กิ่งกาญจน์เป็นคนจัดการเรื่องการศึกษาเล่าเรียนของลูกเลี้ยงทุกอย่าง เพราะเลอยศให้ดูแลควบคุมการเงินในบ้าน นิตยาจึงรักและเคารพมารดาเลี้ยงเป็นอันมาก รักยิ่งกว่ามารดาของตัวเองที่ทิ้งเธอไปตั้งแต่เด็ก หากมีปัญหาอะไร ขาดเหลืออะไร กิ่งกาญจน์จะจัดการให้ไม่เคยติดขัด
มารดาเลี้ยงเคยพูดกับเธอเมื่อตอนเด็ก ๆ ว่าคนเราสามารถรักใครได้หลายคน และไม่ได้หมายความว่ารักคนหนึ่งแล้วจะรักอีกคนลดน้อยลงไป ที่กิ่งกาญจน์ต้องพูดเช่นนั้นเพราะนิตยาในตอนเด็ก คิดว่าคนอื่นไม่รัก และคิดว่าหากมารดาเลี้ยงมีลูกใหม่ก็จะไม่รักตน
กิ่งกาญจน์รักลูกเลี้ยงและดูแลเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้นิตยารู้สึกว่าพอมีลูกเป็นของตัวเองแล้วจะรักตัวเองน้อยลงไป
ส่วนนุชานั้นค่อนข้างติดบิดา เลอยศจึงให้ความรักนุชาได้เต็มที่ แถมยังมีปู่ย่าตามใจอีก กิ่งกาญจน์จึงคิดว่าลูกสาวจริง ๆ ของตัวเองคงไม่ได้ขาดแคลนความรักเหมือนนิตยา
เธอคอยสอนให้พี่น้องรักกัน ให้นุชารักพี่สาว เพราะรู้ว่านิตยานั้นรักน้องสาวมากมายเพียงใด หากได้รับการตอบแทนความรัก นิตยาก็จะได้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต และดีใจที่มีคนรักตอบ ไม่ใช่มอบความรักให้คนอื่นแต่ไม่มีใครรัก เธอกลัวลูกเลี้ยงจะมีปัญหา แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
“ดีจริงนะ มีผู้ชายต่อยกัน แย่งผู้หญิงอย่างเธอ” เสียงหาเรื่องทำให้นิตยาปาดน้ำตาทิ้ง หลุดจากภวังค์ความคิด หมุนกายกลับมามอง
แค่เห็นเขาหัวใจของเธอก็เต้นแรงระคนเจ็บแปลบ พฤทธิ์ ว่าที่คู่หมั้นของเธอนั่นเอง
เขาเกลียดเธอเข้าไส้ แต่กลับทำตรงข้ามกัน เขาพาผู้ใหญ่มาสู่ขอเธอ และคุณรุ้งลดาก็ตอบตกลงเพราะบ้านเขาร่ำรวยมีฐานะทัดเทียม ในขณะที่เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำตามผู้เป็นย่า
“พี่พริกมานานแล้วเหรอคะ” เธอแอบชอบเขามานานแล้ว เขาเป็นพี่ชายของเพื่อนรักอย่างแพรวพรรณ แต่ตอนนี้แพรวพรรณเกลียดเธอจับใจ
อิฐเป็นคู่หมั้นของแพรวพรรณ แต่เมื่อเธอได้รู้จักกับอิฐจากการแนะนำของเพื่อน อิฐก็เปลี่ยนใจมาชอบเธอ ถึงขนาดจะไปถอนหมั้นกับแพรวพรรณ นั่นทำให้พฤทธิ์กับเธอหมางใจกัน เขาคิดว่าเธอแย่งคู่หมั้นน้องสาวของเขา
วันนั้นมีเรื่องกันถึงขนาดเธอโดนพฤทธิ์ปล้ำจูบเอาในไร่ของบิดา คุณรุ้งลดาเห็นว่าเป็นเรื่องเสียหาย จึงอยากให้รับผิดชอบ พฤทธิ์จึงพาผู้ใหญ่มาสู่ขอเธอให้ถูกต้อง
นิตยารู้ดีว่าเขาไม่ได้รักเธอ แค่อยากกันเธอออกไปจากอิฐ
“มานานพอจะเห็นว่าที่คู่หมั้นของฉันทอดสะพานให้ผู้ชายจนต้องต่อยกันในงาน ยายแพรวเล่าให้ฟังมาบ้าง ได้ข่าวว่าเป็นแบบนี้บ่อย ๆ ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอก แต่วันนี้เห็นกับตา ให้ผู้ชายอีกคนจับมือ ให้อีกคนมาหึง ไอ้อิฐมันว่าที่น้องเขยฉัน และกำลังจะแต่งงานกับยายแพรวเพื่อนของเธอ จำไม่ได้หรือไง หรือหน้าเธอไม่มียางอาย” เขามองเธออย่างดูถูกเหยียดหยาม
“พี่พริก!” เธออุทาน ตกใจกับประโยครุนแรงของเขา เขาชอบพูดจาทำลายน้ำใจของเธอ หัวใจชอกช้ำเจ็บแปลบ น้ำตาแทบรินไหล ก่อนจะหมุนกายหนี ไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอ
เวลาเธออยากร้องไห้ เธอจะไปร้องไห้คนเดียวไม่ให้ใครเห็น
“จะไปไหนล่ะ พูดแทงใจดำหรือไง” เขาตามมากระชากข้อมือของเธอ นิตยาร้องด้วยความเจ็บ ก่อนที่ร่างน้อยจะปะทะเข้ากับอกกว้างอย่างจัง
“ปล่อยนะคะพี่พริก” เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้รินไหล ตรงนี้มันมืด เขาเองก็คงไม่ได้สนใจจะมอง
“จะรีบไปไหนล่ะ กับว่าที่ผัวตัวเองทำเป็นรังเกียจ กับผู้ชายอื่นระริกระรี้อยากให้มันกอดมันจูบ”
“พี่พริกเมาหรือเปล่าคะ ถ้าพี่เมา เราคงคุยกันไม่รู้เรื่อง เอาไว้พี่หายเมา แล้วเราค่อยคุยกันดีกว่าค่ะ” เธอดันอกของเขาออกห่าง แต่มันแทบไม่ขยับเขยื้อนเลย กลิ่นเหล้าฉุนกึกทำเธอต้องเบือนหน้าหนี
“พี่พริกเมามากแล้ว อื้อ...” เขาบดจูบลงมาอย่างหนักหน่วง เธอเบิกตากว้าง หลบไม่ทันเลยโดนจูบเข้าไปเต็ม ๆ มือน้อยรัวทุบตีแผ่นหลังกว้าง ก่อนจะกลายเป็นกำจิกเอาไว้แน่น
เขาสอดลิ้นเข้ามาพัวพันดูดกลืนความหอมหวานในโพรงปากนุ่ม เธอจูบตอบเขาด้วยความรักที่มีอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อเขาผลักจนกระเด็น
“โอ๊ย!” สะโพกน้อย ๆ กระแทกกับพื้นจนต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“ทำเป็นดีดดิ้นเล่นตัว ที่แท้ก็...” เขามองอย่างดูถูก ก่อนจะเช็ดปากตัวเองไปมาคล้ายรังเกียจ นิตยานั่งนิ่งไม่ไหวติง เธอลุกไม่ไหว แข้งขาอ่อนแรงไปหมด
“ฉันไม่ได้อยากหมั้นกับเธอหรอกนะ แค่ให้แพรวพรรณกับอิฐแต่งงานกันก่อน แล้วเราค่อยถอนหมั้นกัน เพราะฉันรังเกียจผู้หญิงอย่างเธอที่สุด” เขานั่งยอง ๆ ใกล้ร่างของเธอ ก่อนจะกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงดุดัน ร่างสูงยืดตัวขึ้น ก่อนเดินจากไปไม่เหลียวหลัง
นิตยาร้องไห้เบา ๆ ก่อนจะปาดน้ำตาทิ้ง เธอจะไม่อ่อนแอเด็ดขาด รอให้อิฐกับแพรวพรรณแต่งงานกัน เธอก็จะไปจากเขา ผู้ชายใจร้ายที่เกลียดเธอจับใจ
“พี่พริกขา นี่เพื่อนของแพรวเองค่ะ ชื่อนิตค่ะ น่ารักไหมล่ะ” แพรวพรรณแนะนำเพื่อนรักให้พี่ชายคนเดียวได้รู้จัก หลังจากที่เขาเรียนจบกลับมาจากต่างประเทศ
พฤทธิ์ถึงกับตกตะลึงพรึงเพริดเมื่อได้เห็นเพื่อนของน้องสาว นิตยาสบตากับพี่ชายเพื่อนแล้วสะเทิ้นอาย หัวใจของเธอเต้นรุนแรง เพราะไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน
“ฮันแน่! พี่พริก มองเพื่อนแพรวตาเป็นมันเลยนะคะ คนนี้โสดนะจะบอกให้” แพรวพรรณกระแทกไหล่พี่ชายก่อนจะกระซิบบอก แต่นิตยายังได้ยิน เธอค้อนเพื่อน อยากจะหยิกให้เนื้อเขียวนัก
“จีบได้นะคะ ยังไม่มีแฟนจริง ๆ” แพรวพรรณยังพูดแล้วอมยิ้ม นิตยาก้มงุดเขินอายกับสายตาของพฤทธิ์
หลังจากนั้นพฤทธิ์ก็ได้เจอกับนิตยาบ่อยขึ้น ด้วยการเป็นแม่สื่อแม่ชักของน้องสาวอย่างแพรวพรรณ
อิฐซึ่งเป็นคู่หมั้นของแพรวพรรณกลับมาจากต่างประเทศ แพรวพรรณจึงได้แนะนำคู่หมั้นหนุ่มให้เพื่อนสาวได้รู้จัก
อิฐกับแพรวพรรณหมั้นกันแต่เด็ก ชายหนุ่มหมั้นเพราะผู้ใหญ่ เมื่อเจริญวัยขึ้นเขาก็ยังเอ็นดูเธอแต่ความรู้สึกที่มีให้เหมือนเธอเป็นน้องสาวมากกว่า ไม่เหมือนแพรวพรรณที่ยิ่งโตขึ้น ยิ่งตกหลุมรักคู่หมั้นตัวเองเข้าเต็มเปา มีผู้ชายมาจีบก็ไม่เคยสน รักเดียวใจเดียวกับอิฐมาโดยตลอด
แต่การแนะนำให้คู่หมั้นได้รู้จักกับเพื่อนรัก นั่นทำให้ความสัมพันธ์สั่นคลอนลงในเวลาต่อมา
“พี่อิฐชอบนิตเหรอคะ พี่ไปกอดจูบกับเพื่อนของแพรว ทั้ง ๆ ที่เป็นคู่หมั้นของแพรว” แพรวพรรณพูดแล้วร้องไห้เสียงสะท้าน ผิดหวังที่เพื่อนและคู่หมั้นแทงข้างหลังแบบนี้
“แพรว ฟังนิตก่อนนะ” อิฐมาปล้ำจูบเธอเอง แม้เธอจะพยายามหลบหน้าหลบตาเขาเท่าไหร่ หลังจากที่เขาสารภาพว่ารักเธอและจะไปถอนหมั้นกับแพรวพรรณ เธอก็ตกใจปฏิเสธเขาไป แล้วพยายามหลบเลี่ยง แต่แพรวพรรณยังชวนเธอไปโน่นไปนี่ ทำให้ต้องเจอกับอิฐ จึงเกิดเรื่องขึ้น
“ไม่ฟัง คนอื่นว่าเธอบ้าผู้ชาย ทำให้ผู้ชายมีปัญหาทะเลาะกัน ฉันไม่เคยสนใจคำพูดไร้สาระพวกนั้น ยังดึงดันที่จะคบเธอต่อไป แต่ดูเธอทำสิ หน้าด้านไร้ยางอาย แย่งคู่หมั้นของเพื่อนได้อย่างไม่สะทกสะท้าน”
“แพรว...” นิตยาตัวเย็นเยียบ ปวดหนึบหน้าชา ยิ่งเห็นสายตาของพฤทธิ์ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเจ็บแปลบมากขึ้นไปอีก เขาคงเห็นว่าเธอกอดจูบกับอิฐเหมือนแพรวพรรณ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ
ผู้ชายที่น่ารัก อ่อนโยน เอาใจเก่ง บัดนี้ใบหน้าบึ้งตึง สายตาดูถูกเหยียดหยาม เย็นชารังเกียจ ทำเธอสะท้านในอก
“ต่อจากนี้ไป ฉันกับเธอเราขาดกัน ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับผู้หญิงไร้ยางอายอย่างเธออีก!”
นิตยาผวาตื่นจากที่นอนเหงื่อโซมกาย เธอปาดเหงื่อที่ไหลท่วมใบหน้า เสียงเคาะประตูของมารดาเลี้ยงทำให้เธอสำนึกว่าวันนี้เป็นวันหมั้นของเธอกับพฤทธิ์ หัวใจดวงน้อยเต้นถี่แรง แม้เขาจะเกลียดเธอ แต่เธอก็รักเขา แค่ได้แอบรักเขาแค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว สำหรับคนไร้ค่าไร้ความหมายอย่างเธอ
“หนูนิตตื่นหรือยังจ๊ะ”
“ตื่นแล้วค่ะน้ากิ่ง” เธอเดินไปเปิดประตูห้อง มารดาเลี้ยงมองมาอย่างเอ็นดู
“ทำไมหน้าตาไม่สดชื่นเลยจ๊ะ มีอะไรไม่สบายใจบอกน้าได้นะ”
“หนูนิตแค่ยังไม่อยากหมั้นไม่อยากแต่งงานเลยค่ะ ไม่อยากไปอยู่บ้านคนอื่น เดี๋ยวจะทนคิดถึงน้ากิ่งไม่ไหว” คนขี้อ้อนโอบกอดซบหน้าที่อ้อมอกที่แสนอบอุ่น เธอแอบน้ำตาซึม คงมีแค่กิ่งกาญจน์เท่านั้นที่รักเธอจากใจ