NEXT FRIEND 07
*********************************
วันต่อมา
“ต้องตาฉันขอถามอะไรแกหน่อยสิ”
“อืม ได้ดิจะถามอะไรอ่ะ
“นี่แกไม่คิดจะชอบพิราบหน่อยเหรอ เห็นพิราบมันจีบแกแบบเอาเป็นเอาตายเลยนะ นี่ถ้าลากแกไปฟัดได้มันก็คงทำไปนานแล้ว” จี๊ดที่เห็นว่าพิราบชอบไปรับไปส่งฉันเป็นประจำ และวันนี้เขาก็มาส่งฉันที่คณะอีกมันก็เลยถามขึ้นมา ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบพิราบนะ ฉันน่ะชอบพิราบแต่ไม่ได้ชอบเขาแบบคนรัก ฉันชอบที่เขาเป็นเพื่อนที่ดีกับฉัน เพราะไม่เคยมีเพื่อนคนไหนยอมให้ฉันมากขนาดนี้ และรู้ด้วยว่าที่เขายอมเพราะเขาชอบฉันไง เขาอยากให้ฉันเป็นของเขาเลยเร่งทำคะแนนเป็นผู้ชายที่แสนดี แต่ฉันยังไม่ยอมใจอ่อนให้เขาง่ายๆ หรอก ถ้ายอมง่ายๆ เขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนตัวเองน่ะสิ ฉันไม่อยากให้เขาเป็นคนอารมณ์รุนแรง อะไรไม่ได้ดั่งใจก็โวยวายพังข้าวของ คนแบบนี้ฉันไม่มีทางคบด้วยแน่ เพราะคบไปดีไม่ดีเขาอาจจะพลั้งมือทำร้ายฉันขึ้นมาก็ได้ ก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอานิสัยไม่ดีแบบนี้มาจากไหน เพราะพ่อแม่เขาเป็นคนที่ใจเย็นมากเลยนะ ฉันเคยถามอาโฟร์ด้วยนะว่าทำไมพิราบถึงมีนิสัยรุนแรงแบบนี้ทั้งที่พ่อแม่ก็ไม่เคยสอนเขาแบบนั้น คำตอบที่ได้คือเมื่อก่อนพิราบไม่ได้ได้อารมณ์รุนแรงขนาดนี้หรอก แต่เป็นเพราะว่าเขาโดนรังแกบ่อยๆ และโดนแย่งของเล่นจากเพื่อนตลอด เลยทำให้เขาโตมาเป็นคนที่จำอะไรฝังใจมาตั้งแต่เด็ก และที่เขาแสดงอาการเกรี้ยวกราดเพราะไม่อยากให้คนอื่นเข้ามารังแกได้อีก และอยากแสดงให้คนที่เขารักเห็นว่าเขาสามารถดูแลเธอคนนั้นได้
“พิราบทำให้หนูปวดหัวหรือเปล่าต้องตา?”
“ก็มีบ้างนิิดหน่อยค่ะอาโฟร์ หนูขอถามอะไรได้มั้ยคะ ทำไมพิราบเขาอารมณ์รุนแรงจังเลยคะ ไม่เหมือนอาโฟร์เลยที่ดูเป็นคนใจเย็นมาก”
“จริงๆ พิิราบก็ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนหรือโมโหร้ายหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะว่าตอนเด็กเขาถูกรังแกบ่อยๆ น่ะ ก็เลยทำให้โตขึ้นมามีอารมณ์เกรี้ยวกราดไปบ้างเพื่อไม่ให้คนอื่นเข้ามาทำร้ายตัวเองได้อีก”
“อย่างนั้นเองเหรอคะ?”
“แต่พิราบก็ไม่ใช่คนที่ชอบหาเรื่องคนอื่นก่อนหรอกนะ อีกอย่างที่เขาแสดงออกแบบนั้นเพราะอยากให้คนที่เขารักรู้ว่าเขาสามารถดูแลเธอได้น่ะ แต่จริงๆ แล้วพิราบเป็นคนที่มีเหตุผลในการทำอะไรลงไปนะ เชื่ออาสิ”
ความจริงแล้วพิราบเป็นคนใจเย็น แต่ถ้ามีอะไรมายุ่งกับของของเขา เขาก็จะเปลี่ยนโหมดโหดเข้าสิงทันที ฉันก็เลยรู้ไงว่าไอ้ที่เขาเกรี้ยวกราดมันเป็นเพราะเขาหวงฉัน ที่จริงเขาก็บอกฉันมาตลอดนะ แต่ฉันก็พยายามทำเป็นไม่รับรู้เพราะไม่อยากให้เขาคิดกับฉันไปไกลเกินกว่าเพื่อนเท่านั้นเอง และที่ฉันต้องปฏิเสธเขาบ่อยๆ ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าฉันไม่อยากให้ความหวังเขา ถ้าเกิดว่าฉันไม่ปฏิเสธแล้วตามใจเขาทุกอย่าง เขาก็จะคิดว่าฉันอาจจะมีใจให้เขาก็ได้ และนั่นมันก็จะยิ่งทำให้เขาเสียใจ ถ้าเกิดเขารู้ว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย ตอนนี้เพื่อนฉันมันก็เลยมองว่าฉันใจร้ายที่ปฏิเสธพิราบมาตลอด แต่ไม่มีใครรู้เลยไงว่าเหตุผลที่ฉันทำแบบนั้นเพราะอะไร ที่ทำไปก็เพราะเป็นห่วงความรู้สึกเขา ฉันไม่เคยให้ความหวังเขาเลยนะ ถ้าฉันไม่ได้ชอบ ฉันก็บอกไปตรงๆ แต่เขาก็ยังดื้อที่จะทำให้ฉันเป็นของเขาให้ได้อ่ะ
“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับพิราบมากกว่าคำว่าเพื่อนเลยนะจี๊ด”
“สรุปแล้วแกไม่คิดจะรักหรือชอบพิราบเลยว่างั้นเหอะ?” จี๊ดจ้องหน้าฉันเพื่อต้องการคำตอบ แต่ฉันไม่มีคำตอบให้มันหรอก ฉันไม่ใช่คนประเภทที่มีคนมาชอบก็ชอบเขาไปหมดหรอกนะ จริงอยู่ที่พิราบดีกับฉันและอยู่ข้างฉันมาตลอด แต่ฉันคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่ฉันจะตอบรับเขาเท่านั้นเอง ถ้าเขาทำในสิ่งที่ฉันต้องการไม่ได้ฉันก็จะไม่คบกับเขา ลองคิดดูสิว่าตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันเขายังทำให้ฉันลำบากใจเวลาที่มีเพื่อนผู้ชายเข้ามาคุยกับฉัน แล้วถ้าฉันเป็นแฟนเขาเชื่อเหอะว่าฉันไม่ได้ออกจากห้องแน่ๆ เขาก็คงล่ามโซ่ฉันเอาไว้ไม่ยอมให้ฉันเข้าใกล้ผู้ชายคนไหนหรอก
“ก็คนมันไม่ชอบอ่ะ จะให้ชอบให้ได้ยังไงล่ะ”
“ระวังเหอะต้องตาแกเล่นตัวแบบนี้นานๆ อาจจะมีคนมาแย่งพิราบไปจากแกก็ได้ พิราบมันก็หน้าตาดีมีผู้หญิงเข้าหาเยอะนะ ที่มันไม่สนใจใครเพราะมันชอบแกไง ถ้าแกเมินมันบ่อยๆ มันอาจจะถอดใจไปคบคนอื่นก็ได้นะ”
“...” ฉันมองหน้าจี๊ดที่พูดเพื่อให้ฉันยอมใจอ่อนให้พิราบได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาพิราบก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถดูแลฉันได้ เขาไม่ได้เพิ่งมาทำดีกับฉันแค่ไม่กี่วันที่เขาบอกชอบฉันหรอกนะ เขาทำดีกับฉันมานานแล้วหลายสิบปีแล้วด้วย อยู่ข้างฉันมาตลอดไม่ว่าฉันจะเจอเรื่องแย่ๆ มากแค่ไหนเขาก็ไม่เคยทิ้งฉันเลย แต่เข้าใจมั้ยว่าฉันไม่ได้ชอบพิราบแบบนั้นไง เรารู้จักกันมานานเป็นเพื่อนกันมาหลายสิบปี แล้วจู่ๆ จะเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนมันก็ยังไงอยู่ เพราะเรารู้จักนิสัยใจคอกันหมดแล้ว จริงๆ แล้วฉันไม่จำเป็นต้องคบกับพิราบเป็นแฟนก็ได้นะ เพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ไม่ใช่สถานะเพื่อนแล้วมันแทบจะเป็นแฟนกันอยู่แล้วเนี่ย เพราะอะไรรู้มั้ย ก็เพราะพิราบไม่เคยมองฉันเป็นเพื่อนเขาเลยไง เขาชอบคิดว่าฉันเป็นเมียเขาอยู่ตลอด ออกอาการหึงหวงทุกครั้งที่ฉันเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่น แบบนี้มันเหมือนเพื่อนกันป่ะล่ะ ฉันเองก็บอกให้เขาเลิกทำแบบนี้นะ แต่เขาก็ไม่ยอม บอกว่าถ้าให้เขาทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับฉันเขาทำไม่ได้เพราะความรู้สึกที่เขามีต่อฉันมันมากกว่าเพื่อนมาตั้งนานแล้ว แถมอาโฟร์ยังสนับสนุนให้ลูกตัวเองจีบฉันอย่างเต็มที่ เพราะพ่อเขาอยากได้ฉันเป็นลูกสะใภ้มากๆ โดยไม่ถามฉันเลยว่าฉันอยากเป็นหรือเปล่า และไม่ใช่แค่พ่อแม่พิราบนะที่อยากได้ฉันเป็นลูกสะใภ้ พ่อแม่ฉันเองก็อยากได้เขาเป็นลูกเขยเหมือนกัน ดูเหมือนจะยัดเยียดฉันให้เป็นเมียพิราบนั่นแหละ แต่พิราบก็ดีนะที่เขาไม่ได้เร่งรัดให้ฉันตอบรับเขา เขาบอกว่าให้ฉันแน่ใจว่าต้องการเขาจริงๆ แล้วค่อยตอบรับเขาก็ได้ แต่รู้อะไรมั้ยว่าคนอย่างพิราบไม่ได้เป็นคนที่มีความอดทนสูงขนาดนั้น จริงอยู่ที่เขาเคยบอกฉันว่าไม่ได้เร่งรัดฉันแต่การกระทำของเขามันไม่ใช่ไง ยิ่งฉันเมินเขา เขาก็ยิ่งหัวรุนแรงหนักกว่าเดิมมันเหมือนบังคับฉันทางอ้อมให้ฉันตอบรับเขา
“แกนี่มันใจแข็งเกินไปหรือเปล่าวะเนี่ย ผู้ชายดีๆ เข้าหาดันไม่รัก นี่ถ้าพิราบจีบฉันนะฉันคบกับเขาตั้งแต่วันแรกที่เราบอกชอบแล้ว เพราะรู้จักกันมาตั้งนานไม่ต้องดูใจกันก่อนแล้วล่ะ”
“แล้วแกเข้าใจคำว่าไม่ได้ชอบหรือเปล่า ฉันไม่ได้ชอบพิราบแล้วจะให้รักเขาได้ยังไง”
“ทั้งที่พิราบทำดีกับแกขนาดนี้เนี่ยนะไม่ชอบ หรือแกชอบคนเลววะ”
“อีบ้า” ฉันดันหน้าผากจี๊ดให้ออกห่างจากฉันทันทีที่มันบอกว่าฉันชอบคนเลว ไม่มีใครชอบคนเลวหรอก แต่คนไม่ใช่ก็คือไม่่ใช่ไง จะให้มันใช่ก็ไม่ได้ป่ะ
พอเรียนเสร็จก็เห็นพิราบมานั่งรอฉันอยู่ใต้ตึกคณะ และมันก็เป็นแบบนี้ประจำจนฉันชินไปแล้วล่ะ นี่ก็สงสัยนะว่าเขาไม่มีเรียนเหรอถึงได้มาอยู่เฝ้าฉันได้ทุกวันทุกเวลาแบบนี้ ที่เขาทำแบบนี้เพราะเขาไม่อยากปล่อยฉันให้อยู่ห่างจากสายตาเขาไง เขาเคยบอกฉันแล้วว่าเขาหวงฉันมาก ถ้าทำได้เขาอยากจะเข้าไปนั่งเฝ้าฉันในห้องเรียนด้วยซ้ำ คิดดูแล้วกันว่าเขาน่ะมันหวงหนักขนาดไหน แต่ฉันก็ไม่ได้ไปต่อว่าอะไรเขาหรอกเพราะมันเป็นความชอบของเขา ฉันเคยบอกไม่ให้เขาทำแล้วแต่เขาก็ไม่ฟังฉันก็เลยไม่บอกอีกเลย เพราะต่อให้บอกยังไงเขาก็ไม่คิดที่จะทำตามอยู่แล้วไง
“ไม่มีเรียนหรือไงนายอ่ะ มานั่งรอฉันได้ทุกวันเลยนะ”
“ก็อยากให้เธอเห็นความเสมอต้นเสมอปลายของฉันไง”
“เหอะ พูดแบบนี้ไม่ได้ทำให้ฉันหวั่นไหวกับนายได้หรอก”
พิราบที่เห็นฉันกำลังเดินไปหาเขา เขาก็รีบวิ่งเข้ามาหาแล้วแย่งหนังสือในมือฉันไปถือให้ เขาก็ทำแบบนี้ทุกครั้งนั่นแหละที่มารับฉันน่ะ เขาบอกว่าการที่ตัวเองทำแบบนี้มันเหมือนฟีลคนเป็นแฟนกัน ฉันแยกกับจี๊ดแล้วเดินไปที่รถของพิราบแต่ยังไม่ทันจะได้เดินไปถึงรถ จันตารุ่นน้องที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกับเราก็เดินเข้ามาขวางทางเอาไว้ เธอไม่ได้มองฉันเพราะเธอกำลังมองไปยังพิราบที่เดินตามหลังฉันมา พิราบเงยหน้าจากหนังสือที่ถือให้ฉันมองไปที่จันตาที่มาหาเขา ฉันรู้ว่าจันตาชอบพิราบ ชอบมากเลยแหละและชอบมานานแล้ว ตั้งแต่ที่เราเรียนโรงเรียนด้วยกันแล้ว แต่พิราบไม่ได้ชอบเธอแต่เธอก็ไม่ละความพยายามยังคงตามตื๊อเขาอยู่อย่างนั้นเผื่อว่าเขาจะยอมใจอ่อนคบกับเธอ จะว่าไปมันก็เหมือนฉันตอนนี้เหมือนกันนะที่พิราบตามจีบฉันอยู่แต่ฉันก็ไม่ยอมใจอ่อนให้เขาสักที
“จันตา?”
“จันตาโทรหาพี่พิราบเป็นร้อยๆ สายทำไมไม่รับสายจันตาเลยล่ะคะ?” จันตามองไปที่มือถือของพี่ราบที่เขาถืออยู่ตอนนี้ แสดงว่าตอนที่เขามานั่งรอฉันจันตาโทรหาเขาแต่เขาไม่ยอมรับสายเธอเลยงั้นเหรอ เธอทำหน้าเศร้าที่พิราบไม่ยอมตอบรับเธอสักทีทั้งที่เธอก็ชัดเจนขนาดนี้แล้ว พิราบไม่ได้พูดอะไรเหมือนไม่อยากแก้ตัวว่าที่เขาไม่ยอมรับสายเพราะไม่อยากรับหรือไม่อยากคุยกับเธอ จันตาเดินเข้าไปหาพิราบแล้วจับมือเขาเพื่อขอให้เขาเห็นใจเธอ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะยืนอยู่ตรงนี้ดีมั้ยเพราะมันไม่ใช่เรื่องของฉันเลย พิราบหันมามองฉันเหมือนจะสั่งทางสายตาว่าห้ามไปไหนทั้งนั้นถ้าเขาไม่ได้สั่ง ฉันก็เลยได้แต่ยืนมองดูพวกเขาคุยกันเงียบๆ “ทำไมพี่พิราบใจร้ายกับจันตาจังเลยล่ะคะ ถ้าไม่ว่างอย่างน้อยก็รับสายแล้วบอกว่าไม่ว่างก็ยังดี”
“โอเค คราวหน้าถ้าพี่ไม่ว่าพี่จะบอกจันตานะคะ และตอนนี้พี่ก็ไม่ว่างเพราะต้องไปกินข้าวกับต้องตางั้นพี่ไปก่อนนะ” พิราบพูดยิ้มๆ แต่รู้อะไรมั้ยว่าคำพูดของเขาน่ะมันแฝงไปด้วยความรำคาญที่ส่งถึงจันตา นี่ขนาดฉันเป็นคนอื่นยังรู้สึกแปลกๆ กับประโยคที่พิราบพูดเมื่อกี้เลย ถ้าเขาพูดแบบนี้กับฉัน ฉันเองก็หน้าเสียเหมือนกันนะ พิราบเดินมาหาฉันแล้วใช้มือข้างหนึ่งโอบไหล่ฉันต่อหน้าจันตา เธอหันหน้ามามองฉันแล้วเอ่ยถามทันทีเหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมพิราบต้องทำแบบนี้ด้วย
“พี่ต้องตาเป็นแฟนกับพี่พิราบเหรอคะ?”
“มะ...” ฉันที่กำลังจะปฏิเสธก็ถูกพิราบพูดแทรกขึ้นมาก่อน ทำให้ฉันต้องเงียบไป
“ไม่ใช่แฟนหรอกแต่เป็นคนสำคัญที่สุดของพี่ ใครแตะต้องไม่ได้” พิราบหันมายิ้มให้ฉันเหมือนเขาจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าฉันคือคนที่เขาแคร์มากที่สุดและไม่ต้องการปล่อยฉันไปให้ใครด้วย ได้ยินสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้แล้วมันก็ทำให้หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมา เพราะทุกครั้งเขาจะพูดกับฉันแค่สองคนไง แต่นี่กลับพูดต่อหน้าคนอื่นแบบนี้มันก็รู้สึกเขินๆ ยังไงไม่รู้ เชื่อมั้ยว่าไม่เคยมีใครพูดกับฉันแบบนี้มาก่อนเลย มันเหมือนว่าฉันเป็นคนที่สำคัญกับเขามากจนเขาขาดไม่ได้ และหวงฉันไม่อยากให้ใครมาทำอะไรฉันทั้งนั้น พิราบเป็นคนแรกที่พูดแบบนี้ เขาไม่ได้ดีแต่พูดนะเพราะเขาทำอย่างที่พูดจริงๆ ตอนอยู่มัธยมศึกษาปีที่หกฉันเคยถูกเพื่อนในห้องแกล้งเอาสมุดการบ้านไปซ่อนทำให้ไม่มีการบ้านส่งครู พอพักเที่ยงพิราบไปรื้อกระเป๋าเพื่อนทุกคนและยังเอาสมุดการบ้านวิชาอื่นของทุกคนในห้องไปเผาทิ้งหมดเลย เพราะเขาถามแล้วว่ามีใครเห็นสมุดการบ้านของฉันหรือเปล่า ถ้าไม่มีแสดงว่าสมรู้ร่วมคิดกัน เขาก็เลยแก้แค้นแทนฉัน ทำให้เพื่อนในห้องไม่มีใครได้ส่งการบ้านวิชานั้นเลย เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันมาตั้งนานแล้วล่ะ “จันตามีอะไรอีกป่ะพอดีคนของพี่น่าจะหิวแล้ว ช่วงนี้ต้องดูแลอย่างดีเดี๋ยวตอนขึ้นเตียงไม่มีแรงขย่ม”
“ไอ้พิราบ!!!”