บทที่ 10 แค่เพื่อนเท่านั้น
“ไม่ใช่คนแปลกหน้า ก็แสดงว่าจะมาเป็นคนในครอบครัวนี้เหรอคะ ถ้าจะมาเป็นเมื่อไหร่ก็บอกนิดด้วยละกัน นิดจะได้เอาหลานไปอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย”
“ชักจะเลยเถิดแล้วนะหนูนิด พี่แก้วเล่าอะไรให้ฟังถึงได้คิดแบบนี้” แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรที่จะมาเอาลูกชายของเขาไป
“อย่าพูดถึงพี่แก้วด้วยความไม่พอใจแบบนี้นะคะพี่ราม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่แก้ว แต่มันเกี่ยวกับความรู้สึกของนิดเอง นิดรู้สึกยังไงก็พูดออกไปอย่างนั้น” หญิงสาวมองเขาด้วยแววตาเอาเรื่อง รู้สึกเสียใจที่เมื่อคืนเผลอรู้สึกดีกับเขาไป
“ถ้าอย่างนั้นหนูนิดก็คิดผิดแล้ว พี่กับแพรเป็นแค่เพื่อนแค่คนรู้จักกันเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นแอบแฝงแน่นอน”
“แล้วคุณแพรล่ะคะ เธอคิดแบบเดียวกับพี่รามหรือเปล่า”
“แน่นอนค่ะคุณนิด” เสียงของพินแพรดังขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคน “แพรกับพี่รามไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่าเจ้านายลูกน้อง เป็นเพื่อนเป็นพี่ที่สนิทกันมากก็เท่านั้น แพรบริสุทธิ์ใจนะคะ”
สิริญ่ามองหญิงสาวอย่างไม่พอใจ แต่ก็มีรอยยิ้มเคลือบอยู่บนใบหน้า “คุณแพรขึ้นมาทำไมคะ พี่รามชวนขึ้นมาเหรอ”
พินแพรถึงกับวางสีหน้าไม่ถูกเมื่อเจอคำถามนี้เข้าไป เธออึกอักกระดากอายเมื่อเห็นสายตาของรามก็ตั้งคำถามแบบเดียวกัน
“แพรขอโทษที่ถือวิสาสะขึ้นมา แต่แพรแค่จะมาเตือนพี่รามว่าวันนี้เรามีประชุมตอนเช้า เราควรจะออกจากบ้านเร็วกว่าปกติ”
“พี่รามได้ยินแล้วค่ะ ตอนนี้คุณแพรก็ลงไปได้แล้ว นิดมีเรื่องต้องคุยกับพี่รามต่ออีกหน่อยค่ะ” ผู้หญิงคนนี้อาศัยข้ออ้างมาบังหน้าได้ทุกเรื่องเลยสินะ แต่อย่าหวังว่าเธอจะคล้อยตามง่ายๆ
“แต่ว่า..” พินแพรมองหน้ารามเพราะคิดว่าเขาน่าจะตามเธอลงไปด้วย
“แพรไปก่อนได้เลยนะ เตรียมเอกสารเอาไว้ให้พร้อม เมื่อพี่ไปถึงก็ค่อยเรียกประชุมอีกทีละกัน”
คำตอบของเขาทำให้เธอรู้สึกอับอายจนหน้าแดง เขาไม่ได้เห็นเธออยู่ในสายตา แล้วจะพูดทำไมว่าเธอไม่ใช่คนแปลกหน้า ทำไมต้องพูดให้เธอคิดเลยเถิดไปไกลด้วย
“ค่ะพี่ราม” เธอฝืนตอบเขาไปแล้วรีบหันหลังเดินหนีอย่างเร็วที่สุด
“แพรไปแล้ว หนูนิดมีอะไรจะพูดก็พูดมา”
“นิดอยากเรียนต่อปริญญาโท มีรามพานิดไปสมัครเรียนหน่อยสิคะ”
แม่เจ้าประคุณ บทจะเปลี่ยนเรื่องก็เปลี่ยนปุบปับจนเขาตามแทบไม่ทัน รามมองหน้าหญิงสาวที่เขาหมายหัวไว้แล้วว่าแสบสันใช่ย่อย ต่างกันราวขั้วบวกกับขั้วลบเมื่อเทียบกับภรรยาที่จากไป
“วันนี้เลยเหรอ”
“ถ้าพี่รามว่าง” เธอไม่คิดจะรบกวนเขาเลยในตอนแรก แต่ตอนนี้เธออยากจะยั่วโทสะยายพินแพรนั้นเหลือเกิน
“พี่มีประชุมตอนเช้าหนูนิดก็ได้ยินแล้วนี่”
“หลังจากประชุมเสร็จเป็นไงคะ”
“ก็น่าจะได้ แล้วนิดเลือกที่เรียนไว้แล้วเหรอ”
“พี่รามมีที่แนะนำไหมคะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่จะให้แพรเขาช่วยหาทางอินเทอร์เน็ตให้ก่อนละกัน เลือกมาสักสามสี่ที่แล้วเราค่อยไปดูสถานที่จริงกันดีไหม”
“ความจริงนิดมีเลือกเอาไว้แล้วแห่งหนึ่ง แต่นิดไปไม่ถูก”
“ที่ไหน”
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ กดหารายละเอียดที่จดไว้แล้วยื่นให้พี่เขยดู “นิดอยากไปดูที่นี่ก่อน ถ้าไม่โอเคก็จะลองหาที่ใหม่”
“ที่นี่ก็ไม่ค่อยไกลจากออฟฟิศของพี่นะ ถ้าหนูนิดจะไปเดี๋ยวประชุมเสร็จแล้วพี่พาไปเลยก็ได้”
“จริงเหรอคะ”
“รีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ลงไปกินข้าวสิ เสร็จแล้วจะได้ออกไปพร้อมกันเลย”
“พี่รามไปก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวนิดโทรเรียกให้พี่ราชแวะมารับก็ได้”
“ราชต้องเข้าประชุมคงไม่สะดวกมารับเราหรอก พี่จะรอกินข้าวนะ” เขาตัดบทอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ ในเมื่อเธอสนิทสนมกับน้องชายเขานัก แล้วจะมาเรียกร้องให้เขาพาไปสมัครเรียนทำไม
“พี่ราชไม่เห็นบอกเลยว่ามีประชุม” สิริญ่าบ่นพึมพำขณะเดินเข้าห้อง เพราะเธอเพิ่งวางสายจากเขาเมื่อสักครู่นี้เอง
ออฟฟิศของราม
ทุกสายตาจับจ้องไปที่สาวสวยหุ่นดี หน้าตาบ่งบอกความเป็นลูกครึ่งชัดเจน ที่เดินตามหลังผู้เป็นเจ้านายด้วยสายตาสนใจใคร่รู้เป็นอย่างมาก แต่ไม่นานทุกคนก็รู้ว่าเธอคือใคร จากปากต่อปากของผู้ที่ได้ไปร่วมงานศพของภรรยาเจ้านาย
“สวยเนอะ หุ่นโคตรดีเลยว่ะ” ชายหนุ่มผู้หนึ่งกระซิบกระซาบกับเพื่อนร่วมงานโต๊ะข้างๆ
“อือ สวยเซียะไปหมดเลยว่ะ อยากให้ออฟฟิศเรามีแบบนี้สักสิบคน”
“แนนอิจฉาเธอมากเลยค่ะพี่วิน อยากสูงแบบนั้นบ้างจัง สูงพอๆ กับเจ้านายเราเลยนะคะนั่น” หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นบ้าง
“ก่อนจะสูงแบบเขาไปลดหุ่นก่อนดีกว่าไหมน้องแนน”
“ก่อนจะมาว่าแนนดูตัวเองก่อนไหมคะพี่วิน ผู้ชายอะไรสูงไม่ถึงร้อยแปดสิบแล้วยังอ้วนลงพุงอีกต่างหาก”
“ก็ผู้ชายของเธอไงล่ะ” ชายหนุ่มจอมทะเล้นชูนิ้วทำสัญลักษณ์ฉันรักเธอ
“แหวะ” หญิงสาวรูปร่างเจ้าเนื้อแต่หน้าตาน่าเอ็นดู เบะปากใส่ชายหนุ่มรุ่นพี่แล้วหันมาสนใจกองงานบนโต๊ะต่อ
“น้องแนนงอนแล้วไอ้วิน จีบไม่ติดแน่” ชายอีกคนหนึ่งหัวเราะเยาะเย้ยเพื่อนปากบอน
“นิดเพิ่งรู้นะคะว่าอาคารนี้เป็นของพี่ราม นิดเข้าใจว่าเป็นออฟฟิศเช่าซะอีก” สิริญ่าบอกกับพี่เขยขณะที่เดินเคียงคู่ไปด้วยกัน
“อาคารนี้เพิ่งสร้างเสร็จได้ประมาณหกเดือนเอง พี่เพิ่งย้ายออฟฟิศมาอยู่ที่นี่เหมือนกัน ตอนแรกอยู่ที่เดียวกับโรงงานเลย”
“แล้วย้ายทำไมคะ”
“พี่อยากจะแยกให้มันเป็นสัดส่วน ที่นี่นอกจากเป็นออฟฟิศแล้วยังมีทั้งห้องพักรับรองแขก ห้องสัมมนา ห้องจัดเลี้ยง ฟิตเน็ต ซาวน่า เรียกว่าครบวงจรสำหรับแขกที่มาพักเลยก็ว่าได้”
“ก็ดีนะคะ เวลาแขกมาจะได้ไม่ต้องไปหาที่พักให้วุ่นวาย ประหยัดงบด้วย”
“หนูนิดพูดเหมือนพี่งกเลยนะ” รามกล่าวยิ้มๆ
“เขาไม่ได้เรียกงกค่ะ แต่เขาเรียกว่ารู้จักบริหารงานต่างหาก ขอบคุณค่ะ” เธอบอกกับเขาเมื่อเขาผายมือให้เธอเดินเข้าไปในลิฟต์ก่อน “ลิฟต์สวยนะคะ ออฟฟิศก็สวย ไม่เสียใจเลยค่ะที่ได้ตามพี่รามมาที่ทำงานด้วยวันนี้” เธอเริ่มชวนคุยอีกครั้งเมื่อลิฟต์ปิด
“ถ้าชอบก็แวะมาบ่อยๆ สิ” รามกล่าวจบลิฟต์ก็เปิดออกพอดี
“พี่ราชอยู่ที่ชั้นนี้ด้วยหรือเปล่าคะ”
“จ้ะ นั่นไงห้องของราช” รามชี้ไปที่ห้องด้านขวามือโดยไม่แวะไปทักทาย “สงสัยไปที่ห้องประชุมแล้ว”
“ค่ะ” เธอตอบรับ เพราะตอนที่นั่งรถมาใกล้จะถึงบริษัท ได้ยินเขาโทรศัพท์ถึงพินแพรว่าอีกสิบนาทีให้เรียกประชุมได้เลย