2-3 นางมาเพื่อช่วยเหลือ ****

1197 คำ
นางเป็นผู้มีวาจาร้ายกาจนัก เทพหลงเหนียนส่ายหน้าไปมา พลิกฝ่ามือใช้เวทที่มีลักษณะเป็นสายสีดำดึงตัวนางเข้ามา มือข้างหนึ่งกระชับเอวนางไว้ไม่ให้ดิ้นหนี อาเป้ยเบิกตากว้างตกใจ “ทะ ทะ... ท่านเทพหลงเหนียน ข้าไม่ได้มีความหมายจะล่วงเกินท่าน ข้าแค่เป็นคนพูดตรงไปตรงมา *****เท่านั้น ข้าขออภัย!” นางยกมือคารวะ เทพหลงเหนียนกลับรีบปัดมือนางออกอย่างรำคาญ จับเอวนางแน่นเต็มฝ่ามือ เอวของนางเล็กมากแค่กำมือเดียว “ข้าจะรักษาแผลให้เจ้า เจ้าตกใจอะไร?” ใบหน้านางเห่อร้อน แดงไปถึงใบหู นางกำลังถูกล่วงเกินแม้ท่านเทพจะแค่รวบเอวนางไว้ ยกฝ่ามือขึ้นปล่อยไอเย็นสีขาวจาง ๆ ส่งผ่านมาถึงคอนาง ทำให้แผลของนางประสานกัน “ทะ... ท่านอาจารย์ฮุ่ยหมิงสั่งไม่ให้ข้าเข้าใกล้บุรุษเกินสามย่างก้าว ข้าจะต้องระวังตัว... แล้ว ๆ ท่านควรขออนุญาตข้าก่อน... จับตัวข้ารักษาหรือทำอะไรก็ตาม ข้ารอให้แผลหายเองได้ท่านเทพหลงเหนียน... ช่วยปล่อยข้า...” “ปีศาจนั่นเพิ่งจะกอดคอเจ้าอย่างสนิทสนมทีเดียว นับเป็นบุรุษด้วยหรือไม่?” “เหตุสุดวิสัย นับไม่ได้ ท่านเทพหลงเหนียน...” เทพหลงเหนียนนึกขันนางขึ้นมาว่านางคิดอะไรไม่เข้าท่า แสยะยิ้มตรงมุมปาก “ข้าไม่ใช่เทพผู้น่ากลัวเกรงถึงเพียงนั้น ข้าเสกฟ้าฝนทำลายโลกมนุษย์ไม่ได้ ท่านพ่อข้าเป็นชนเผ่ามังกรบนสวรรค์ ท่านแม่ข้าเป็นปีศาจงู ข้าชื่ออู่เฉิน” พูดจบ บาดแผลที่ได้รับการดูแลอย่างดีด้วยพลังเพียงเล็กน้อยจากฝ่ามือเทพ จางหายไปจนเหลือเพียงขีดสีแดงจาง ๆ บุรุษเทพจึงปล่อยนางให้เป็นอิสระ “ข้าอนุญาตให้เจ้าเรียกข้าว่าเทพอู่เฉินได้” “ท่าน... เทพอู่เฉิน?” “ใช่แล้วอาเป้ย ข้าคือเทพอู่เฉิน หาใช่เทพหลงเหนียนเยี่ยงมนุษย์กล่าวอ้าง และข้าคงเป็นผู้ไร้เกียรติเป็นอย่างมาก จึงไม่ได้บอกเจ้าว่าไม่มีเทพหลงเหนียนบนเทวโลก ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดชื่อเทพหลงเหนียน” ในน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงต่างจากวันแรก บอกความจริงกับนาง อาเป้ยหน้าตะลึงมองเทพตรงหน้า หายนะมาเยือน! ทั้งหยกพันปี ท่านเทพหลงเหนียนผู้ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์เข้าใจ ดันเป็นครึ่งเทพครึ่งปีศาจชื่ออู่เฉิน ****ǔ chén หากเป็นเช่นนี้... ชะตาชีวิตอันแสนอาภัพของนางจะเป็นอย่างไรต่อไป “แล้ว... ท่านเพิ่งจะมาบอกข้าเนี่ยนะ!” ข้ารับใช้ผู้ถูกบริภาษว่าไม่มีมารยาท เริ่มปฏิบัติดีกับนาง ยังเล่าให้นางฟังว่าเทวโลกตอนนี้สถานการณ์ยุ่งเหยิง เทพและปีศาจไม่ลงรอยกัน จากดินแดนสวยงามที่รวมกันเป็นหนึ่ง มีบาดหมางกันบ้างแต่ก็ไม่มากเท่านี้ กลายเป็นว่าต่างฝ่ายเริ่มแบ่งพรรคพวก เทพผู้ทรงศีลอย่างแรงกล้าถูกก่อกวนจากปีศาจ อสูร สัตว์อสูร จนไม่สามารถบำเพ็ญเพียรได้ สำหรับภพภูมินี้คือเทวโลกชั้นที่หนึ่ง ทิศประจิมปกครองโดยผู้เฒ่าเต่าผู้มีอายุร่วมหมื่นปี หรือที่หลายคนเรียกกันว่าใต้เท้าจีกง ภพภูมินี้นับเป็นเทวโลกใกล้เคียงกับโลกมนุษย์ เทพและปีศาจมีกายหยาบ มีเลือดเนื้อร่างกายใกล้เคียงมนุษย์ แต่มีอายุยืนยาวเช่นเหล่าเทพในทุกภพภูมิ หากออกไปนอกอาณาเขตจะกลายร่างตามเผ่าเดิมของตน อู่เฉินถูกส่งให้มาอยู่ที่เรือนนี้ไม่กี่สิบปี เพื่อสงบศึกเทพและปีศาจให้อยู่ร่วมกันให้ได้ หลังจากที่ราชาแห่งสวรรค์ ***มีความเห็นว่าควรส่งผู้เป็นครึ่งเทพครึ่งปีศาจลงมาจัดการช่วยเหลือใต้เท้าจีกงอีกแรงหนึ่ง ทว่า... เทพและปีศาจไม่เคยอยู่ร่วมกันได้มาแต่สมัยไหน หากไม่เป็นเพราะอู่เฉินเป็นบุตรชายเพียงหนึ่งเดียวของทั้งเทพและปีศาจ มีแนวโน้มว่าอาจจะสานสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ อย่างน้อย ๆ ไม่ให้ต้องฆ่าฟันกัน ไม่ให้ปีศาจไปรบกวนเทพมากนัก ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ระรานกันก็ยังดี “แล้ว... มนุษย์เช่นข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังไง ทำไมท่านต้องคาบเครื่องสังเวยกลับมา” “ท่านอู่เฉินได้รับคำทำนายจากแม่เฒ่าเมื่อครั้งไปบำเพ็ญเพียร เรื่องเจ้าสาวของมนุษย์ผู้เป็นเครื่องสังเวยท่าน มีเพียงหนึ่งเดียว นางจะนำมาซึ่งความสงบ แต่ก็อาจทำลายตัวท่านและเทวโลกที่ท่านอาศัยอยู่ได้เช่นกัน” อาเป้ยเบิกตากว้าง นางว่านางขอกลับไปหาบน้ำอยู่วัดอย่างเดิมกับหลวงจีนหัวล้านเสียยังจะดีกว่า! ยิ่งลูกสมุนงูพยายามยัดเยียดข้อมูลหลายอย่างเข้าสู่สมองนาง นางยิ่งเวียนหัว “อีกเรื่องหนึ่ง... หากท่านอู่เฉินไม่ไปเอง การจะให้ท่านแม่ของท่านไปรับเครื่องสังเวย... เฟยอี๋ ***เจ้าเคยได้ยินตำนานของนางหรือไม่?” “จะเกิดอุทกภัยใหญ่ แม่น้ำแห้งเหือด ฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทุกที่แห้งแล้งหากนางปรากฏตัว” “ใช่ และที่สำคัญที่สุด เจ้าถูกกลืนลงท้องอย่างแน่นอน ต่อให้เจ้าจะมีเกราะกำบังของอาจารย์ฮุ่ยหมิงก็ไม่อาจรับประกันว่าเจ้าจะรอด หากเจ้ารอด นางอาจสังหารเจ้าทันทีที่มาถึงเทวโลก” “เอ้า... ทำไมนางจะต้องสังหารข้าด้วยเล่า ข้าไปทำอะไรให้นาง” อาเป้ยโวยวาย “เฟยอี๋ นางเป็นปีศาจงูที่มีพลังมากในนรกภูมิชั้นลึกสุด นางถูกราชาแห่งสวรรค์กักขังเอาไว้ วันหนึ่งนางหลุดรอดออกมา จึงไปล่อล่วงท่านเทพสวรรค์คราวเผชิญด่านเคราะห์ให้เกิดกามารมณ์ จนได้ถือกำเนิดครึ่งเทพครึ่งปีศาจขึ้นมา การกระทำของนางล้วนแล้วแต่ไร้เหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น นางทำเพราะชื่นชอบสนองอารมณ์คึกคะนองของตน” “เอ้อ... ข้าเข้าใจแล้วล่ะ” ปัญหาครอบครัว... ปัญหาเรื่องการควบคุมสติอารมณ์ ยากจะแก้ไข นางถอนหายใจพลางทิ้งตัวนอนลงบนที่นอนของนาง บ่าวงูยืนอยู่ข้างเตียงนาง กลัวจะถูกนางกล่าวหาว่าไม่มีมารยาทอีกจึงถาม “ไม่มีคำถามรึ?” “ไม่มี ๆ ข้าปวดหัวกับพวกท่านเหลือเกิน ข้าว่าข้านอนดีกว่า” อาเป้ยไม่ถามต่อ ถึงแม้ว่านางจะไม่ลืมเรื่องที่ตนได้รับรู้ความจริง การที่พวกเขาเริ่มให้เกียรตินางหลังถูกนางบริภาษว่าเสียใหญ่โต นางจึงถามชื่อบ่าวทั้งสองเสียหน่อย งูสองพี่น้อง ตนหนึ่งชื่อซื่อหยูอี้ *****ūyùyí งูขาว ส่วนเซียวอี้หรู ******ǎoyù rú บุรุษร่างใหญ่กำยำคงจะเป็นงูเขียว นางถามแค่พอเป็นมารยาท แล้วนางก็นอนหลับตา ประสานมือไว้บนหน้าท้อง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม