บทที่6
โอวหยางเจิ้งหัววางร่างบางลงบนพื้นใต้ต้นไม้ จับบ่ากลมกลึงเอาไว้มั่น
“เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหน ข้าจะไปดับไฟ” ระหว่างที่อุ้มเลี่ยงหลิงออกมา ตาคมสอดส่ายมองไปทั่วบริเวณวัด พบความผิดปกติมากมาย ไฟไหม้ขนาดนี้แต่พระและชีทุกคนกลับปิดห้องนอนเงียบ ไม่มีใครตื่นขึ้นมาช่วยกันดับไฟแม้แต่คนเดียว
“เลี่ยงหลิงได้ยินที่ข้าบอกไหม” เมื่อเห็นนางนั่งนิ่ง ใบหน้าเลื่อนลอยราวกับคนไร้สติ โอวหยางเจิ้งหัวตวาด เขาอยากมั่นใจว่านางจะนั่งรออยู่ตรงนี้จนกว่าเขาจะกลับมา ระยะห่างจุดนี้ไกลจากเปลวไฟ นางไม่มีอันตรายใด ๆ แน่นอน เขาต้องกลับไปช่วยคนอื่น ๆ
นางพยักหน้าหงึกหงัก ๆ น้ำตาคลอเต็มสองเบ้าตา
เมื่อได้คำตอบที่ต้องการแม้จะไร้เสียง แต่นางก็รับปากแล้ว ร่างหนารีบหมุนตัวไปยังอีกทิศทาง วิ่งป้องปากตะโกนเสียงดังไปตลอดทาง หวังให้คนที่ยังหลับอยู่ตื่นขึ้นมา
“ไฟไหม้ ไฟไหม้”
โอวหยางเจิ้งหัววิ่งไปถีบประตูห้องพักทุกห้อง พบเพียงกลุ่มครัวหนาออกมาจากห้องพวกนั้น ไร้เสียงตอบรับ เขาจึงหมุนตัววิ่งกลับไปยังที่พักอีกฟากที่พระสงฆ์หลายรูปพักอยู่ ที่นี่เปลวไฟยังลามมาไม่ถึงเพราะตัวอารามแยกจากอารามฝ่ายชี แต่กลับมีกลิ่นคาวเลือดลอยโชยออกมา ภายในใจเต้นระรัว หรือพวกพรรคมารรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่วัดแห่งนี้
อยู่ ๆ ก็มีเสียงดาบกระทบกัน มีการต่อสู้อยู่ด้านนอก ร่างหนาค่อย ๆ แอบตามความมืด หลบซ่อนดู โชคดีที่เขาพาเลี่ยงหลิงไปไว้อีกฟากของวัด สายตาคมมองดูกลุ่มคนที่ต่อสู้กันที่ลานของวัด กลุ่มหนึ่งใส่ชุดดำปิดบังใบหน้า อีกกลุ่มสวมชุดเกราะเบา ไม่มีผู้ใดใช้พลังปราณ มีเพียงการใช้วรยุทธ์และวิชากระบี่เท่านั้น แล้วคนพวกนี้เผาอารามชี และฆ่าพระทำไม
“องค์หญิงอยู่ที่ไหน” หนึ่งในกลุ่มคนชุดเกาะตะโกนถาม
องค์หญิง พวกนี้ตามหาองค์หญิงอย่างนั้นหรือ ไม่ได้มาตามล่าเขาสินะ
คนกลุ่มชุดดำเงียบไม่ตอบ พวกเขาค้นทุกห้องแล้วไม่พบศพของสตรีที่คาดว่าจะเป็นองค์หญิง มีแต่ศพของแม่ชี
“ฆ่าพวกมันทิ้งให้หมดอย่าให้ใครมีชีวิตรอดไปได้”
หัวหน้าองครักษ์สั่งลูกน้อง ฝ่าบาทกำลังเตรียมการเงียบ ๆ เพื่อให้พระชายาเฟยหย่าและองค์หญิงกลับไปอยู่ในวังต้องการคืนตำแหน่งทั้งหมดให้ ไม่คาดคิดว่าฮองเฮาจะรู้เรื่องจึงส่งคนมาลอบสังหารทั้งสองพระองค์ ฝ่าบาททราบแผนร้ายนี้จึงส่งพวกเขามาอารักขาทั้งสองพระองค์เข้าวัง ไม่คิดว่าจะมาช้าไป
โอวหยางเจิ้งหัวอาศัยจังหวะที่คนพวกนั้นห้ำหั่นกันแล่นกายตามเงามืดเพื่อกลับไปยังอีกฟากของอาราม จุดที่เขาทิ้งเลี่ยงหลิงเอาไว้ แต่เมื่อกลับมากลับพบแต่ความว่างเปล่า
“เลี่ยงหลิง” เสียงทุ้มกระซิบเรียก หวังว่านางจะอยู่แถว ๆ นี้ไม่ได้เดินไปไหนไกล
“เลี่ยงหลิง เจ้าอยู่ไหน” โอวหยางเจิ้งหัวเพิ่มความดังขึ้นอีกเล็กน้อย ภายในใจเต้นเร่า ขออย่าให้นางเดินไปทางกลุ่มคนพวกนั้น สายตาคมสอดส่ายไปทั่วบริเวณ ก็ไม่พบคนที่ตามหา
“องค์หญิงเลี่ยงหลิง”
ร่างบางหันไปตามเสียงเรียก
ชายในชุดดำยกยิ้ม พบเป้าหมายแล้ว มือหนาดึงกระบี่ออกจากฝัก เดินย่างสามขุมเข้าประชิด
“ท่านเป็นใคร มาช่วยดับไฟใช่ไหม ท่านแม่กับแม่นมข้าอยู่ในนั้น” นิ้วเรียวชี้ไปยังห้องที่ประตูเปิดอยู่ คล้อยหลังที่อี๋นั่วเดินจากไปไม่นาน นางคิดว่าควรต้องมาปลุกมารดาและแม่นมหนิงอันก่อนที่ไฟจะลามมา
“คนตายไปแล้วจะไปช่วยทำไม ห่วงตนเองเถอะ” ชายชุดดำเงื้อกระบี่ขึ้นเหนือหัว ก้อนที่จะตวัดลงมาด้วยความเร็ว
“กรี๊ดดดดดด” จังหวะที่กระบี่พุงตรงมา ร่างหนาโถมกายมาโอบกอดนางเอาไว้ ปลายกระบี่แทงทะลุร่างกายของโอวหยางเจิ้งหัว ความรุนแรงของคมกระบี่ทะลุทะลวงปักลงบนหน้าอกบาง สองร่างล้มลงไปนอนกับพื้น
“ทำไมเจ้าไม่รอข้าที่ใต้ต้นไม้” เขาไม่ทันคิดอะไรทั้งนั้น วิ่งมาเห็นนางกำลังถูกทำร้ายก็พุงตัวเข้าบังเอาไว้ แต่นางก็ยังบาดเจ็บอยู่ดี เขาอยากมีพลังปกป้องนางเหลือเกิน เหตุใดทุกครั้งที่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น พลังของเขาก็ยังไม่ตื่นเสียทีหรือสวรรค์ไม่ต้องการให้เขามีชีวิตรอดเพื่อใช้พลังนั้นได้กัน พลังที่ยิ่งใหญ่แต่กลับไม่สามารถใช้ปกป้องคนสำคัญได้ต้องเห็นบิดาตายไปต่อหน้าต่อตา วันนี้ก็ทำได้แค่เพียงใช้ร่างกายปกป้องเลี่ยงหลิงเอาไว้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น
“อี๋นั่ว” คมกระบี่ที่ปักลงบนหน้าอกปวดร้าวจนนางแทบจะสิ้นใจ แล้วเขาที่เอาทั้งตัวมารับคมกระบี่นี้ล่ะจะเจ็บขนาดไหน
“ข้าขอโทษที่ปกป้องเจ้าไม่ได้ อึก” กระบี่ยาวถูกดึงย้อนกลับ ร่างหนาสำลักเลือดออกมากองใหญ่
“ไม่คิดว่าองค์หญิงจะมีองครักษ์อยู่ในวัดนี้ด้วย” ชายชุดดำยกกระบี่ขึ้นอีกครั้ง เพื่อปลิดลมหายใจขององค์หญิง แต่มีร่างกายบุรุษผู้นี้ขวางอยู่ ชายชุดดำจึงกระชากร่างหนาหวังให้หลบออกไป จะได้สังหารเป้าหมายแล้วไปจากที่นี่ก่อนที่พวกองครักษ์จะมาพบ แต่ร่างกายที่นอนทับร่างองค์หญิงเลี่ยงหลิงก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้ว่าเขาจะออกแรงทั้งหมดที่มีก็ตาม
“ไม่!” เมื่อเห็นชายชุดดำทำท่าจะปักกระบี่ลงมาอีกครั้ง “อย่าทำเขาเลย เขาไม่ได้มีความแค้นกับท่าน เป็นข้าที่ท่านต้องการสังหาร อย่าทำเขาเลย” นางอ้อนวอน หากถูกแทงอีกแผลอี๋นั่วต้องตายแน่ ๆ
“องค์หญิงอย่าโทษข้าเลย ข้าต้องทำตามคำสั่ง”
องค์หญิง อันเลี่ยงหลิงคือองค์หญิงที่คนพวกนี้ตามฆ่าอย่างนั้นหรือ
“อี๋นั่ว ปล่อยข้า” แม้นางจะเจ็บบาดแผลที่หน้าอก แต่สองมือบางก็พยายามผลักร่างหนาให้ลุกออกจากตัวให้พ้นคมกระบี่
“ไม่! หากเจ้าตายข้าก็จะตายด้วย” โอวหยางเจิ้งหัวกระชับแขนแกร่งแน่น แม้สติในตอนนี้จะเริ่มเลือนราง แต่หากต้องตายก็ขอให้ได้ปกป้องจนลมหายใจสุดท้าย ในชีวิตนี้ของเขาเหลือแค่เลี่ยงหลิง หากไม่มีนางแล้วเขาก็ไม่ขออยู่ ท่านพ่อข้าขอโทษที่รักษาสัญญาเอาไว้ไม่ได้ แก้แค้นให้คนสกุลโอวหยางไม่ได้
ชายชุดดำไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปปักกระบี่ลงสุดแรง
“อ้ากกกกกกก” กระบี่คมบักลงมาเลือดจากแผ่นหลังกว้างกระจายไปทั่วทิศ
“อี๋นั่ว” เลี่ยงหลิงร้องเสียงเบาเรียกชายที่กอดร่างนางบังคมกระบี่เอาไว้ไม่ยอมปล่อย บาดแผลบนหน้าสร้างความเจ็บปวดให้นางไม่น้อย เลือดไหลออกมาจนชุดโชกไปด้วยเลือดนางเองก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน หากนางเชื่อเขาแล้วนั่งรออยู่ที่ใต้ต้นไม้ไม่เดินย้อนกลับมา นางและอี๋นั่วก็ไม่ต้องมาเจอนักฆ่าเช่นนี้
ก่อนที่กระบี่จะทะลุร่างกายของโอวหยางเจิ้งหัว ชายชุดดำก็ล้มลงไปสิ้นใจตายที่พื้น
“ข้ารัก จะ..เจ้า” ใบหน้าคมซบลงบนไหล่บาง ก่อนที่จะตายอย่างน้อยเขาก็ได้บอกความในใจแก่นาง ได้บอกว่าเขานั้นรักนาง
“ข..ข้ารักเจ้า”