“จำเอาไว้นะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอย่าขัดใจหรือว่าเถียงคุณคมน์เข้าใจมั้ย?”
ป้าพุ่มกำชับอีกรอบเมื่อเดินมาหยุดหน้าประตูห้องทางด้านซ้ายมือของชั้นสอง หัวใจของรุจิเรศหวาดกลัวกับการก้าวเดินเข้าไปในห้องตรงหน้าเหลือเกิน ในความรู้สึกของเธอตอนนี้ราวกับว่ากำลังเดินเข้าไปในลานประหาร
“หนูนากลัว หนูนากลัวคุณคมน์”
หยดน้ำตาเม็ดใสๆ คลออยู่ตรงขอบตาของคนที่พูด คนที่มองอยู่แทบจะร้องไห้ตามไปด้วย แต่จะทำอย่างไรได้เล่า จริงอยู่นางเป็นคนเก่าคนแก่ของบิดามารดาของคมน์ แล้วยังเป็นแม่นมของเขาอีกด้วย คมน์เชื่อฟังนางทุกเรื่องยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียวที่เขาขอนางไว้ เรื่องที่จะแก้แค้นอังคณามารดาของรุจิเรศ
“ป้ารู้ว่าหนูนากลัว แต่หนูนาอย่าลืมนะ หนูนาเลือกที่จะมาที่นี่ มาเพื่อบ้าน เพื่อพ่อแล้วก็เพื่อพี่ หนูนาต้องอดทนไว้แล้วเรื่องร้ายๆ มันก็จะผ่านไปเอง”
ป้าพุ่มพูดให้กำลังใจได้เพียงเท่านี้ ป้าพุ่มเคาะประตูห้องก่อนจะเปิดบานประตูบานใหญ่เข้าไป รุจิเรศหันมามองหน้าป้าพุ่มอีกครั้ง นางพยักหน้าและยิ้มบางๆ เป็นกำลังใจให้ รุจิเรศเดินเข้าไปในห้องอย่างกล้าๆ กลัวๆ มองชายหนุ่มที่นั่งพิงหัวเตียงไม้ฉลุลายวิจิตสวยงาม หัวใจดวงน้อยเต้นแรงมากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นว่าร่างกายบึกบึนของเขานั้นสวมเพียงผ้าขนหนูเพียงตัวเดียว คล้ายกับเตรียมพร้อมสำหรับเกมรักที่กำลังจะเกิดขึ้น คงเหมือนเธอ เธอเองก็สวมเพียงเสื้อคลุมผ้าลินินสีชมพูอ่อนเพียงตัวเดียวเท่านั้น ภายใต้เสื้อคลุมคือร่างกายที่เปล่าเปลือยของเธอ
“ปิดประตูแล้วล็อคด้วย”
รุจิเรศสะดุ้งกับน้ำเสียงอันทรงพลังและเย็นเยือกของเขา เธอทำตามคำสั่งแต่โดยดี ก่อนจะก้าวเข้าไปหาคมน์อย่างกริ่งเกรง
คมน์มองสาวน้อยร่างเล็กด้วยสายตาที่น่ากลัว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองไปที่ร่างของเหยื่อสาวนิ่ง ประกายตาคู่นั้นร้อนแรงความร้อนนับพันองศาพุ่งตรงมายังร่างของคนที่ถูกมอง จนเธอแทบละลายหายไปในอากาศ ไม่กล้าก้าวเท้าเดินออกไป
“เดินมานี่สิ” เสียงเข้มๆ ดุๆ เอ่ยสั่ง คนที่สั่งเปลี่ยนอิริยาบถของตัวเองด้วยการเลื่อนมานั่งห้อยขาริมเตียง เท้าเปล่าเปลือยก้าวเดินไปหาคนร่างใหญ่ด้วยขาที่ไม่มั่นคงนัก จนกระทั่งเดินมาหยุดตรงหน้าเขา
“นั่งลง” เขาสั่งอีกครั้ง รุจิเรศก้าวเท้าออกมาสองก้าวเพื่อทรุดตัวนั่งลงเตียง กำลังจะหย่อนบั้นท้ายงามลงบนริมเตียง ทว่าเสียงห้าวดังขึ้นอีกครั้ง
“ตรงนี้” มือใหญ่ตบที่หน้าตักของตัวเองเบาๆ สองสามครั้ง เธอถึงกับทำอะไรไม่ถูกจะไม่ทำตามก็ไม่ได้ จะทำตามก็กลัว
“เร็วสิ” น้ำเสียงเย็นเยือกเร่งอีกครั้ง รุจิเรศตกใจกับเสียงที่ได้ยิน ยิ่งมองเห็นใบหน้าเรียบตึง ดวงตาแข็งกร้าวของเขาด้วยแล้ว เธอรีบทรุดกายนั่งบนตักของเขาทันที
มือใหญ่ยกขึ้นมาวางไว้บนบ่าเล็กลูบไปมาจนเธอต้องเอนกายหนี ทว่าลำแขนอีกข้างรัดร่างของเอาไว้ไม่แน่นมากไม่หลวมนัก รุจิเรศหมดหนทางเบี่ยงลำตัวหนีทันที
“กลัวฉันเหรอ?” เขาเลื่อนริมฝีปากมาถามชิดติดใบหูของคนตัวเล็ก แกล้งเป่าลมออกจากปากให้กระทบกับใบหูของเธอเบาๆ ความอุ่นร้อนของแรงลมเป่ามันทำให้เธอถึงกับตัวแข็งทื่อ นั่งก้มหน้านิ่ง ฝ่ามือที่วางอยู่ตรงบ่าเล็กเลื่อนมาลูบไล้บนท้ายทอยเรื่อยมายังแผ่นหลัง ลูบไปมาเบาๆ พร้อมกับบีบนวดไปด้วย มืออีกข้างจับตรงเชือกที่ผูกอยู่ด้านหน้าเสื้อคลุมกระตุกปมให้คลายออก ก่อนจะแยกสาบเสื้อออกจากกัน
รุจิเรศหลับตาปี๋ ลมหายใจเริ่มติดขัด มือเล็กประสานกันแน่นอย่างคนตื่นกลัว มือใหญ่สอดเข้าไปด้านในของเสื้อคลุมสิ่งแรกที่เขาได้สัมผัสก็คือ เนื้อนวลตรงบริเวณท้อง มือซุกซนเลื่อนขึ้นสูงอีกจนกระทั่งถึงก้อนเนื้อสาวเต่งตึง ความอวบใหญ่ของเต้าทรวงที่เขากอบกุมมันใหญ่เกินตัวจริงๆ เนื้อแน่นยิ่งบีบกระชับยิ่งมันมือ
อาการสั่นของร่างสาวทำให้กระทิงดุยิ้มเหี้ยม มือใหญ่ละจากเต้าอวบมาเชยคางมนของเจ้าของดวงหน้าหวานให้เงยขึ้น บังคับให้หน้าสวยหันมาทางเขา
“เมื่อกี้ฉันถามไม่ได้ยินเหรอ ฉันถามว่าเธอกลัวหรือเปล่า?”
ตอนนี้รุจิเรศหลับตาแน่น จึงไม่รู้ว่าหน้าของเขานั้นชิดหน้าของตัวเองมากแค่ไหน รู้เพียงว่าลมหายใจของเขารินรดกับปลายจมูกของเธอ มันรุ่มร้อนไปทั้งกาย หัวใจสาวเต้นเร็วจนเจ็บทรวงอกไปหมด
“กะ กลัวค่ะ” น้ำเสียงของคนตอบนั้นสั่นและเบา คมน์หัวเราะในลำคอมองกิริยาของกระต่ายน้อยที่กลัวสัตว์ตัวใหญ่อย่างชอบใจ
“ไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรต้องกลัว แค่เธอนอนกับฉันแค่นั้นเอง”
เขาพูดเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับหญิงสาวนั้นมันเป็นอะไรที่ยากยิ่ง เป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก มากที่สุดในชีวิตสาว จะเดินต่อไปข้างหน้าก็กลัวหนทางที่ไม่รู้จัก จะเดินกลับหลังชีวิตของครอบครัวของเธอก็จะต้องพัง รุจิเรศจำต้องเดินไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่หวาดกลัว ความกลัวที่อัดแน่นในจิตใจมันทำให้สาวร่างเล็กอยากจะร้องไห้
“ลืมตาขึ้นแล้วมองหน้าฉัน”
เขาสั่งเสียงดุ ใช้ปลายลิ้นใหญ่เลียกลีบปากบนและล่างของเธอไปมา รุจิเรศจะหลบก็หลบไม่ได้เพราะท้ายทอยของตัวเองนั้นถูกมือใหญ่จับเอาไว้มั่น สาวน้อยวัยแรกแย้มหายใจร้อนรน ร่างสาวสั่นมากกว่าเดิม ลมหายใจหอมๆ ของกระต่ายน้อยที่เขาได้สูดดมเข้าไปนั้น กระตุ้นฮอร์โมนทางเพศที่มีอยู่ในร่างกายของเขาให้ตื่นตัว เขารู้สึกร้อนผ่าวบริเวณใจกลางร่างกายเป็นอย่างมาก รุจิเรศค่อยๆ ลืมตาตามคำสั่งของคมน์ เธอตกใจไม่น้อยเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นหน้าเขาในระยะประชิด ดวงตาประสานดวงตา ลมหายใจของทั้งคู่เป่ารดซึ่งกันและกัน ริมฝีปากของหนาพร้อมจุมพิตกลีบปากสั่นระริกได้ทุกเมื่อ สีหน้าของคมน์คล้ายจะพอใจกับสถานการณ์นี้มากนัก