำถามนะ แต่ว่าพวกแกต้องไปนอนเล่นในคุกสักหน่อย เพื่อปรับพฤติกรรมให้เป็นคนดีขึ้นมาบ้าง” หญิงสาวต่อสายโทรศัพท์ไปยังสถานีตำรวจ และแจ้งเรื่องราวความผิดของคนร้ายทั้ง4คน พร้อมทั้งแจ้งความผิดของคนขับรถแท็กซี่ และบอกพิกัดสถานที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการจับกุมตัวคนร้าย จากนั้นก็จัดการทุบท้ายทอยคนร้ายทั้ง 4 จนสลบ และนำเชือกในมิติมามัดทั้ง4คนผูกติดกัน ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่นอนสลบอยู่ ก็ถูกมัดข้อมือผูกติดไว้กับต้นไม้ในบริเวณนั้น จากนั้นซูหลิงก็ขับรถแท็กซี่ออกไปจากจุดเกิดเหตุทันที โดยไม่ได้สนใจว่าตำรวจจะจัดการกับกลุ่มคนร้าย และคนขับรถแท็กซี่อย่างไร เพราะเธอไม่อยากเป็นข่าวให้มีเรื่องวุ่นวายตามมาในภายหลัง หญิงสาวขับรถแท็กซี่ไปจอดทิ้งไว้ตรงป้ายรถประจำทางแห่งหนึ่ง และโยนกุญแจรถแท็กซี่ทิ้งถังขยะ จากนั้นก็ขึ้นรถเมล์เพื่อไปลงย่านการค้าที่มีโชว์รูมขายรถยนตร์ เพื่อไปหาซื้อรถยนตร์มาไว้ใช้งาน ซูหลิงเลือกรถยนตร์ยุโรปยี่ห้อหนึ่งที่มีสมรรถนะที่ดีเยี่ยม และราคาไม่ได้สูงมาก ราคาราวๆ 5 ล้านหยวน เมื่อจัดการเรื่องเอกสารแล้วเสร็จ เธอก็นำเงินสดที่เก็บเอาไว้ในมิติออกมาจ่ายเงินสดก้อนเดียว และขับรถยุโรปสีขาวกลับบ้านทันที หญิงสาวเคยเข้าไปฝึกอบรมการขับรถยนตร์ ในสถาบันสอนขับรถยนตร์แห่งหนึ่ง และมีใบอนุญาตขับขี่รถยนตร์ตามกฏหมายแล้ว ซูหลิงคนเดิมนั้นขับรถไม่เป็นต้องมีคนขับรถให้ตลอด แต่เวลานี้เธอสามารถขับรถยนตร์ได้อย่างคล่องแคล่ว ไร้ซึ่งความกลัวใดใด ระหว่างทางกลับบ้านเธอขับรถยนตร์ผ่านคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งตรงตามที่คนร้ายบอกเอาไว้ว่าเป็นที่อยู่ของเหมยจินผู้หญิงที่จ้างวานคนร้ายให้มาข่มขืนตน มุมปากของหญิงสาวกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมาชั่วครู่ รถยนตร์ยุโรปสีขาวได้เคลื่อนตัวเข้าไปจอดในลานจอดรถของคอนโดB ในจังหวะที่กำลังจอดรถอยู่นั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นเหมยจินกำลังเดินลงมาจากรถคนเดียวพอดี “หึหึ โชคดีที่เจอวันนี้เลยสินะ” หญิงสาวแอบมองอยู่บนรถพอแน่ใจแล้วว่าเหมยจินมาคนเดียว จึงเดินลงจากรถและสะกดรอยตามไปทันที ใบหน้าสวยหวาน สวมหน้ากากอนามัยสีดำเพื่อปกปิดใบหน้า ซึ่งไม่ได้แปลกอันใด เพราะมีหลายคนในคอนโดBก็สวมหน้ากากอนามัยเช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม