บทที่ 8 เป็นคนแรกที่เอาเธอ

1152 คำ
หลังจากที่ใบข้าวแยกจากเจ้านายชั่วคราว เธอได้ซื้อกับข้าวสอง-สามอย่างติดมือกลับบ้านด้วย เธออยู่กันสองคนกับแม่ แม่ใบข้าวป่วยเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ ทำให้การรักษาแม่ในแต่ละครั้ง ต้องใช้เงินจำนวนมาก เงินที่เก็บไว้ ส่วนใหญ่ก็หมดไปกับการรักษา ไหนจะค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีก โชคดีหน่อยที่ใบข้าวได้ทำงานเงินเดือนดีกว่าที่อื่น และถ้าเธอสามารถทำงานเป็นเลขาให้เพื่อนท่านประธานได้จนจบ เธอก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาของแม่ไปสักพัก "กลับมาแล้วคร้า~" เสียงหวานใสดังขึ้น ในบ้านเดียวขนาดกระทัดรัด ใบข้าวได้ซื้อบ้านหลังนี้ในราคาถูกแสนถูกมาจากเจ้านาย ที่ตอนแรกกะจะรื้อทิ้ง แต่เธอเห็นว่าบ้านมันน่ารัก และเหมาะที่จะอยู่ด้วยกันสองคนแม่ลูก เธอจึงซื้อต่อจากเจ้านาย ผ่อนกับเจ้านาย สบายใจกว่าผ่อนกับธนาคารเยอะ "มาแล้วหรอข้าว" เสียงหญิงวัยกลางคนที่มีรอยเหี่ยวย่นตามวัย แต่ก็ปกปิดความสวยไว้ไม่มิด ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าตอนสาวคงเป็นคนที่สวยมาก "วันนี้ข้าวซื้อกับข้าวที่แม่ชอบมาด้วยนะ" ใบข้าวชูถุงกับข้าวในมือ พร้อมกับเดินเข้ามาในครัว เตรียมแกะกับข้าวให้แม่ทาน ถึงเธอจะทานข้าวกับเจ้านายจำเป็นมาแล้ว แต่เธอจะกลับมาทานข้าวกับแม่ที่บ้านทุกวันที่ทำได้ "วันนี้เป็นไงบ้างลูก เหนื่อยมั้ย" คำถามจากหญิงวัยกลางคน เรียกรอยยิ้มหวานจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี ทุกวันที่กลับบ้านก็จะโดนถามแบบนี้ตลอด แต่ใบข้าวก็ไม่เคยเบื่อเลย ด้วยเธอรู้ว่าแม่เหงาแค่ไหน ที่วันๆต้องอยู่แต่ในบ้าน ไปไหนก็ไม่ได้ ใจจริงใบข้าวก็อยากพาแม่ไปเที่ยว แต่ด้วยงานที่รัดตัว และต้องหาเงินมาเป็นค่ารักษา ทำให้เธอไม่มีเวลาอยู่กับแม่สักเท่าไหร่ อย่างว่า..ได้อย่างเสียอย่าง "ก็ดีนะคะแม่ วันนี้ท่านประธานให้หนูไปเป็นเลขาจำเป็นให้เพื่อนเขาด้วยค่ะ แถมบอกจะให้เงินเดือนเป็นสองเท่า ช่วงที่ไปทำงานให้เพื่อนเขาด้วยนะคะ" "แบบนั้นไม่เหนื่อยแย่หรอลูก" "ไม่เลยค่ะ ถือว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศ อีกอย่างเพื่อนเจ้านายเขามีไปดูงานที่ต่างจังหวัดด้วยนะคะ ไว้ข้าวจะพาแม่ไปด้วยนะ" "ไม่ต้องหรอกลูก แม่อยู่ได้" "แต่ข้าวไม่อยากให้แม่อยู่คนเดียวนี้คะ" "แม่อยู่ได้จริงๆ ลูก" แม่ยังคงยืนกรานแบบนั้น ใบข้าวก็จนใจ ด้วยรู้จักนิสัยแม่ดี จึงไม่อยากเซ้าซี้ พอทานข้าวเสร็จก็เก็บจาน ก่อนขึ้นมาจัดการตัวเอง พิมพ์สรุปรายงานที่ไปตรวจโรงแรมส่งให้คุณเจคอบทางอีเมล์ และปริ้นออกมาสำรองด้วย ก่อนจะเช็ดงานบริษัทที่ลมหนาวส่งมาให้ทางเมล์ เสร็จก็เข้านอน Rrrrrr~~ เสียงดังขึ้นกลางดึกทำให้ใบข้าวต้องลืมตาตื่น ขึ้นมารับโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงร้อง เหลืยบมองนาฬิกาข้างเตียงบอกเวลาตีสอง มองเบอร์ขึ้นโชว์ไม่ได้เมมชื่อ ทำใบข้าวสงสัยไม่น้อยว่าใครโทรมาดึกๆดื่นๆ "สวัสดีค่ะ" เสียงหวานกรอกตามปลายสาย รอสักพักก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากปลายสาย ทำให้เธอต้องพูดอีกครั้ง "สวัสดีค่ะ ใครคะ" [ออกมา] เสียงคุ้นๆตอบกลับมาตามสาย เหมือนใครบ้างคนที่เพิ่งแยกกันไม่กี่ชั่วโมงเลย แต่เขาจะมีเบอร์เธอได้ไง จำได้ว่ายังไม่เคยให้เบอร์เขาเลยน่ะ "คุณเจคอบหรอคะ?" "...." ใบข้าวมองโทรศัพท์อีกครั้ง ก่อนเอาแนบหูเหมือนเดิมเพื่อฟังว่าอีกคนจะพูดว่าไง [ฉันมีไปดูงานที่เชียงใหม่พรุ่งนี้ บินคืนนี้ เก็บของแล้วออกมาได้แล้ว] "เดียวนะคะ! ตารางงานของพรุ่งนี้มัน..!?" [อย่าให้ต้องพูดซ้ำ ฉันรออยู่หน้าบ้าน รีบออกมา] แล้วสายก็ตัดไป ทำใบข้าวอึ้ง ไม่อยากจะเชื่อว่าเขามาถึงบ้านเธอ เพราะเธอไม่เคยบอกเขาว่าบ้านเธออยู่ที่ไหนเลย สองขาก้าวยาวๆตรงไปยังประตูหน้าบ้าน ที่มีกระจกใสๆสามารถมองออกไปนอกบ้านได้ ปรากฏรถหรูคันงามจอดรออยู่หน้าบ้าน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นรถใคร ไม่มีเวลาให้เธอสงสัยอะไรมาก รีบเก็บเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋าเดินทางที่ใข้เป็นประจำ เวลาเดินทางไปดูงานกับท่านประธาน ดีนะที่เธอเคยมีประสบการณ์ถูกเรียกตัวแบบนี้มาก่อน ไม่งั้นหัวหมุนแน่ๆ ใบข้าวคว้าเสื้อคลุมคาดิแกนมาใส่ลวกๆ ทับเสื้อสายเดี่ยวที่ใส่นอนเป็นประจำ ดีนะที่เป็นกางเกงวอร์ม ไม่งั้นเธอต้องเสียเวลาแต่งตัวอีก กระเป๋าถูกลากออกมาหน้าบ้าน กระจกรถคันหรูเลื่อนลง ปรากฏให้เห็นบุคคลที่โทรปลุกเธอกลางดึก ใบข้าวเข้าใจเรื่องการทำงานดี หน้าที่เลขาเหมือนเป็นมือเป็นเท้าให้เจ้านาย เงื่อนไขทุกอย่าง ฉันยอมรับตั้งแต่จรดปากกาเซ็นชื่อลงในสัญญาแล้ว เพื่อเงินเดือนสองเท่าแล้ว เธอทำได้ หลังจากเก็บกระเป๋าแล้ว ใบข้าวตั้งใจจะมานั่งหลังคนขับ แต่กลับถูกอีกฝ่ายที่ทำหน้าที่ขับรถมองแรง จนต้องย้ายมานั่งข้างหน้าคู่คนขับ "ดิฉันไม่รู้เลยค่ะ ว่าตารางของท่านเปลี่ยนกระทันหัน" ใบข้าวพูดขึ้นในขณะที่นั่งอยู่บนรถ เพราะเท่าที่เธอเช็คตารางงานล่าสุดก่อนนอน ยังไม่มีตารางบินเลย "ทำไมเรียกแบบนั้น" เสียงทุ้มเอ่ยถาม ในขณะที่สายตายังจับจ้องที่ถนนใหญ่ ถนนใหญ่ "ก็ท่านเป็นเพื่อนของท่านประธานนี้ค่ะ" "และเป็นคนแรกที่ได้เอาเธอ" คำพูดห้วนๆจากร่างสูงที่กำลังขับรถ ทำเอาใบข้าวสตั้น จะแก้ตัวก็ไม่ได้ เพราะมันคือเรื่องจริง "ทำไมถึงเงียบ" "ก็ไม่มีอะไรจะพูดนี้ค่ะ" เมื่อหญิงสาวพูดจบ ร่างสูงก็หักพวงมาลัยเข้าข้างทางจนคนที่นั่งตกใจ สายตาคมตวัดมองร่างบางไม่พอใจ เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่สนใจเรื่องพวกนั้นของหญิงสาว ต่างจากเขาที่ยังคิดถึงคืนนั้นตลอดเวลา ทุกสัมผัสบนตัวหญิงสาว เขายังจำได้ดี "ทำไม" น้ำเสียงไม่พอใจจากร่างสูงทำใบข้าวใจเต้นตุ่มๆต่อมๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่พอใจ ---ツ---
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม