พี่สาว

1153 คำ
เมื่อกลับถึงในห้องก็เปิดจดหมายออกมาอ่านด้วยความสนใจใคร่รู้ว่าพี่สาวเขียนมาหาตนเรื่องอะไร ‘หนูนิด... พี่จะทำอย่างไรดี พี่ทุกข์ใจเหลือเกินตอนนี้ พี่รามไม่รักพี่แล้ว พี่ถามพี่รามว่าหลอกพี่ทำไม ไม่รักพี่แล้วมาแต่งงานกับพี่ทำไม แต่เขาก็ยังโกหกว่ารักพี่ แต่พอพี่บอกให้ไล่คุณแพรออกเขาก็ไม่ยอม เขาหาว่าพี่คิดมาก เขากับคุณแพรเป็นเพื่อนกันมาก่อนที่จะรู้จักกับพี่ด้วยซ้ำ เขารักเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง บอกให้พี่เลิกระแวงเขากับคุณแพรซะ เพราะเขารักพี่และลูกเท่านั้น แต่พี่รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น ทุกวันนี้คุณแพรเข้าออกบ้านของเราเหมือนเป็นบ้านของเธอเองก็ว่าได้ ถึงแม้พี่รามจะมองว่าผู้หญิงคนนี้คือคนดี แต่สำหรับพี่แล้วเธอคือนางมารในรูปโฉมของนางฟ้า ทุกคำพูดที่อ่อนโยนพี่รู้สึกได้ว่าไม่ใช่คำพูดที่จริงใจ เหมือนเธอต้องการบอกให้พี่รู้ว่าเธอกับพี่รามนั้นมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันมากกว่าพี่น้องคำพูดหลายๆ คำของเธอมันทำให้ใจของพี่คิดมาก พี่ทุกข์ใจเหลือเกินหนูนิด พี่อยากจะเลิกกับพี่รามแล้วกลับไปอยู่ที่บริสเบน แต่พี่จะทำอย่างนั้นได้อย่างไรในเมื่อพี่ยังมีน้องกายอีกคน พี่ยอมให้น้องกายขาดพ่อและสูญเสียทุกอย่างที่จะเป็นของเขาไม่ได้เด็ดขาด พี่จะอดทนให้ถึงที่สุดเพื่อลูก ช่วยเป็นกำลังใจให้พี่สาวที่อ่อนแอคนนี้ด้วยนะ รักและคิดถึงหนูนิดมากที่สุดพี่แก้ว’ สิริญ่าขมวดคิ้วมุ่นกับการเขียนที่สับสน และคราบน้ำตาที่เปื้อนลงบนหน้ากระดาษและรอยหมึกของพี่สาว แล้วหยิบโทรศัพท์ต่อสายไปหาอีกฝ่ายทันทีด้วยความหวั่นใจ “ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะ” เธอกล่าวเสียงเครียดและตัดสินใจโทรหามารดาแทน         (ลูกรัก) “พี่แก้วอยู่ที่นั่นไหมคะคุณพ่อ.. คุณพ่อได้ยินหนูไหมคะ” เธอถามย้ำเมื่อปลายสายจากเมืองไทยไม่ยอมพูดอะไร (ได้ยินแล้วลูก) “แล้วพี่แก้วอยู่ที่นั่นไหมคะ” (อยู่ลูก) “แล้วทำไมพี่แก้วไม่รับโทรศัพท์ของนิดคะ คุณพ่อช่วยส่งโทรศัพท์ให้พี่แก้วหน่อยสิคะ” กรุงเทพประเทศไทย บิลเม้มปากแน่นขณะมองไปที่โลงศพ ไม่รู้จะปลุกเธอให้ลุกมารับสายของลูกสาวได้อย่างไร “พี่เขารับสายของหนูไม่ได้แล้วลูก พี่เขาจากเราไปแล้ว” เขาตัดสินใจบอกความจริงกลับไปเสียงแผ่วเบาโอบกอดภรรยาที่ซบหน้าร้องไห้อยู่กับอกหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของตน (... ไม่จริง ไม่จริง นิดไม่เชื่อ คุณพ่อโกหก) “มันเป็นเรื่องจริงลูก พี่แก้วเขาจากโลกนี้ไปแล้วลูกรัก” (ไม่จริง นิดไม่เชื่อ นิดจะไปดูให้เห็นกับตา) ผู้เป็นบิดาสงสารลูกสาวเหลือเกิน ขนาดเขาเป็นแค่พ่อเลี้ยงเขายังรู้สึกเสียใจ แล้วพวกเธอเป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กจนโต ความผูกพันมันลึกซึ้งยิ่งกว่าเขาเป็นไหนๆ เธอคงเสียใจจนยากที่จะหาคำใดมาเปรียบ “ลูกกำลังจะเดินทางมานะที่รัก”เขาบอกกับภรรยาที่ยังร้องไห้ซบอยู่กับอกเบาๆ “คุณพ่อคุณแม่คะ ทานข้าวสักหน่อยนะคะ กับข้าวตั้งโต๊ะรอเรียบร้อยแล้วค่ะ” พินแพรเดินเข้ามาบอกสองสามีภรรยาที่เป็นบุพการีของภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้วของเจ้านาย “แม่กินไม่ลงหรอกหนูแพร” “ทานสักนิดเถอะนะคะคุณแม่ กว่าจะเสร็จงานอีกหลายวัน ถ้าคุณแม่ไม่ยอมทานอะไรแบบนี้จะล้มป่วยไปอีกคนนะคะ” “ทานข้าวกันเถอะที่รัก ผมหิวมากเลยตอนนี้” บิลพอจะเข้าใจภาษาไทยอยู่บ้าง จึงแกล้งบอกภรรยาเพราะอยากให้เธอได้กินอาหารสักมื้อละสี่ห้าคำก็ยังดี ดวงดาวไม่มีความอยากสักนิดเดียว แต่นางรู้ว่าสามีจะไม่ยอมแตะต้องอาหารแม้แต่คำเดียวถ้าตนไม่ยอมกินด้วย จึงพยักหน้ารับและลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะอาหารภายในโรงครัวของวัด “แพรขอตัวไปดูแลงานก่อนนะคะ” เมื่อส่งทั้งสองท่านถึงโต๊ะอาหารแล้วพินแพรก็บอกลา “แล้วคุณรามล่ะหนูแพร” “พี่รามพาน้องกายไปฉีดวัคซีนค่ะคุณแม่ ตอนแรกหนูจะพาไปแต่พี่รามเขาไม่ยอม เขาบอกให้แพรมาช่วยดูแลที่นี่แทน” “โธ่เอ๊ยตาหนูของยาย” ดวงดาวปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความสงสารหลานชายวัยสามเดือนที่ต้องขาดแม่ “คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ แพรจะช่วยดูแลตากายอย่างดีที่สุดค่ะ” สตรีวัยห้าสิบเศษชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดทะแม่งๆ ของหญิงสาว นางเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายและเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของเธอ “ขอบใจหนูแพรมากนะ” นางคงคิดมากไปเอง เธอเป็นเลขาของลูกเขย รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก พวกเขาคงไม่มีความรู้สึกแบบนั้นต่อกันหรอก “แพรขอตัวก่อนนะคะ” พินแพรผู้สง่างามในวัยสามสิบห้าคลี่ยิ้มหวานละมุนก่อนจะเดินจากไป สนามบินสุวรณภูมิ รามมองเห็นหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งได้สัดส่วนและหน้าตางดงามจนเป็นที่สะดุดตาของใครๆ กำลังลากกระเป๋าเดินทางใบย่อมออกมาก็ยกมือขึ้นโบก เมื่อเห็นเธอยกมือทักทายตอบจึงลดมือลง รอจนเข้ามาใกล้จึงเข้าไปทักทาย “สวัสดีหนูนิด”เขาไม่ได้ตั้งใจมารับเธอ แต่เพราะต้องมาส่งลูกค้าวีไอพีของบริษัทด้วยตนเองพอดี จึงรับอาสาแทนพ่อตาแม่ยาย สิริญ่าถอดแว่นตาดำแล้วพนมมือระดับอก “สวัสดีค่ะพี่ราม” ชายหนุ่มมองหญิงสาววัยยี่สิบเศษๆ แล้วรู้สึกปวดหัวใจตามไปด้วย ดวงตาของเธอบวมช้ำจากการร้องไห้อย่างชัดเจน “พี่ขอโทษนะหนูนิด ที่พี่..” “อย่าเพิ่งพูดเลยค่ะ นิดอยากเจอพี่แก้ว พานิดไปหาพี่แก้วหน่อยสิคะ” เธอโกรธเขาเพราะเธอเชื่อเนื้อความในจดหมายของพี่สาว แต่หลังจากที่นั่งร้องไห้มาตลอดการเดินทางเกือบสิบห้าชั่วโมง ก็ทำให้เธอคิดได้ว่าเธอต้องมีหลักฐานให้มากกว่านี้ ใครถูกใครผิด ใครเลวกว่าใครเธอต้องรู้ความจริงให้ได้ก่อนจะเล่นงานพวกเขา เธอจึงอดทนอดกลั้นไม่แสดงความรู้สึกให้พวกเขารู้ตัว แต่คนที่เธอหมายหัวเอาไว้จริงๆ กลับไม่ใช่เขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม