Episode 07
ร่างบางลากกระเป๋าเดินทางลงมาด้านล่างอีกครั้ง ในครั้งนี้ร่างสูงก็ยังคงรออยู่ที่ด้านล่างดังเดิมเพียงแค่เขาไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่าการเดินเข้ามาจ้องหน้าเรา
“เชอะ” เราเชิ่ดใส่พร้อมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น “ถ้าจะมาตบหัวแล้วลูบหลังกันเชิญกลับไปเถอะค่ะ”
“ฉันพลั้งมือตบหน้า...ไม่ใช่หัว”
“มันคือคำเปรียบเปรยย่ะ! หนูกำลังไม่พอใจเฮียอยู่นะคะ อย่ามาทำเป็นเล่นจะได้ไหม!” เราตวาดใส่เขาไปหนึ่งทีหลังจากที่เขายิ้มหน้าระรื่นใส่เราในเวลาต่อมา
“ซ้อมครั้งที่เท่าไหร่เเล้วล่ะ”
“ครั้งนี้ไม่ได้ซ้อมค่ะ หนูจะไปจริงๆ หนูคิดว่าเรื่องของเรามันคงจะมาถึงทางตันแล้ว เมื่อก่อนคุณไม่เคยเป็นแบบนี้เลยแม้แต่น้อย พอหลายปีผ่านไปคุณกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เอาแต่เรื่องความตายมาพูด! เราสองคนมันต่างกันมากจริงๆ นั่นแหละค่ะ!”
เราสาธยายความในใจใส่เขาออกไปยาวเหยียด เมื่อก่อนเขาต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง เรารู้และเข้าใจดีว่าเขาพยายามทุกอย่างก็เพื่อเราแต่แบบนี้มันเกินไป
เกินกว่าที่เราจะรับไหว!
“เรามันต่างความคิดและเรื่องนี้ก็คงจะทะเลาะกันไม่จบสิ้น หนูคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดน่าจะเป็นทางนี้ เฮีย...” จากที่ตอนแรกเราตั้งมั่นเชิ่ดใส่อย่างดี ในตอนนี้ใบหน้ากลับงอและเริ่มเบะปากคว่ำ “ฮึก! เราเลิกกัน!”
“เหรอ?” ทั้งๆ ที่ในตอนนี้เราเบะปากคว่ำเหมือนกับกบแต่เขากลับมองเรานิ่งๆ ไร้ความรู้สึก “เธอรู้ตัวใช่ไหมว่าพูดอะไรออกมา?”
“รู้สิ หนูไม่อยากทนแล้ว เฮียเปลี่ยนไปมากๆ เลยนะ! อึก...มิหนำซ้ำยังมาตบหน้ากันอีกอะ” เราตอบเขาไปมือพลางปาดน้ำตาไป “หนูเสียใจนะ หนูเสียใจ!”
“ไอ้การที่น้อยใจแล้วก็มาพลานบอกเลิกคนอื่นเขาไปทั่วเนี่ย...เธอคิดว่าเธอเป็นเด็กห้าขวบหรือยังไง? เห็นๆ กันอยู่ว่าเธอเองก็ไม่ได้อยากเลิก ขึ้นห้องไปซะ”
“ไม่เอา! หนูจะไป หนูจะไม่อยู่แล้ว” เรากำกระเป๋าลากไว้แน่น พร้อมสะบัดตัวหนีหลังจากที่เขาพยายามเอื้อมมือมาดึงแขนเรา “จะไป! จะกลับบ้าน จะกลับ!”
“อย่าเล่นตัวหน่อยเลยหน่า...ถ้าฉันพลั้งมือปล้ำเธอมาอีกรอบ คราวนี้ไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งเลยเหรอ?” เขาเลียขอบปากพร้อมแสยะยิ้มเล็กน้อย “หึหึ”
“ไอ้บ้า! ไอ้มาตินไอ้คนเจ้าเล่ห์! ม....ไม่รู้แหละ เราเลิกกันแล้ว นับแต่นี้ไปเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก หนูไม่ใช่ภรรยาหรือคนรักของเฮียอีกต่อไปค่ะ!”
“จะเลิกให้ได้ว่างั้น?” เขาเท้าเอวพร้อมเลิกคิ้วถามย้ำอีกครั้ง “มั่นใจแล้วใช่ไหมที่พูดน่ะ”
“ก...ก็” เราก้มหน้ามุ่ยพร้อมกับจิกแขนตัวเอง “ก็เฮียตบหน้าหนู แถมยังเปลี่ยนไปไม่ใช่เฮียคนเดิม”
“แต่ฉันก็ชี้แจงเรื่องนี้ไปแล้วนะว่ามันเพราะอะไร” ร่างสูงว่าพลางเอื้อมมือมาลูบหัวของเราเบาๆ “อย่าดื้อ”
“เราสองคนนี่มันยังไงกันนะ ไม่เคยจะลงตัวกันเลยตั้งแต่เรื่องแต่งหรือไม่แต่งงาน ไหนจะเรื่องไปเที่ยวต่างประเทศที่ไม่เคยจะเลือกประเทศตรงกันจนต้องเป่ายิงฉุบ การตกแต่งห้องที่ฉันชอบสีดำ ส่วนเธออยากได้สีชมพู คู่เราแม่ง...หาจุดตรงกลางมาเจอกันยากว่ะ”
“คงเพราะเราไม่เหมาะสมกันล่ะมั้งคะ”
“.....”
“ช่วงอายุของเราก็ต่างกันมากอีก หนูคิดว่ายังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่พร้อมจะยืนเคียงข้างเฮียและพร้อมที่จะอ่านหนังสือสิบๆ เล่มเพื่อตระกูลของเฮีย ที่ไม่ใช่หนู”
“เธอจะไปจริงๆ ใช่ไหม?” ร่างสูงถามย้ำ ร่างบางเม้มปากแน่นก่อนที่สุดท้ายจะพยักหน้าตอบกลับไป “เธอคิดดีแล้วงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าเพราะน้อยใจเลยตอบฉันแบบนี้นะ เธอ...อยากจะไปจริงๆ ใช่ไหม”
“อ...อื้อ~ มันอาจจะดีกว่านี้ ฮึก! บทสรุปสุดท้ายของเราสองคนอาจไม่ใช่การแต่งงานเหมือนกับคนอื่นๆ เฮียคงจะหมดช่วงโปรโมชั่นแล้วเลยเปลี่ยนไป อึก!”
“.....”
“เฮียเอาแต่บอกว่าทุกอย่างเพื่อหนู ทั้งที่เจตนารมณ์จริงๆ คือเพื่อตัวของเฮียเอง ไม่เกี่ยวกับหนูเลยแม้แต่นิดเดียว อึก! ถ้าเฮียสามารถดึงเอาเฮียคนเดิมกลับมาได้ เราค่อยมาเจอกันใหม่นะคะ”
“อาบีร์....” เขาเรียกชื่อเราเพียงแค่นั้น ก่อนที่จะเงียบไปไม่พูดไม่จาอะไรต่อ
“ถ้าหมดรักกันแล้ว ก็ปล่อยกันไปนะ อย่าหาเหตุผลอื่นมาอ้างเลย จริงๆ แล้ว เฮียไม่ได้ทำเพื่อหนูหรอก เฮียทำเพื่อสืบทอดอำนาจของตัวเอง ไปหาคนที่รับในตัวเฮียตอนนี้ให้ได้นะคะ ที่ไม่ใช่หนู”
ว่าจบเราก็เดินออกมาจากตัวคฤหาสน์ทันที...
Talk มาติน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
“ไปหาคนที่รับในตัวเฮียตอนนี้ให้ได้นะคะ ที่ไม่ใช่หนู”
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
“เห้อ....” ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังจากที่ร่างบางได้ลากกระเป๋าเดินออกจากคฤหาสน์ของผมไป “เธอไปแล้วมาคัส”
“ผมทราบแล้วครับนาย”
“ฉันหรือเธอที่ไม่เข้าใจกันแน่วะ” ร่างสูงกล่าวพลางหันไปถามลูกน้องของตัวเอง “ฉันว่าฉันก็ปกติดีนะเว้ย ฉันก็ยังรักอาบีร์เหมือนเดิม วันแรกรักยังไง วันนี้ก็ยังรักเหมือนเดิมอะ!”
“นายหญิงคงจะอ่อนแอเกินไป เพราะการเลี้ยงดูที่ต่างกันทำให้ไม่เข้าใจกันสักที นายหญิงจะรู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่ากำลังทำสิ่งที่พลาดที่สุด นายท่านอุตส่าห์เคี่ยวเข็ญเพื่อให้นายหญิงมีความรู้จะได้ดูแลตระกูลต่อไปได้ เผื่อวันข้างหน้าที่นายท่านไม่อยู่” มาคัสกล่าว “ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น พูดแค่นี้ก็คงจะเข้าใจไปนานแล้ว แต่นายหญิงกลับดื้อไม่ยอมเข้าใจ สืบทอดอำนาจนี่ให้ใคร เพื่อใครล่ะ ก็นายหญิงเองนั่นแหละ คิดแล้วก็โมโหแทน!”
“แกใจเย็นๆ นั่นภรรยาฉัน” ผมเอ็ดมาคัสเล็กน้อยเมื่อมันเริ่มหัวร้อน ออกตัวแรงแทนที่จะเป็นผม ความคิดและการเลี้ยงดูที่แตกต่างมันทำให้เราจูนเข้าหากันยากมากจริงๆ ไหนจะเรื่องอายุที่ห่างกันมากอีก “เห้อ”
“เอ่อ...นายครับดูนั่น” มาคัสชี้ไปที่บริเวณประตู ร่างสูงเหลือบสายตาไปมองตามปลายนิ้วที่มาคัสชี้กลับพบว่าเป็นร่างบางยืนถือกระเป๋าอยู่ “นายหญิง”
“เปลี่ยนใจจะไม่ไปเเล้วเหรอ?” ผมมองเธอด้วยใบหน้านิ่งขรึม แม้ว่าภายในใจจะหัวเราะลั่นไปแล้วก็ตาม ถถถ! เห็นไหมล่ะ สุดท้ายแล้วสายใยความรักของเรามันก็ตัดไม่ขาด เธอหลงผมจนไร้ทางออกแล้ว
กะแล้วว่ายังไงเธอก็ต้องเปลี่ยนใจแล้วกลับมาน่ะ!
โฮะๆ
“เปล่า...ไม่มีรถ ไปส่งหน่อย”
“เอิ่ม” ผมกลอกตามองบนพร้อมกับส่ายหัวอย่างเอือมระอา “เธอเนี่ยจริงๆ เลยนะ”
“คนเคยรักกัน อย่าใจร้ายใส่กันสิคะ” ร่างบางกล่าวพร้อมทำหน้ามุ่ย
“เอาเถอะๆ ฉันจะไปส่งเธอด้วยตัวเอง” ผมหยัดตัวลุกขึ้นพร้อมคว้ากุญแจรถเดินนำเธอออกมา “เธอจะไปไหนล่ะ?”
“ตระกูลเวราสนิกัส จะไปหาคุณตาหวาน”
“อืม...” ผมพยักหน้า ก่อนที่จะเอื้อมมือไปลากกระเป๋าให้เธอ “ไปกันเถอะ”
“เดี๋ยวออกค่าน้ำมันให้นะ” เธอกล่าวก่อนที่จะเดินตามหลังผมมา
บอกเลิกกู
แล้วยังให้กูไปส่งอีก
มึงว่าวันนี้จะเลิกกันรอดไหมล่ะ
-.-