EP 09 แนะนำเหมือนเดิม - EP 10 เขาจะกลับมาหรือเปล่า?

2484 คำ
มาถึงวันที่หมอนัดเวทมนต์เพื่อไปตรวจดูอาการ เปลวยังคงไม่ได้กลับมาแม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองเดือนกว่าแล้วก็ตาม งานที่ไนจีเรียยังไม่เรียบร้อยเขาจึงกลับมาไม่ได้ อีกทั้งยังวางใจว่าบลูเบลล์จะดูแลลูกชายเพียงคนเดียวของเขาได้เป็นอย่างดี “เตรียมของเรียบร้อยหรือยัง?” เวทมนต์เอ่ยถามขึ้นมาเพราะเขาไม่อยากเสียเวลาที่จะต้องกลับมาเอาอะไร “เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวเราลงไปทานข้าวกันก่อน ค่อยไปโรงพยาบาล คุณพ่อโทรมาบอกว่าแจ้งคุณหมอไว้เรียบร้อยแล้ว” เวทมนต์พยักหน้ารับ ช่วงหลังมานี้ดูเหมือนเขาจะเริ่มอยู่กับเธอได้อย่างดีบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงมีบ้างที่จะชอบพูดจาทำร้ายเธออยู่เรื่อย ๆ ที่สำคัญในทุกวันเขาต้องได้มีเซ็กกับเธอไม่งั้นเขาจะหงุดหงิด “พ่อโทรหาเธอเมื่อไหร?” เมื่อมาถึงโต๊ะทานข้าว เวทมนต์เอ่ยถามในเรื่องที่ค้างคาใจ “เมื่อคืนค่ะ” “ทำไมพ่อไม่โทรหาฉัน” บลูเบลล์เงียบเพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไง ในเมื่อเธอไม่รู้เหมือนกัน “ช่างมันเถอะ” พอรู้ว่าจะไม่ได้คำตอบ เขาก็เลิกใส่ใจ แต่แล้วเสียงสมาร์ททีวีที่กำลังเปิดอยู่ก็ดึงความสนใจไปจากเวทมนต์เพราะชื่อของคนที่เขาไม่ได้ยินมานานถูกเอ่ยถึงในข่าวครั้งนี้ ในรายการคนดังบันเทิง “มาถึงข่าวที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้นะคะ ที่มีรูปหลุดของคุณน้ำฟ้านางแบบชื่อดังกำลังเดทกับหนุ่มปริษนา…” เวทมนต์หูดับเมื่อได้ยินว่าคนรักเก่าของเขากำลังเดทกับคนอื่น โดยที่เขายังอยู่ที่เดิมกับความรู้สึกเดิม ๆ เธอไปเริ่มต้นใหม่แล้ว แต่เขาไม่ได้ไปไหนเลย “ปิดซะ!” “ว่าไงนะคะ?” บลูเบลล์มั่วแต่ตั้งใจฟังจึงไม่ได้ยินเท่าไหร่ เธอไม่รู้ว่าน้ำฟ้าผู้เป็นคนรักของเวทมนต์คือคนในข่าวที่เธอกำลังให้ความสนใจ เพราะเธอถือว่าเป็นแฟนคลับของน้ำฟ้าเลยก็ว่าได้ “ฉันบอกให้ปิด หูหนวกหรือไงว่ะ!” บลูเบลล์รีบกดปิดทีวีจากรีโมทด้วยความหวาดหวั่น เธอไม่รู้สาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ ก่อนจะมานึกได้ว่าแฟนเก่าของเวทมนต์ชื่อน้ำฟ้า “หนูขอโทษนะคะ” “ฉันไม่กินแล้ว จะไปรอที่รถ” เวทมนต์ค่อย ๆ ลุกจากที่นั่งและเริ่มใช้ไม้เท้านำทางไปยังรถ แต่เพราะสติและสมาธิของเขาไม่มี ชายหนุ่มเอาแต่คิดถึงเรื่องที่ได้ยินจนไม่ระวัง ก้าวพลาดบันไดหน้าประตูใหญ่ “คุณเวทมนต์!” บลูเบลล์ร้องเรียกดังลั่นด้วยความตกใจ แบงค์อยู่ห่างเกินกว่าจะคว้าได้ทัน เป็นบลูเบลล์เดินตามมาและคว้าเขาไว้แทน ด้วยน้ำหนักตัวที่หนักกว่าทำให้ทั้งคู่ล้มลง โชคร้ายคือบลูเบล์เป็นคนที่ได้รับแรงกระแทกเต็ม ๆ “คุณเวทมนต์ หนูบลูเบลล์” แบงค์รีบวิ่งเข้ามาในทันทีและประคองเวทมนต์ให้ลุกขึ้น “บลูเบลล์ เธอล้มเหรอ?” เวทมนต์ถาม สีหน้าของเขาแสดงความตกใจออกมาชัดเจน “ไม่เป็นไรค่ะ คุณเวทมนต์เจ็บตรงไหนมั้ยคะ?” บลูเบลล์พยายามจะลุกมาดูร่างกายของชายหนุ่ม แต่แขนของเธอกลับไม่สามารถค้ำยันรับน้ำหนักได้ “โอ๊ย!” “เธอเป็นอะไรน่ะ?” เวทมนต์รีบถามเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่ายร้องเสียงหลงแบบนั้น “ขะ..แขนหนู” หญิงสาวหน้าซีดเพราะรู้ถึงความผิดปกติของร่างกาย “ลุงแบงค์ ผมยืนได้ ไปช่วยเธอ” น้ำเสียงที่ดูร้อนรนของเขาทำให้บลูเบลล์ที่กำลังกลัวความเจ็บยิ้มได้บ้าง อย่างน้อยที่เขาแสดงออกตอนนี้มันก็ดีว่าเหมือนเขาจะเป็นห่วง แต่มันก็แค่เหมือน เธอไม่กล้าจะเข้าข้างตัวเองขนาดนั้น “โทรหาไอดีให้กู” เมื่อพากันขึ้นมาบนรถแล้ว เวทมนต์เอ่ยสั่งการ์ดที่นั่งมากับแบงค์เสียงเข้ม “นี่ครับ” หลังจากกดโทรเรียบร้อย การ์ดก็ส่งโทรศัพท์ส่งคืนให้เจ้านายหนุ่ม “ว่าไง?” ไอดีเอ่ยทักทายคนที่เขาไม่ค่อยเห็นเบอร์โทรเข้ามาบ่อยมากนัก เพราะเจ้าตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่ในช่วง ห้าเดือนหลังมา “เตรียมหมอให้กู” “เตรียมให้แล้ว อาเปลวโทรมาสั่งตั้งแต่เมื่อวาน” “ไม่ใช่หมอกู กูหมายถึงหมออีกคน” ไอดีแปลกใจไม่น้อย “ที่บ้านมึงใครเป็นอะไร?” เขาถามเพื่อนชายด้วยความร้อนใจเพราะกลัวว่าเวทมนต์นั้นจะเจ็บไปด้วย ยิ่งเขามองไม่เห็นแบบนี้คนรอบข้างยิ่งไม่วางใจ “คู่หมั้นกู” ไอดีเงียบกริบเมื่อได้ยินแบบนั้น “เตรียมให้กูด้วย ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกูจะถึง” “อืม” จากนั้นเขาก็กดวางสาย และวางโทรศัพท์ที่ข้างตัว “เธอเจ็บมากหรือเปล่า?” “ไม่เป็นไรค่ะ หนูทนได้” บลูเบลล์ที่เห็นสีหน้าไม่ดีของเวทมนต์ทำเอาเธอรู้สึกผิดที่ไม่ระมัดระวัง แต่ความจริงเป็นเวทมนต์ต่างหากที่ไม่ระวัง “ทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว” “ค่ะ” “ขับเร็ว ๆ หน่อยลุงแบงค์” ไม่วายเขายังหันไปสั่งคนขับอีก “ได้ครับ” แบงค์อมยิ้มบาง ๆ ที่เห็นว่าเวทมนต์เริ่มมีความรู้สึกห่วงคนอื่นบ้างแล้ว โดยเฉพาะเขารู้สึกแบบนี้กับบลูเบลล์มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อยเลย พอมาถึงโรงพยาบาล แบงค์ถูกสั่งให้ไปคอยดูบลูเบลล์ตอนตรวจ ส่วนเวทมนต์เลือกจะไปกับการ์ดอีกคน เขาไม่อยากให้ร่างบางมาอดทนเจ็บเพื่อฟังว่าอาการของเขาเป็นยังไง “คุณเวทมนต์ครับ ผมอยากแนะนำเหมือนทุกครั้งที่มา รีบรักษาเถอะนะครับ ก่อนที่จะไม่มีโอกาส” “ถ้าผมผ่าตัด ผมจะมีสิทธิ์หายมากแค่ไหน?” เวทมนต์เอ่ยถามแบบนั้นทำเอาหมอมีความหวัง “หายแน่นอนครับ แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวสักนิด” เขาไม่ได้ตกลงที่จะรักษาเพียงแค่พยักหน้ารับเบา ๆ “รีบตัดสินใจนะครับ หมอกลัวว่าทิ้งไว้นานกว่านี้มันจะรักษายาก” “อืม” หลังตรวจเสร็จ การ์ดเตรียมจะพาเวทมนต์ไปรอที่รถ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ยอม “พาไปหาบลูเบลล์หน่อย” “แต่ว่า…” สุดท้ายคำพูดที่อยากจะขัดเจ้านายก็ต้องกลืนลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขนาดเขามองไม่เห็นแต่ยังสามารถทำให้ขนลุกกับแววตาแบบนั้นได้ “อ้าว ทำไมไม่พานายไปรอที่รถ?” แบงค์ที่เห็นเวทมนต์เดินมาห้องตรวจ จึงเอ่ยถามการ์ด “ผมให้พามาเอง บลูเบลล์ล่ะ?” “เหมือนจะต้องใส่เฝือกครับ” แบงค์รายงานตามสถานการณ์แต่ดูเหมือนมันทำให้เวทมนต์ขมวดคิ้ว “เป็นเยอะมากเหรอ?” “ครับ ตอนล้มเหมือนหนูบลูเบลล์จะเอาตัวเองกันไม่ให้คุณเวทมนต์แขนกระแทกขอบบันได” ยิ่งได้ยินแบบนั้นเวทมนต์ยิ่งหงุดหงิด “โง่หรือไงว่ะ” เบาพูดเบา ๆ กับตัวเอง หงุดหงิดที่เธอต้องมาเจ็บตัวเพราะเขา แต่หากเธอไม่ทำแบบนั้น วันนี้เวทมนต์คงจะได้พบแพทย์ทีเดียวสองคน และสุดท้ายก็เป็นไปตามคาด แขนขวาของบลูเบลล์จะต้องใส่เฝือกเพราะกระดูกแตก ซวยกว่านั้นคือเธอเป็นคนถนัดขวา นั่นหมายถึงว่าเธอจะไม่สามารถดูแลเวทมนต์ได้อย่างเต็มที่ หลังจากที่หมอใส่เฝือกเสร็จ แบงค์รับหน้าที่เป็นคนที่ไปเคลียร์ค่ารักษาพยาบาล ส่วนบลูเบลล์และเวทมนต์การ์ดพาเดินไปนั่งรอในรถ ตั้งแต่เธอออกจากห้องตรวจชายหนุ่มไม่พูดกับเธอสักคำเลย “คุณโกรธหนูเหรอคะ?” เธออึดอัดและอยู่กับความเงียบแบบนี้ไม่ได้เลยเอ่ยถามไป “ฉันจะไปโกรธเธอทำไม?” “เอ่อ ที่หนูเจ็บตัว อาจจะทำให้ดูแลคุณได้ไม่มากพอ” “ไม่หนิ ก็ดีแล้วเพราะถ้าเธอไม่เจ็บก็เป็นฉันที่เจ็บ” ปากร้าย ๆ ของเวทมนต์มันคงไม่สามารถเลิกได้เพียงเพราะแค่เธอเจ็บตัวหรอก ที่เธอคิดว่าเขาห่วงความจริงเขาแค่ห่วงตัวเอง ไม่ใช่เธอ “อ๋อค่ะ” เธอพยายามจะทำเสียงให้สดใสที่สุด เวทมนต์รู้สึกได้ว่าเธอฝืน แต่เขาเลือกจะไม่พูดอะไรต่อและด่าทอตัวเองในใจแทนกับความปากไวแบบนี้ “เจ็บมากหรือเปล่าล่ะ?” “ไม่มากค่ะ” ความจริงคือสวนทาง แต่หากพูดแบบนั้นไปเธอกลัวจะทำให้เขารู้สึกแย่ ซึ่งความจริงก็อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยก็ได้ “แบบนี้ก็ยังเอากันได้อยู่ใช่มั้ย?” เวทมนต์ก้มลงไปกระซิบเบา ๆ มันทำให้เธอเขินจนหน้าแดง แต่ไม่กล้าพูดตอบอะไรกลับมาเพราะกลัวว่าคนด้านหน้าจะได้ยิน “ว่าไง ยังขย่มฉันได้หรือเปล่า” แต่ดูเหมือนคนเอาแต่ใจอยากจะให้เธอตอบ “นะ..น่าจะได้ค่ะ” “เดี๋ยวฉันจะช่วยประคองเธอเอง” เขาพูดและยิ้มบาง ๆ ก่อนจะดีดตัวมานั่งที่เดิม ไม่นานรถก็เดินทางมาถึงบ้าน เวทมนต์มีการ์ดคอยรับ ส่วนบลูเบลล์เธอประคองตัวเองได้ไม่ลำบากมากนักจึงเดินเองและคอยรอเขาเพราะกลัวว่าเวทมนต์จะก้าวพลาดอีก “ไม่ต้องรอฉัน เดินเข้าไปเถอะ แดดมันร้อน” “ไม่เป็นไรค่ะ” “ฉันสั่ง ไม่ได้ขอร้อง อย่าขัด” น้ำเสียงดุ ๆ แบบนั้นทำให้เธอต้องยอมอย่างเลี่ยงไม่ได้ “คุณเวทมนต์จะขึ้นข้างบนเลยมั้ยครับ ลุงจะขึ้นไปส่ง” “ผมไปเองได้อยู่ครับ ไม่เป็นไร” เขาไม่ชอบให้ใครเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวที่อยู่กับเธอโดยไม่จำเป็น เมื่อก่อนก็ไม่ขนาดนี้ แต่เดี๋ยวนี้นอกจากบลูเบลล์แทบไม่มีใครได้เข้าห้องเวทมนต์เลย แม่บ้านจากที่เคยไปได้ก็ไม่ได้เหมือนกัน “แต่ว่า…” “ผมไปได้ครับ” สุดท้ายแบงค์ก็เถียงไม่ได้ มันคือสิ่งที่เวทมนต์ต้องการ “ทำอะไรอยู่?” “ว๊าย!” บลูเบลล์ไม่ตั้งตัวเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามา เธอจึงพยายามจะเปลี่ยนเสื้อที่สวมใส่อยู่ “ร้องทำไม เจ็บตรงไหน” “ปะ..เปล่าค่ะ หนูแค่กำลังจะเปลี่ยนเสื้อ” “แล้วไง อายฉันเหรอ ฉันมองไม่เห็นหรอก ถึงมองเห็นมันมีอะไรให้น่าอายอีก เอากันทุกวัน” เขาไหวไหล่สบาย ๆ และเดินไปนั่งที่เตียง “คุณรอแปปนึงนะคะ หนูขอเข้าไปอาบน้ำก่อน ที่โรงพยาบาลมีเชื้อโรคเยอะ จัดการตัวเองเสร็จหนูจะรีบเตรียมน้ำให้คุณ” “ไม่ต้องรีบ” “คะ?” เธอทวนอย่างตกใจ ปกติเขาเร่งเธอทุกอย่างที่เธอทำเลยก็ว่าได้ “แขนเดี้ยงแบบนั้น รีบเดี๋ยวฉันก็ได้พาไปโรงพยาบาลอีกรอบ ค่อย ๆ ทำ วันนี้ฉันจะเป็นเด็กดีนั่งรอเธอ” บลูเบลล์หน้าแดงกับคำว่าเด็กดี มุมแบบนี้ของเวทมนต์น่ารักจนเธออยากถ่ายวิดีโอไว้เป็นความทรงจำ เผื่อวันนั้นที่คนรักของเขากลับมาแล้วเธอจะต้องไป เธอจะได้มีอะไรไว้ดูตอนที่คิดถึงเขา “งะ..งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ” เธอเดินหันหลังจากไป ส่วนเวทมนต์หลุดยิ้มหลังจากรู้ว่าทำให้เธอเริ่มเสียอาการ ความสุขหมดไปเมื่อเสียงข่าวบันเทิงเมื่อเช้าแทรกเข้ามาในหัวของเขา ใบหน้าของชายหนุ่มเรียบนิ่งไปเป็นคนละคน เขาคอยถามตัวเองมาตลอดว่านอกจากที่เขาตาบอดแล้วมีอะไรที่ทำให้น้ำฟ้าต้องทิ้งเขาไป แต่สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบ เขาเป็นคนรักที่บกพร่องตรงไหน เขาก็ว่าไม่ จากที่เคยเจ้าชู้หลับนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า พอมีเธอเขาก็เลิกจนหมด ทำไมเธอถึงเลือกจากเขาไปง่ายดายขนาดนี้ และเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มันทำให้เธอลืมเรื่องของเราได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมเธอทำได้แต่เขาทำไม่ได้ ตอนนี้เวทมนต์มีความคิดหลายอย่างเข้ามาเต็มหัวไปหมด รวมถึงเรื่องที่หมอแนะนำให้เขารักษา เขาคิดไม่ตก จากที่เคยมั่นใจว่าจะรอให้คนรักเก่าคิดได้และหวนคืนกลับมาก่อน เขาถึงจะยอม ตอนนี้มันกลับไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว แต่เขาแค่ยังแยกไม่ออกว่าเพราะอะไร ระหว่างที่เขากำลังจะตัดใจได้ กับ การอยากหายดีเพื่อได้ไปตามง้อเธอ เรื่องของความรักมันไม่เคยง่ายเลยจริง ๆ ความจริงระหว่างเขากับน้ำฟ้านั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หญิงสาวคนนั้นเริ่มจีบเขาก่อน แต่เพราะความน่ารักและสดใส เธอไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาไปหลับนอนด้วย จึงทำให้เวทมนต์หลงไปกับมัน และท้ายสุดก็ลงเอยด้วยการคบกัน โชคดีของน้ำฟ้าคือช่วงนั้นเวทมนต์เบื่อกับการใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย เขาอยากมีสักคนข้างกายในวันที่เหนื่อยล้า น้ำฟ้าจึงเป็นคนที่เขาตกลงปลงใจว่าจะมั่นคงที่คนนี้ แต่สุดท้ายพอมันไม่เป็นดั่งที่หวัง พอเขาต้องเสียเธอไปเพราะอุบัติเหตุ มันจึงทำให้เวทมนต์ไม่อยากยอมรับความจริง หลายต่อหลายคนที่บอกว่าน้ำฟ้าเห็นแก่ตัวที่เลือกทิ้งเขาไป แต่เจ้าตัวกลับไม่คิดแบบนั้นซ้ำยังพยายามเข้าใจเธอด้วยซ้ำ และหวังว่าเธอแค่ตัดสินใจไปด้วยความผิดพลาด ไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีก่อน เขาอยากให้เธอได้ทบทวน เฝ้ารอให้เธอกลับมา แต่มันก็ไม่ใช่เหมือนที่เขาคิดไว้เช่นเคย เธอเลือกทางใหม่ เลือกคนใหม่ที่มีประสิทธิภาพพอจะดูแล เวทมนต์จึงถามตัวเองซ้ำ ๆ ในวันนี้ ถ้าเขารักษาหาย ถ้าเขากลับมาปกติมองเห็นได้ เธอจะกลับมารักเขาเหมือนเดิมมั้ย “คุณเวทมนต์คะ หนูเตรียมน้ำเสร็จแล้วค่ะ” ในระหว่างที่เขากำลังอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง จู่ ๆ เสียงของบลูเบลล์ก็ดังขึ้นมา “บลูเบลล์” “คะ?” “เธอว่าถ้าฉันมองเห็นเหมือนเดิม ถ้าฉันหาย…” “คุณต้องหายแน่นอนค่ะ” ยังไม่ทันจบประโยคที่เขากำลังจะถาม เธอก็ให้กำลังใจเขาเสียก่อน “ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เธอว่าน้ำฟ้าจะกลับมาหาฉันมั้ย ถ้าฉันดูแลเขาได้ เขาจะกลับมาหรือเปล่า?” “…”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม