“พราว พี่จะกลับแล้วนะ ไว้เจอกันที่บริษัทอาทิตย์หน้านะครับ เด็กน้อยนักศึกษาฝึกงาน” พี่องศาตะโกนมาทางฉัน นี่เขาเรียกฉันว่าเด็กน้อยอีกแล้ว คือยี่สิบสองย่างยี่สิบสามแล้วปะ ไม่น้อยแล้วนะ แต่ก็อาจจะเป็นเด็กน้อยในสายตาพี่เขาจริงๆนั่นแหละ เพราะพี่องศาแก่กว่าฉันตั้งแปดปี
แล้วที่เมื่อกี้ที่เขาพูดว่าเจอกันอาทิตย์หน้า เพราะฉันจะเข้าไปเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทพี่เขา ความจริงบริษัทพี่เพทายก็มีนะ แต่อาจารย์ไม่อนุญาติฝึกงานในบริษัทของครอบครัวตัวเอง พี่เพทายเลยฝากฉันให้ไปฝึกงานที่บริษัทของพี่องศาแทน
“ขับรถกลับดีๆนะคะ” ฉันหันไปพูดกับพี่เขาตามมารยาท ก่อนจะรีบหันกลับมา เพราะพี่องศายังจ้องมองฉันอยู่ตรงนั้น
“หึ งั้นกูกลับก่อนนะ” สิ้นเสียงพี่องศา เขาก็เดินผ่านฉันไปตรงหน้าประตูบานใหญ่ ฉันได้แต่นั่งมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไป แล้วก็นึกไปถึงสภาพพี่เขาก่อนหน้านี้อีกแล้ว
ยัยพราวฟ้า ทำไมแกเป็นคนแบบนี้นะ ฉันได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ
เอ๊ะ เหมือนฉันจะลืมอะไรไป ลืมแนะนำตัวกับทุกคนไง ใช่มั้ย เอ่อคือ ฉันชื่อพราวฟ้านะ มีพี่ชายสุดหล่อที่อายุห่างกันถึงแปดปีอยู่หนึ่งคนชื่อพี่เพทาย คนที่ใช้ฉันขึ้นไปตามเพื่อนเขานั่นแหละ
ตอนนี้ฉันเรียนมหาลัยปีสุดท้ายแล้ว กำลังจะเริ่มฝึกงานอาทิตย์หน้า ส่วนคนที่เพิ่งกลับไปเมื่อกี้ชื่อพี่องศาเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายฉันค่ะ ที่สำคัญหล่อมากถึงแม้อายุจะสามสิบแล้วก็ตาม แต่หน้าเหมือนยังยี่สิบต้นๆอยู่เลย
อีกอย่างคือฉันชอบเขา ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็คือชอบไปแล้ว แต่ฉันก็พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดเกินเลยมากไปกว่านี้ เพราะฉันรู้ดีว่ายังไงพี่องศาก็คงไม่มีทางสนใจผู้หญิงที่อายุห่างกับเขาเกือบสิบปีอย่างฉัน ที่สำคัญฉันเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทเขาด้วยไง เฮ้อ คิดแล้วเศร้าอยากขอเหล้าเข้มๆ
“พี่เพทาย เลิกดื่มแล้วขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะ เมาแล้วนะ” ฉันที่เห็นว่าพี่ชายตัวเองเริ่มจะนั่งเอนตัวไปมา ก็อดไม่ได้ที่จะลุกมาหาเขา
“เมาที่หนายยยยย ยังม่ายมาวววว” เมื่อกี้ยังพูดปกติอยู่เลย ตอนนี้เสียงเริ่มยานคางซะละ แล้วบอกว่ายังไม่เมา ฉันละเพลียกับพี่ชายสายดื่มของฉันจริงๆ เฮ้อ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา…. 08.30 น.
บริษัทฯ (วันแรกของการฝึกงาน)
“สวัสดีค่ะ หนูเป็นนักศึกษาฝึกงานที่จะเริ่มฝึกงานวันนี้ค่ะ”
ฉันเอ่ยบอกฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้าบริษัทของพี่องศาไป ก่อนที่พี่ผู้หญิงตรงหน้าจะตอบฉันกลับมาแล้วต่อสายหาใครสักคน
“เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ” ฉันพยักหน้าให้พี่เขาไปแทนคำตอบ และในขณะที่ฉันกำลังยืนรอพี่ผู้หญิงด้านหน้าโทรหาใครอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงนึงดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“พราว มาแล้วเหรอ” ฉันรีบหันไปตามเสียงเรียกจากคนด้านหลัง ก่อนจะพบว่าเป็นพี่องศา ที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉัน แล้วนี่ทำไมฉันจะต้องมองไปที่รูปร่างได้สัดส่วนในชุดสูทของพี่เขากัน บ้าจริง
“พ พี่องศา สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เขาทันที หลังจากที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้
“เดี๋ยวรอพี่แป๊บนึงนะ” พอพี่องศาพูดจบ เขาก็เดินไปคุยกับพนักงานที่นั่งตรงเคาน์เตอร์ทันที และ….
“ปะ ขึ้นไปข้างบนกัน เดี๋ยวพี่พาเราไป” พี่องศาเดินนำหน้าฉันไปหลังจากที่พูดจบ ซึ่งฉันก็เดินตามพี่เขาไปทันที
“กระโปรงจะสั้นไปไหน” ประโยคแรกที่เขาพูดกับฉันหลังจากที่เราสองคนเข้ามาอยู่ในลิฟต์ที่กำลังขึ้นไปยังชั้นยี่สิบที่เป็นชั้นบนสุด
“สั้นตรงไหนคะ นี่ไม่สั้นแล้วนะ คนอื่นใส่สั้นกว่าพราวอีก” คือวันนี้ฉันใส่กระโปรงทรงเอยาวเหนือเข่าขึ้นมาไม่กี่คืบเอง แค่นี้ไม่สั้นเลยนะ นี่พูดจริง
“เป็นเด็กเป็นเล็กกล้าเถียงผู้ใหญ่”
“พราวไม่เล็กแล้วนะ นี่โตแล้ว” ทำไมเขาชอบพูดเหมือนฉันเป็นเด็กอยู่ได้
“อืม ไม่เล็กแล้วจริงๆ” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะรีบหันหน้าไปทางอื่น แต่เมื่อกี้ฉันเห็นนะว่าเขาแอบมองหน้าอกฉันอะ ไอ้ที่ว่าไม่เล็กของเขานี่คือยังไง
“แล้วนี่เรากำลังจะไปไหนคะ” ฉันเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่พี่เขาเงียบอยู่นาน
“ไปห้องทำงานพี่” ไปห้องทำงานเขางั้นเหรอ ไปทำไมกัน และก่อนที่ฉันจะได้เอ่ยถามคำถามที่ตัวเองสงสัยเมื้อกี้ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกทันที นี่ถึงแล้วสินะ
“คุณองศา สวัสดีค่ะ” เมื่อเดินไปถึงโต๊ะทำงานที่อยู่ห่างออกมาจากประตูบานใหญ่ประมาณห้าสิบเมตรเห็นจะได้ ก็มีพี่ผู้หญิงคนนึงรีบลุกจากเก้าอี้แล้วยกมือไหว้พี่องศาทันที
“สวัสดีครับคุณสุนีย์ เรื่องที่ผมให้จัดการเสร็จแล้วใช่มั้ย”
“เสร็จแล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ” แล้วพอพี่องศาพูดจบ เขาก็เดินตรงไปห้องทำงานของเขาทันที และ…..
“ยืนทำหน้างงทำไม ตามมาสิ” เขาหันมาพูดกับฉันก่อนจะผลักบานประตูเข้าไป พอเห็นแบบนั้นฉันก็เดินตามพี่องศาไปติดๆ
“โต๊ะทำงานของพราว” พี่องศาพยักพเยิดหน้าไปตรงโต๊ะทำงานขนาดกลางที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ซึ่งฉันคิดว่าเป็นโต๊ะทำงานของพี่เขานั่นแหละ
“พี่จะให้พราวนั่งทำงานในนี้เหรอคะ?” ฉันถามคนตรงหน้าอย่างสงสัย
“ใช่ พี่จะให้พราวนั่งทำงานในห้องนี้กับพี่”
“แล้วใครจะสอนงานพราวละคะ พี่เหรอ?” อันนี้ฉันก็สงสัยอีกเหมือนกัน
“ก็ประมาณนั้น” ว่าไงนะ ระดับประธานบริษัทต้องลงมาสอนงานเด็กฝึกงานอย่างฉันเลยเหรอ บ้าไปแล้ว
“ก็พี่ชายพราวเล่นกำชับพี่ว่าต้องดูแลให้ดีๆ ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยงี้ พี่ก็ต้องดูแลเด็กน้อยอย่างเราเป็นพิเศษหน่อยสิ” เอาอีกละ ว่าฉันเป็นเด็กน้อยอีกละ
“อ่อ ลืมไปว่าไม่น้อยแล้ว ใหญ่พอตัวเหมือนกัน” ก่อนที่ฉันจะได้อ้าปากเถียงพี่องศาไป พี่เขาก็ชิงพูดออกมาซะก่อน แล้วอะไรคือใหญ่พอตัวกันเล่า บ้าจริง