เวลา 09.30 น.
จนตอนนี้ท่านประธานก็ยังไม่เข้าบริษัท ไม่รู้ไปแวะที่ไหน ทั้งๆ ที่ควรจะมาถึงตั้งนานแล้ว หรือว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ปิ่นปักจึงกดโทรศัพท์ตั้งโต๊ะต่อสายหาท่านประธานหนุ่ม
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
ไม่นานปลายสายก็กดรับสาย
‘ว่าไงปิ่นปัก พี่กำลังจอดรถที่ลานจอดรถบริษัท มีงานด่วนเหรอ?’
“ไม่ค่ะ มีตอนบ่ายที่ต้องออกไปพบลูกค้าข้างนอกค่ะ” ปิ่นปักตอบคนในสาย
‘อือ...งั้นแค่นี้นะ พี่จอดรถก่อน’ แล้วลูคัสก็กดวางสาย
ปิ่นปักไม่ได้ตอบกลับ เธอวางโทรศัพท์ไว้แล้วก็นั่งพิมพ์งานของตัวเองต่อ
ลูคัสควรจะมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าแล้ว แต่แวะหาเพลิงที่บริษัทก่อนเพื่อจะคุยเรื่องวันที่ตนไม่ไปตามนัด แถมไม่ได้รับโทรศัพท์เพลิงที่โทรตามวันนั้นด้วย
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เขาเดินมือล้วงกระเป๋าข้างเดียวมาถึงโต๊ะทำงานของเลขาคนเก่งเห็นเธอตั้งใจทำงานไม่สนใจตนจึงยกมือเคาะโต๊ะทำงาน
“มาแล้วเหรอคะท่านประธาน ดิฉันนำเอกสารที่ท่านประธานต้องเซ็นไปไว้ที่โต๊ะทำงานแล้วนะคะ”
“ปิ่นปัก ที่นี่มีแค่เราสองคน ไม่ต้องพูดจาเป็นทางการก็ได้ พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดแล้วนะ ตัดสินใจได้รึยังคนเก่งของพี่” ลูคัสเท้ายันหน้าโต๊ะทำงานแล้วโน้มโค้งตัวก้มโน้มหน้าลงไปหาคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ แล้วเธอก็เอนหลังถอยหนี
“อย่าทำแบบนี้ค่ะ ที่นี่ที่ทำงาน”
“งั้นที่บ้านทำได้สินะ ว่าไง ตัดสินใจรึยัง เลือกพี่หรือคนอื่น?”
“งานรอท่านประธานอยู่ในห้องทำงานนะคะ ส่วนแบบที่ท่านประธานให้ทีมออกแบบแก้เดี๋ยวดิฉันไปเอาให้นะคะ” แล้วปิ่นปักก็ลุกจากเก้าอี้เดินหนี
หึหึ
ลูคัสมองตามเลขาคนเก่งที่เดินหนีตัวเองไปยืนกดลิฟต์แล้วก็เดินไปเปิดประตูห้องทำงานเพื่อไปทำงานต่อ
พอมาถึงแผนก ปิ่นปักก็เดินไปยังโต๊ะทำงานของตะวัน เพื่อถามถึงแบบโซฟาคอลเลกชันใหม่ที่จะผลิตขายในตลาดในอีกสองเดือนที่จะถึง
“แบบที่จะแก้เป็นยังไงบ้างคะคุณตะวัน”
“เสร็จแล้วครับคุณเลขา” ตะวันหยิบแฟ้มส่งให้หญิงสาว
“ขอบคุณนะคะ ถ้าวันนี้ยังไม่เสร็จอีก พายุทะเลทรายซัดที่แผนกคุณตะวันแน่ค่ะ”
“แผนกของเราชินแล้วครับกับพายุของท่านประธาน”
“ไม่ชินก็ต้องชินแหละค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ ต้องเอาไปให้ท่านประธานตรวจอีก เผื่อมีแก้ตรงไหนอีกค่ะ เพราะก่อนจะเข้าประชุมให้บอร์ดบริหารลงคะแนนต้องผ่านสายตาท่านประธานก่อนค่ะ”
“ครับ”
“ขอตัวนะคะ” แล้วปิ่นปักก็เดินจากไป
ตะวันมองเลขาคนเก่งจากไปแล้วก็สนใจออกแบบงานสำหรับคอลเลกชันฤดูร้อนที่จะสั่งผลิตต่อจากคอลเลกชันวันวาเลนไทน์ที่จะถึงในอีกสองเดือน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เข้ามา”
แอค!
ได้ยินเสียงอนุญาตดังออกมาจากข้างในก็เปิดผลักประตูถือแฟ้มในมือเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธานหนุ่มจอมเหี้ยม
“มีอะไรปิ่นปัก”
“แบบคอลเลกชันใหม่ที่จะผลิตวันวาเลนไทน์ค่ะท่านประธาน” เธอพูดพร้อมยื่นแฟ้มให้ชายหนุ่มดู
“เราอยู่กันสองคนจะเป็นทางการอะไรหนักหนา พี่บอกปิ่นปักกี่ครั้งแล้วฮึ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ อยู่บริษัทต้องพูดให้ชินปาก ทุกวันนี้คนก็นินทาว่าดิฉันใช้เส้นสายเข้ามาทำงานตำแหน่งเลขาอยู่แล้วค่ะ”
“ใครมันพูดฮะ!”
“ทำไมคะ จะไล่ออกเหรอคะ ถ้าไล่ก็ต้องไล่เกือบหมดบริษัทเลยนะคะ”
“แล้วทำไมต้องสนใจด้วย ปิ่นปักอยู่ในตำแหน่งเลขาของพี่ เพราะความสามารถของปิ่นปักต่างหาก” เขารับแฟ้มจากมือเล็กมาเปิดไล่สายตาดูแล้ววางไว้ด้านข้างมือ ค่อยรอตรวจอีกรอบให้ละเอียด เพราะตอนนี้เอกสารตรงหน้าสำคัญไม่แพ้กัน
“ขอตัวนะคะ ตอนบ่ายอย่าลืมนะคะว่ามีนัดกับลูกค้าที่โรงแรมปริ้นเซส”
“ครับ คุณเลขา”
พอแจ้งเขาแล้วก็เดินออกจากห้องไปนั่งทำงานของตัวเองที่โต๊ะทำงานหน้าห้องเหมือนเดิม
เฮ้อ!
พอคนตัวเล็กออกไป เขาก็ถอนหายใจยาว เอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วยกมือขึ้นนวดคลึงขมับ
“ต้องไปเจอพริ้งพราวอีกแล้วสินะ” เขาไม่อยากไปตามนัดแต่ก็ต้องไป เพราะโรงแรมปริ้นเซสคือลูกค้ารายใหญ่และมีหลายสาขาแทบทุกจังหวัดในประเทศไทย