"ขอบคุณที่มาส่งนะเฮียเอ็ม" ฉันเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มเมื่อพี่ชายสุดหล่ออาสามาส่งถึงคอนโด
"รีบๆเข้าไปได้แล้วมัวแต่พูดอยู่นั่นแหละ" เฮียเอ็มโบกมือไล่ฉันอย่างไวราวกับกลัวว่าจะอดคิดถึงฉันที่ห่างกันวันสองวันไม่ได้
แค่เพียงฉันก้าวเท้าลงจากรถแล้วปิดประตูไม่ทันแม้จะโบกมือลา เฮียเอ็มก็ใส่ตีนหมาเหยียบคันเร่งมิดไมล์ราวกับว่าจะทำใจทนดูน้องสาวตัวเองเดินจากไปไม่ได้ยังไงยังงั้น
เพียงแค่ฉันเปิดประตูห้องคอนโดได้ ก็ทิ้งร่างกายลงบนโซฟาตัวยาวอย่างเหน็ดเหนื่อยจากสนามแข่งรถที่แสนร้อนระอุไม่ต่างจากกระทะทองแดง
Rrrrr~ เสียงริงโทนแผดเสียงร้องดังลั่นอยู่ในกระเป๋า ทำเอาคิ้วบางขดเข้าหากันอย่างสงสัย ว่าผีตนไหนโทรมาเอาในเวลาดึกดื่นป่านนี้
"ว่าไงยัยมะปราง" ฉันกรอกเสียงลงไปเมื่อปรายสายที่โทรเข้ามาคือยัยมะปรางเพื่อนสนิทของฉัน
[ ไปผับกันแกคืนนี้แม่จะเมาให้ดิ้นตาย ] น้ำเสียงดี๊ด๊าที่ดังทะลุลำโพงออกมาบ่งบอกว่ามันกำลังเริงร่ามากแค่ไหน
"นี่วันๆแกไม่คิดจะเข้าวัดทำบุญบ้างหรือไงห้ะ"
[ ..... ]
"เอาแต่ชวนเข้าผับเข้าบาร์มันดีนักใช่ไหม" ฉันพูดรัวเร็วด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ไอ้เพื่อนพวกนี้มันต้องโดนฉันสั่งสอนหน่อยแล้ว
[ สรุปว่าไงจะไม่ไป? ]
"ยังจะถามอีกเหรอฉันพูดขนาดนี้แล้ว"
[ ..... ]
"ก็ต้องไปสิย่ะนัดสถานที่มาเลย"
@ คลับตีกีล่า
ฉันเดินทอดน่องเข้าคลับด้วยชุดเดรสสีแดงเพลิงอย่างมั่นอกมั่นใจว่าสวยสุดในซอยนี้แล้ว เพราะมองไปรอบๆก็ไม่มีใครมายืนเทียบรัศมีบดบังความงามของฉันนอกจากแม่หมาลูกอ่อนที่นอนกองอยู่ใกล้ๆ
"โห้..ร้อนแรงดังขุมนรกเดินบนดิน" มะปรางเอ่ยทักทันทีที่ฉันนั่งลงตรงข้ามมัน
"ขอบคุณที่ชม" ฉันยิ้มรับอย่างมีจริตไม่คิดจะแก้ตัวใดๆ
ก็คนมันสวยช่วยไม่ได้..
เราสองคนนั่งเสวนากันเรื่องต่างๆที่เน้นมากที่สุดก็คือเรื่องของชาวบ้านจนคลับใกล้จะปิดก็ไม่มีทีท่าว่าปากของเราสองคนจะสงบลงได้
"บีอาร์แกดูผู้ชายโต๊ะนั้นสิหล่อโคตรๆ" มะปรางสะกิดฉันเร่าๆถึงผู้ชายโต๊ะถัดไปอีกสองโต๊ะ
นี่ขนาดแสงในคลับแทบจะมองไม่เห็นหน้ากันแต่ตามันกลับลุกวาวเมื่อเห็นผู้ชายหล่อๆแม้กระทั่งไรผมอยู่ไกลๆ
"เอาตรงไหนมาหล่อกัน แกเห็นแค่ด้านหลังเขาเองนะ" ฉันกรอกตาใส่เพื่อนตัวเองที่ทำท่าทางจะพุ่งกระโจนเข้าไปหาผู้ชายโต๊ะนั้นเสียเต็มที
"แค่ฉันเห็นท้ายท้อยเขาก็รู้แล้วว่าหล่อมากแค่ไหน"
"....."
"แกไปขอเบอร์เขาให้ฉันหน่อยนะ" มะปรางส่งเสียงออดอ้อนมายังฉันอย่างทุกครั้ง
"ทุกทีสินะ ทำไมแกไม่ไปขอเองล่ะ"
"ก็มันเขินอ่ะ" ยัยมะปรางบิดตัวเขินอายจนแทบเป็นเกลียว
ฉันมองเพื่อนตัวเองด้วยความละเหี่ยใจกับความบ้าผู้ชายไม่มีที่สิ้นสุด ไม่รู้ว่าชาติก่อนฉันไปแย่งผัวมันมาหรือเปล่าชาตินี้ถึงได้มารับกรรมตามหาผู้ชายให้มันไม่เว้นแม่แต่วันหยุดนักขัตฤกษ์
"ก็ได้เดี๋ยวไปขอให้ ให้มันรู้ซะบ้างว่านี่ใคร" ฉันหยัดตัวลุกขึ้นยืนแล้วเอามือโกยหน้าอกขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจก่อนจะเดินกรีดกรายไปยังโต๊ะของเป้าหมายเพื่อทุบหัวแล้วลากเข้ากระท่อมให้ยัยมะปราง
"ขอโทษนะคะขอเบอร์ เฮือก!" เสียงของฉันถูกกลืนหายไปในอากาศทันทีเมื่อฉันยื่นหน้าไปหาผู้ชายร่างสูงที่นั่งหันหลังให้อยู่ด้วยรอยยิ้ม
ทว่าเพียงแค่เขาหันมาเท่านั้นแหละฉันก็ล้มฟุบลงกับพื้นแล้วรีบคลานออกมาให้เร็วที่สุด เมื่อสายตาคมตวัดมองมาที่ฉันด้วยสายตาเย็นชา
ไอ้บ้าเอ้ย! ยิ่งกว่าผีหลอกอีก
"เดี๋ยวก่อน" เสียงเข้มดุเอ่ยเรียกเมื่อฉันคลานเข่าออกห่างจากโต๊ะเขามาได้ไม่ไกลนัก
"....." ทำไงดีถ้าโดนจับได้ตายแน่
"ไม่ได้ยินที่พูด.. หรือหูหนวกไปแล้ว" เมื่อฉันไม่ยอมหยุดและไม่หันไปมองเขาร่างสูงก็เดินเข้ามาขวางหน้าฉันเอาไว้แทน
"คือ..ทักผิดโต๊ะเฉยๆไม่มีอะไรทั้งนั้น" ฉันโบกมือปฎิเสธบีบเสียงให้ต่างจากปกติเผื่อว่าคนตรงหน้าจะจำไม่ได้
"คิดว่าเฮียโง่เหรอบีอาร์" ฉันถึงกับเข่าทรุดนั่งพับเพียบเรียบร้อยขึ้นมาทันทีเมื่อคนตรงหน้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดันน่ากลัว
"เฮียเพอย่าบอกเฮียเอ็มนะ" ฉันเงยหน้าส่งสายตาปริบๆมองใบหน้าหล่อคมคายที่ก้มลงมามองฉันอยู่ก่อนแล้ว
"คิดว่าไงล่ะ ต้องบอกให้มันรู้ไหมว่าน้องสาวมันแอบหนีเที่ยวกลางคืน" เฮียเพเชี่ยนกอดอกถามหน้าตาเรียบนิ่ง แต่ทว่านัยน์ดวงตาคมกลับทอประกายความจริงจังออกมา
"ไม่เอา ไม่บอกนะเฮียเพบีไม่อยากโดนเฮียเอ็มดุอ่ะ" ฉันกอดขาแกร่งของเฮียเพเป็นการขอร้อง ถ้าเรื่องนี้ถึงหูเฮียเอ็มนายอำเภอก็นายอำเภอเถอะขวางเฮียเอ็มไม่อยู่หรอก
"ก็รู้ดีนี่ แต่ก็ยังทำ"
"....."
"คงต้องล่ามโซ่ขังเอาไว้กันหนีซะแล้วละมั้ง ดีไหม?"
*** จะล่ามโซ่กันซะแล้ว