งานหมั้นหมายของทั้งสองนั้นถูกจัดอย่างเป็นส่วนตัว แต่ก็อลังการสมหน้าตาฐานะของทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก ทั้งสองสวมชุดไทยที่ดูสง่างามนั่งเคียงกันพร้อมกับสินสอดทองหมั้นที่เต็มไปด้วยเงิน ทอง และเครื่องประดับหรูหราวางใส่พาน พร้อมกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาเป็นสักขีพยานระหว่างการหมั้นของทั้งสองคน
“ไม่นึกเลยวว่าบลูสวมชุดไทยแล้วจะหล่อแบบนี้ เหมือนท่านเจ้าคุณสมัยก่อนเลยนะคะ” เฌอริมาแอบกระซิบบอกคู่หมั้นของเธอ
“คุณกสวยมากเหมือนกันริมา” บริณัยยิ้มอย่างสุภาพ ในแววตาแม้ไม่ได้เปิดเผยถึงความรักอย่างเอ่อล้นของฝ่ายชาย แต่ไม่อาจทำลายความมั่นใจในความรักที่เฌอริมามีต่อเขา เธอรู้อยู่ลึก ๆ ว่าทั้งรอยยิ้มและแววตาของชายหนุ่มไม่ได้มีรักที่มากล้นแบบที่เธอมี แต่เธอก็แสร้งมองข้ามมัน และมุ่งมั่นตั้งใจทำให้เขารักเธอมากขึ้น ๆ อย่างใจเย็น เฌอริมาก้มลงกราบที่ตักของบริณัยเมื่อเขาสวมแหวนให้เธอ เป็นอันจบพิธีหมั้นอันสุดแสนสวยงามในเวลาไม่กี่ชั่วไมงได้ในที่สุด
หลังจากเสร็จสิ้นพิธี บริณัยก็ถูกผู้ใหญ่เรียกไปพูดคุยที่โต๊ะอาหาร เฌอริมาเลยปลีกตัวออกมานั่งกับเพื่อน ๆ ของเธอแทน
“อร๊ายยยย ยินดีด้วยจ้ะริมา” เสียงของเพื่อนสาวที่มาร่วมฉลองนั้นดังขึ้นด้วยความดีอกดีใจ แม้จะมีความอิจฉาปนเข้ามาแต่เฌอริมาก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะงานนี้เธอถือว่าเธอได้สำเร็จไปอีกขั้นแล้ว
“ขอบใจจ้ะ แล้วก็ขอบใจมาก ๆ นะที่มา ไว้งานแต่งฉันจะตัดชุดเพื่อนเจ้าสาวส่งไปให้ทุกคนเลย” เฌอริมามองไปที่เพื่อน ๆ บนโต๊ะแล้วโปรยยิ้มให้อย่างมีความสุข
“เป็นไงบ้างอาย กินอะไรบ้างรึยัง” เฌอริมาไม่ลืมที่จะหันมาหาพื่อนสนิทของเธอ ที่บัดนี้นั่งตัวแข็งทื่อไร้อารมณ์อย่างเหม่อลอย
เธอแอบเหยียดยิ้มก่อนจะเรียกอีกฝ่ายซ้ำอีกรอบ “อาย”
“อะ จ้ะริมา เธอว่าอะไรนะ” อารียาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันไปหาเฌอริมา
“อะไรกัน ใจลอยไปถึงไหนเนี่ย เมื่อกี้ไม่ยินดีกับเพื่อนเธอหน่อยเหรอจ๊ะ” เฌอริมาทำท่างอนใส่
“เปล่าจ้ะ ยินดีด้วยนะริมา พอดีเรามีเรื่องงานที่ยังทำไม่เสร็จก็เลยเผลอจิตหลุดไปน่ะ” อารียาแสร้งยิ้มก่อนจะโผกอดเฌอริมาเอาไว้ ในใจรู้สึกเหมือนถูกหนามเล็ก ๆ ทิ่มตำแต่ก็ยังพยายามฝืนยิ้มออกไปให้มากที่สุด
“จ้า ยังไงก็ขอบใจที่มางานด้วยนะ” เฌอริมายิ้มอย่างมีความสุขพลางลูบหลังเพื่อนสาวไปด้วย
“จ้ะ ยินดีเสมอ” อารียาค่อย ๆ ดึงตัวออกจากเพื่อนรักช้า ๆ
“ไว้งานแต่ง ฉันจะให้เธอเป็นเพื่อนเจ้าสาวคนแรกของฉันเลย”
เฌอริมายิ้มพลางสบตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าที่ปิดไม่มิดของอารียาอย่างจงใจ ซึ่งอารียาก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มอย่างยากลำบาก เห็นดังนั้นแล้วแม้จะรู้สึกผิดแต่เฌอริมาก็พึงพอใจไม่น้อย อารียาแม้ไม่มีเท่าเธอ แต่อารียามีสิ่งที่เธอไม่มี คือคนที่รักและหวังดีด้วยใจจริง เป็นสิ่งเดียวที่เธอรู้สึกอิจฉาเพื่อนคนนี้ตลอดมา
“ขอบใจนะริมา วันนี้เธอสวยจริง ๆ”
“ขอบใจมากอาย”
“นี่ ริมาเธอได้เข้าห้องน้ำบ้างรึยัง ไปเติมหน้าหน่อยมั้ย” เพื่อนอีกคนทักขึ้น
“อ้อ....ขอบใจจ้ะลืมไปเลย งั้นขอตัวก่อนนะขอไปดูเครื่องสำอางหน่อย”
เฌอริมาส่งยิ้มให้เพื่อน ๆ ก่อนจะเดินไปอีกทางหนึ่งของห้องจัดเลี้ยงที่มีห้องน้ำอยู่ด้านหลัง หญิงสาวเดินไปไม่นานก็สะดุดกับชายผ้าที่ยาวคลุมข้อเท้าทำให้เธอเสียหลักและกำลังจะล้มลง แต่...
“ระวังนะครับ”
เสียงทุ้มที่ไม่คุ้ยเคยดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มหน้าตาดี แต่แววตาของเขาแฝงไปด้วยความลึกลับน่าสงสัย เขาคว้าแขนของเฌอริมาเอาไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะล้มหน้าคะมำไปกับพื้น การที่เขาฉุดตัวเธอไว้ ทำให้ร่างเธอเซถลาไปปะทะกับแผงอกแกร่งแทน หัวใจของ
เฌอริมาเต้นระรัวด้วยความตกใจ เพราะหากเธอล้มไปหน้าของเธอต้องกระแทกกับพื้นเป็นแน่
“ขะ ขอบคุณค่ะ” เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแก้มที่ค่อยๆ แดงระเรื่ออย่างไม่ตั้งใจ
“ยินดีครับ สวมชุดแบบนี้ต้องระวังหน่อยนะครับ” สายตาคมที่จ้องมาทำให้เฌอริมารู้สึกแปลก ๆ บอกไม่ถูก
“คุณมาร่วมงานหมั้นของเราเหรอคะ” เฌอริมาค่อย ๆ พยุงตัวแล้วขยับออกห่างจากชายแปลกหน้าช้า ๆ เธอไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อนทำให้เกิดความสงสัย
“อ้อ...ผมแค่แวะมารับเพื่อนน่ะครับ”
“อ๋อค่ะ”
“งั้นผม...ขอตัวก่อนนะครับ”
เขายิ้มมุมปากอย่างมีเสน่ห์ เป็นรอยยิ้มร้ายที่ทำให้เฌอริมารู้สึกหัวใจเต้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกนี้คืออะไร เธอพยักหน้าตอบรับอีกฝ่าย แล้วมองดูแผนหลังกว้าง ที่ค่อย ๆ เดินหายไปจากครรลองสายตา
“ริมา!”
เธอเรียกชื่อตัวเองราวกับจะบอกว่าตัวเองต้องมีสติแล้วเดินไปที่ห้องน้ำอย่างที่ตั้งใจเดี๋ยวนี้ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดแผ่นหลังนั้นยังคงสะกดสายตาเธอจนเธอไม่อาจทำอะไรต่อได้หลังจากนั้นไปชั่วครู่ เหมือนกับว่าเธอโดนมนตร์สะกดจากชายแปลกหน้าที่เธอไม่เคยพบเคยเห็นอย่างไม่รู้ตัว
“อ้าวริมา” เสียงใส ๆ ของอารียาดังขึ้นทำให้เฌอริมารู้ตัว
“อ้าว อาย” เธอหันไประบายยิ้มให้อารียา
“ยังไม่ไปห้องน้ำอีกหรอ”
“อื้ม พอดีเดินลำบากน่ะชุดนี้”
“งั้นไป เดี๋ยวฉันไปด้วย”
อารียายิ้มแล้วคว้าแขนของเฌอริมาไว้เพื่อให้ช่วยให้เดินสะดวกขึ้น เฌอริมารับรู้ถึงความใจดีของเพื่อนสาวเป็นอย่างดี แต่ความรู้สึกหมั่นไส้กลับเข้ามาแทรกระหว่างเธอและอารียาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
‘ทำไมต้องมาดีกับฉันด้วยนะ นี่ฉันแย่งคนที่เธอแอบรักมาไม่ใช่เหรอ’
เฌอริมาคิดในใจแต่ก็เดินตามเพื่อนรักไปแต่โดยดี