บทที่ 3
แสดงละคร
จากความสัมพันธ์ที่ถลำลึกวันนั้นเหมือนมันจะหยุดพวกเขาไม่ได้ ทั้งสองยังลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกันอีกหลายครั้ง
นิวเคลียร์กลอกตามองบนกับคำพูดร้ายกาจของแดเนียล เธอยังคิดย้อนกลับไปวันนั้น หากไม่โง่ถูกวางยา เธอคงไม่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้กับแดเนียล
ชายหนุ่มเดินเข้ามารั้งเอวบางไว้แล้วประกบปากจูบนิวเคลียร์ แต่เธอกลับผลักหน้าเขาออกแล้วถอยออกห่าง "ก็บอกว่าไม่ชอบให้จูบหลังตอนนายสูบบุหรี่เสร็จไง" หญิงนางบอกด้วยความหงุดหงิด
"เดี๋ยวก็ชินเอง" แดเนียลไม่สนใจคำห้ามปราม แถมยังสอดมือลงไปใต้ชายกระโปรงเธอ ลูบไล้หน้าขาขาวเนียนพลางเปล่งเสียงครางกระเส่าใกล้หูนิวเคลียร์
ครืด~
โทรศัพท์เจ้ากรรมดันสั่นสะเทือนอยู่ในมือเขาทำแดเนียลหงุดหงิด พอเห็นชื่อคนที่โทร. เข้ามาโชว์หราอยู่หน้าจอ เขายิ่งหงุดหงิดจนเผลอสบถคำหยาบคายออกมา
"มีไร ร้อยวันพันปีไม่เคยโทร. หากู" ผู้เป็นน้องกรอกเสียงแข็งกร้าวถามกลับพี่ชายแท้ๆ ที่โทร. เข้ามาแทบจะนับครั้งได้
(เย็นนี้ สิบเจ็ดโมงพร้อมหน้ากันที่บ้าน)
"ไม่ไปอะ เบื่อขี้หน้ามึง" เสียงคนปลายสายพ่นลมหายใจออกหนักๆ
(แม่อยากเจอ จะไม่มาก็เรื่องของมึง) หากไม่ใช่เรื่องที่แม่ขอไว้ดีแลนคงไม่โทร. หาน้องชายเป็นแน่ มีกันแค่สองคนแต่ก็ไม่ลงรอยกันเท่าไรเลย แต่เขาก็รู้ว่าจริงๆ แล้วไอ้น้องชายตัวแสบเนี่ยมันก็แอบเป็นห่วงเขาอยู่ แม้มันจะปากแข็งและปากหมาบ้างก็เถอะ
"เออ! ไม่ต้องเสือกโทร. ตามด้วย น่ารำคาญ!" พูดจบแดเนียลก็ตัดสายพี่ชายทันที แต่พอหันกลับมามองหานิวเคลียร์ เธอก็หายไปแล้ว "แม่งเอ๊ย!" เขารู้สึกหัวเสียทุกครั้งที่นิวเคลียร์ออกไปข้างนอกโดยไม่บอกพิกัดเขาว่าจะไปที่ไหนกับใคร
17:00
แดเนียลเดินอาดๆ เข้ามาในบ้านแต่ต้องหยุดเท้ากะทันหันเมื่อหางตาเหลือบเห็นเงาคนคนหนึ่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เขาจึงเปลี่ยนใจเดินไปที่ห้องนั่งเล่นก่อน พอมาถึงใบหน้าหล่อเหลาก็พลันแสดงออกถึงความเหนื่อยหน่ายที่เห็นพี่ชายนั่งทำงานอยู่
"ไง ไหนบอกไม่มา" ดีแลนคุณชายใหญ่ของบ้านเอ่ยถามน้อยชายคนเดียวของเขาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน แต่แดเนียลกลับทำหน้านิ่ง
"เลิกยิ้มแบบนั้นเถอะ ไม่ต้องแสดงเหมือนรักกันมากขนาดนั้นก็ได้"
"ก็ปกติ ฉันเคยทำหน้าไม่ดีใส่นายด้วยเหรอ" ผู้เป็นพี่ถามกลับเสียงเรียบ คนถูกถามทำหน้าระอาแล้วทำท่าปาดคอ
"แค่นั่งเฉยๆ อะ"
"ทำไม"
"แค่นั่งอยู่เฉยๆ ยังกวนตีนเลย" แดเนียลกอดอกแล้วหยิบเอกสารสำคัญของพี่ชายมาอ่านคราวๆ "ทำไมไม่ให้เลขาฯ คนสวยช่วย เอางานมาทำเองทำไม เหนื่อยจะตายชัก" เขาสะบัดเอกสารลงไว้ที่เดิมก่อนจะหันไปมองพ่อกับแม่ที่กำลังเดินยิ้มหน้าบานเข้ามาหาพวกเขาสองคน
"ลูกชายคุณแม่..." ขวัญข้าวสวมกอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้งสองคนด้วยความคิดถึง เดนนิสเองก็เช่นกัน "แดนลูก ดูผอมไปไหมครับ" เธอสำรวจร่างกายและลูบไล้แก้มนุ่มๆ ของลูกชายคนเล็ก
"ไม่ผอมหรอกครับ ไม่เหมือนพี่ดีนที่ผอมเหมือนไม้เสียบผี" ชายหนุ่มแสยะยิ้มมุมปากกระแนะกระแหนพี่ชายแล้วหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ ก่อนที่ขวัญข้าวจะหันไปสวมกอดลูกชายคนโต
"พี่ดีนดูมีกล้ามขึ้นเยอะเลยนะลูก"
"ครับ ช่วงนี้พอมีเวลาออกกำลังบ้าง"
"ดีลูก จะได้แข็งแรงๆ ลูกไม่มาหาแม่ เลยต้องโทร. นัดมากินข้าวกะทันหันแบบนี้แหละ"
"พวกแกทำแม่คิดถึงหนัก" เดนนิสพูดขึ้นก่อนที่เขาจะโอบเอวภรรยาแล้วเดินนำลูกชายสองคนไปที่ห้องรับประทานอาหาร แดเนียลจิ๊ปากใส่พี่ชายด้วยความหมั่นไส้
"บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความสุข ทุกคนพูดคุยกันปกติจนกินข้าวอิ่มกันทุกคน ดีแลนขอตัวกลับก่อนเพราะงานเขาค่อนข้างยุ่ง ส่วนแดเนียลก็ขอตัวกลับเพราะต้องทำงานเหมือนกัน แต่งานเขากับงานพี่ชายอาจจะไปคนละแนวทางกัน ทั้งสองเดินเคียงกันออกมาจากบ้านเพราะรู้ว่าแม่ดูอยู่ด้านหลัง และจบด้วยการสวมกอดกัน
"เดี๋ยวนี้สกิลการแสดงมึงดีขึ้นเยอะเลยนะ" แดเนียลกระซิบบอกพี่ชายขณะที่กอดกันอยู่หน้าบ้าน ดีแลนลูบหลังน้องชายเบาๆ แล้วตอบกลับ
"สกิลการกวนตีนมึงก็ใช่ย่อยเหมือนกันนะน้องชาย"
"เลิกกอดกูเถอะ จะอ้วกแล้วเนี่ย"
"มึงผละออกก่อน" พี่ชายสั่ง
"พร้อมกัน!" ทั้งสองนับหนึ่งสองสามแล้วผละออกจากกัน
"ไว้เจอกันใหม่นะครับพี่ดีน" (ไอ้พี่เวร) แดเนียลกัดฟันยิ้มให้พี่ชายส่วนดีแลนแสยะยิ้มมุมปากก่อนจะตอบกลับน้องชายบ้าง
"แล้วเจอกันแดน..." (ไอ้น้องเวร) ประโยคสุดท้ายเขาพูดมันในใจแล้วทั้งสองก็หันหลังเดินแยกไปคนละทาง
"ลูกเราสองคนรักใคร่กลมเกลียวกันดีจังเลยนะคะ...ฉันปลื้มใจจังเลยค่ะ" ขวัญข้าวน้ำตาคลอเมื่อเห็นลูกทั้งสองรักใคร่กันดี
"ผมก็ว่าแบบนั้น…" เดนนิสยิ้มแหย ๆ แล้วพาภรรยาเข้าบ้าน