‘ที่รัก’ ชื่อที่ถูกเมมไว้ขึ้นโชว์ แล้วใครกันคือที่รัก เพราะฉันจำได้ว่าไม่เคยเมมชื่อใครแบบนี้
“ใคร” เสียงเข้มเอ่ยถามทันที
“มะ...ไม่รู้ค่ะ”
“รับ แล้วเปิดสปีกเกอร์โฟน”
“เอ่อ...” ทำไมฉันต้องรับโทรศัพท์ให้คุณภีมฟังด้วยนะ
“จะรับเองหรือให้ฉันรับให้”
“ระ...รับแล้วค่ะ” ฉันว่าแล้วกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟนตามที่คุณภีมสั่ง
“สวัสดีค่ะ”
“รับสะเสียงหวานเลยนะ” เสียงผู้ชายดังออกมาจากลำโพง คำถามแรกของฉัน ใครกัน?
“เอ่อไม่ทราบว่าใครพูดคะ”
“อะไร ฉันพึ่งไปส่งมาวันนี้ก็ลืมกันแล้ว” ส่งวันนี้หรอ
“พี่อชิหรอคะ”
“ครับผม คิดว่าจะจำไม่ได้”
“.....” ฉันแอบเงยไปมองคุณภีมทันที และเค้าก็มองหน้าฉันด้วยสายตาที่นิ่งกว่าปกติ
“ฉันแค่จะโทรมาบอกว่าฉันถึงคอนโดแล้วนะ”
“อ๋อ ค่ะ” ฉันพูดอะไรไม่ออกแล้วล่ะ
“แล้วนี่ก็เบอร์ฉัน มีอะไรโทรหาฉันได้ตลอดเวลา”
“ค่ะ” ฉันตอบรับกลับไป แต่ไม่คิดว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องโทรไปรบกวนพี่อชิอยู่แล้ว
“งั้นแค่นี้นะ ฉันอาบน้ำก่อน”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ” แล้วฉันก็วางสายไปแล้วก้มหน้าทันที ตอนนี้รู้สึกถึงรังสีความไม่ปลอดภัยอย่างมันแรงมาก
“ก่อนหน้านี้ฉันบอกเธอว่าอะไร” แล้วเสียงเข้มก็เอ่ยออกมาทันที
“เอ่อ...”
“ฉันถามว่าอะไร!”
“เฮือก” ฉันสะดุ้งทันที แค่เค้าพูดเสียงปกติฉันก็กลัวแล้ว นี่เค้าตะคอก ไม่แปลกที่ฉันจะสะดุ้งกลัว
“ขัดคำสั่งฉัน อยากเจ็บตัวมากใช่ไหม”
“มะ...ไม่ค่ะ น้ำมนต์ไม่อยาก” ฉันเงยหน้าไปปฏิเสธคุณภีม
“ไม่อยากแล้วขัดทำไม”
“น้ำมนต์ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์พี่อชิ”
“หึ พี่อชิ?”
“.....” รอยยิ้มมุมปากแบบนี้มันไม่ได้ทำให้ฉันโล่งใจเลยสักนิด
“กล้าดียังไงเรียกมันว่าพี่”
“ก็เค้าเป็นรุ่นพี่” ฉันตอบเสียงเบา
“แล้วคิดว่าจะเรียกยังไงก็ได้หรอวะ!”
“น้ำมนต์เห็นเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย น้ำมนต์ก็เลยเรียกพี่” ฉันก้มหน้าตอบกลับไปอย่างเร็ว
“หึ แล้วชื่อที่เมมว่าที่รัก มันหมายความว่ายังไง”
“น้ำมนต์ไม่รู้ค่ะ”
“ไม่รู้ได้ยังไง ในเมื่อนี่มันโทรศัพท์เธอ!”
“น้ำมนต์ไม่รู้จริงๆ น้ำมนต์ก็พึ่งรู้ว่าเป็นเบอร์พี่อชิเมื่อกี้เหมือนกัน”
“โทรศัพท์เธอมันคงร่านเมมชื่อผู้ชายเองใช่ไหม”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ”
“แล้วยังไง!”
“.....” มันคงจะเป็นตอนที่พี่อชิเค้าเอาโทรศัพท์ไปสินะ แล้วพี่อชิจะเมมชื่อตัวเองแบบนั้นทำไมกัน หรือเค้าคงแกล้งฉันเล่น
“เงียบทำไม!”
“อึก” ฉันสะดุ้งอีกครั้งกับเสียงตะคอกของคุณภีม
“เลิกยุ่ง...” ไลน์ ไลน์ ไลน์ คุณภีมที่กำลังจะพูดต่อ แต่เสียงไลน์เครื่องฉันก็ดังแทรกขึ้นมาอีกรอบ ฉันได้แต่กำโทรศัพท์ไว้แน่น เพราะเห็นว่าใครเป็นคนส่งไลน์มา เพราะฉันยืนก้มหน้าแทบไม่ได้เงยขึ้นไปเลยไง
“ใคร” อีกแล้ว เสียงแข็งอีกแล้ว
“พะ...เพื่อนค่ะ”
“แล้วทำไมต้องเสียงสั่น”
“ปะ...เปล่าค่ะ”
“เอามาดู”
“เพื่อนน้ำมนต์จริงๆค่ะ คุณภีมอย่าดูเลย” ฉันบอกแล้วพยายามถอยห่าง
“เพื่อนจริงๆก็เอามาดู!” คุณภีมพูดพร้อมขยับเข้ามาใกล้ฉัน
“.....” ฉันกำแน่นกว่าเดิม เพราะไม่อยากให้คุณภีมดู
“เอา มา นี่”
“พะ...เพื่อนส่งมาเรื่องงาน คุณภีมไม่ต้องดูหรอกนะค่ะ” ฉันทำใจกล้าปฏิเสธออกไป ถ้าเค้าเชื่ออย่างน้อยฉันก็รอดเรื่องไลน์พี่อชิไปไง แต่...
พรึบ คุณภีมกระชากโทรศัพท์จากมือฉันไปอย่างแรงทันที
“คุ...คุณภีม”
“หึ เพื่อน” คุณภีมดูโทรศัพท์แล้วกระตุกยิ้มร้ายออกมา มันทำให้ฉันเสียวสันหลังไปหมด
“.....” ฉันเม้มปากแน่นก้มหน้าหนีสายตาของคุณภีม
“เธอว่าวันนี้เธอทำให้ฉันไม่พอใจกี่เรื่องน้ำมนต์” ได้ยินคุณภีมเรียกชื่อฉันเมื่อไหร่ฉันแบบนี้ไม่ต้องถามเลยว่าเค้าไม่พอใจแค่ไหน เพราะคุณภีมไม่ค่อยเรียกชื่อของฉันเลย
“น้ำมนต์ขอโทษค่ะ”
“ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหม ว่าเอาเวลาที่ขอโทษมาคิดวิธีที่ไม่ทำให้ฉันต้องไม่พอใจ”
“น้ำมนต์ขอโทษ” รู้ว่ามันไม่ได้ทำให้คุณภีมเห็นใจ แต่ฉันก็ยังพูดมันออกไป
“แล้วฉันเคยบอกเธอเหมือนกันใช่ไหม ว่าคนผิดต้องถูกลงโทษ”
“คุณภีม...” ฉันเรียกคุณภีมพร้อมกับมองหน้าด้วยสายตาที่อ้อนวอน เพราะไม่อยากให้เค้าลงโทษฉัน ยิ่งเค้าไม่พอใจฉันหลายเรื่องพร้อมกันแบบนี้ด้วย ฉันไม่รู้เลยว่าเค้าจะทำอะไรฉัน
ไลน์ ไลน์ ไลน์ และเสียงไลน์ก็ดังขึ้นอีก ฉันไม่รู้ว่าเป็นไลน์ใครเพราะโทรศัพท์ยังอยู่ที่คุณภีม และเป็นไปไม่ได้ที่เค้าจะไม่มองมัน
“หึ ร่านดีนี่” สิ่งที่คุณภีมพูดออกมาฉันไม่รู้ว่าเค้าเห็นอะไร แต่ฉันคิดว่าคนที่ส่งมาต้องเป็นผู้ชายแน่ เพราะวันนี้มีคนมาขอไลน์ฉันหลายคน และหมวยกับกัสจังก็เป็นคนให้ไปทั้งนั้น
“น้ำมนต์ขอคืนได้ไหมคะ” ฉันทำใจกล้าขอโทรศัพท์คืนจากคุณภีม
“ทำไม จะรับไปตอบพวกมันหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ น้ำมนต์แค่จะเข้าห้อง” ฉันไม่ได้อยากตอบใครทั้งนั้นแหละ เพราะฉันไม่ได้อยากคุยกับใคร
“คิดว่าฉันเชื่อ?”
“.....” น้ำมนต์ก็ไม่ได้หวังว่าคุณภีมจะเชื่ออยู่แล้ว
“ได้ไปกี่คนแล้วล่ะ ไลน์รัวขนาดนี้”
“.....” ฉันไม่รู้ว่าเค้าจะพูดแบบนี้ทำไม ทั้งที่ฉันไปเรียนเสร็จก็กลับห้องเลย ไม่เคยได้ไปไหน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเหลวไหล
“ถามทำไมไม่ตอบวะ!”
“น้ำมนต์ไม่เคยทำตัวแบบนั้น ทำไมคุณภีมต้องว่าแบบนี้ด้วยคะ” มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องมาพูดแบบนี้ แต่ถ้าไม่พูดก็ไม่ได้ คุณภีมจะยิ่งเข้าใจผิดไปใหญ่อีก แต่พออธิบายก็หาว่าแก้ตัว
“หึ ไม่เคย แล้วไลน์รัวๆแบบนี้คืออะไรวะ มันติดใจอะไรกันถึงได้พากันรัวไลน์หาเธอแบบนี้”
“.....”
“ถามก็ตอบ!”
“น้ำมนต์ไม่มีอะไรจะตอบ พูดอะไรไปคุณภีมก็ไม่เคยเชื่อน้ำมนต์” พูดไปเค้าก็ไม่เชื่อจริงๆ แล้วจะมาบังคับให้ตอบเพื่ออะไร
“นี่กล้ายอกย้อนฉันหรอ”
“น้ำมนต์ไม่ได้คิดแบบนั้น”
“ไม่ได้คิดก็ตอบมา!”
“ก็น้ำมนต์ไม่มีอะไรตอบนี่คะ น้ำมนต์บอกไปหมดแล้ว”
“แล้วที่เธอบอกมาหมดแล้ว มันมีความจริงกี่อย่าง หรือว่าโกหกเอาตัวรอดทุกอย่าง”
“น้ำมนต์ไม่เคยโกหกคุณภีมค่ะ น้ำมนต์บอกความจริงทั้งหมด”
“ถ้างั้นก็บอกมาว่าไปให้ไลน์พวกมันทำไม”
“เพื่อนน้ำมนต์เป็นคน น้ำมนต์ไม่ได้ให้”
“แล้วทำไมเพื่อนเธอต้องให้ ปากเธอไม่มีปฏิเสธหรือไง!”
“ก็เค้ามาขอ เพื่อนน้ำมนต์ก็แค่ให้ไปแค่นั้นเอง”
“แล้วถ้ามันมาขอให้เธอไปนอนกับมัน เธอก็คงให้สินะ”
“ฮึก คุณภีม...”
“ดี งั้นฉันก็ขอ ขอให้เธอไปอยู่ห้องเก็บของสักสามวันแล้วกัน”
เจ้านายเค้าไม่อนุญาตให้ลูกน้องคุยกับผู้ชายอื่นหรอคุณภีม