NEXT FRIEND 03
******************************
“แล้วนี่จะพาไปไหนอีก?”
“ไม่มีกางเกงในจะใส่ ก็เลยมาซื้อตัวใหม่”
“มาคนเดียวก็ได้มั้ยล่ะ จะลากฉันมาด้วยทำไม”
“ก็อยากให้เมียมาช่วยเลือกไม่ได้ไง?”
“นายนี่มันเหลือเกินจริงๆ เลยนะพิราบ”
พิราบไม่ได้พาฉันกลับหอแต่พาฉันมาที่ห้างแทน เขาบอกว่ากางเกงในเขาไม่มีจะใส่ก็เลยให้ฉันมาซื้อเป็นเพื่อนเขา
นี่ก็งงว่าซื้อคนเดียวไม่ได้หรือไงทำไมจะต้องลากฉันมาเป็นเพื่อนด้วย
ฉันไม่ใช่เพื่อนผู้ชายของเขานะที่จะชวนมาซื้ออะไรแบบนี้ ฉันอยากนั่งรอในรถแต่พิราบก็ไม่ยอมบอกว่าถ้าฉันไม่พาเขาไปซื้อเขาจะไม่ยอมพากลับ
นี่ก็บังคับกันเกินไปหรือเปล่า
ฉันเดินกระแทกเท้าตามหลังพิราบไปที่ร้านขายกางเกงในผู้ชาย ฉันรอเขาอยู่หน้าร้านแล้วให้เขาเข้าไปซื้อคนเดียว
ที่จริงเขาก็ไม่ยอมแต่ฉันไม่มีทางเข้าร้านขายกางเกงในผู้ชายกับเขาแน่ๆ ฉันมองเข้าไปในร้านก็เห็นพิราบกำลังมองมาที่ฉันพอดีเหมือนเขาไม่อยากให้ฉันห่างสายตาเขาไปไหน
นี่ฉันเริ่มคิดว่าเขาเป็นโรคจิตแล้วนะ อะไรคือการที่ไม่อยากให้ฉันอยู่ห่างจากสายตา แล้วยังบีบบังคับไม่ให้ฉันอยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่นนอกจากเขาด้วย
นี่ฉันคิดว่าตัวเองไม่ได้อยู่กับเพื่อนแต่อยู่กับพ่อแล้วนะเนี่ย เอาจริงพ่อฉันก็ไม่ได้ขนาดนี้หรือเปล่า
นี่ยังนึกภาพไม่ออกเลยว่าต่อไปฉันจะใช้ชีวิตยังไงถ้าพิราบยังตามหวงฉันแบบนี้ไม่เลิกอ่ะ
“พี่ต้องตามาทำอะไรที่นี่คนเดียวครับ?”
ฉันที่มองพิราบเลือกซื้อกางเกงในอยู่ก็หันไปมองข้างหลังก็เห็นว่ามีรุ่นน้องของฉันเดินเข้ามาทัก
เขายิ้มให้ฉันที่ยืนอยู่คนเดียว ฉันยิ้มตอบบอกว่ามาเดินห้างกับเพื่อน ส่วนเขาก็มากินข้าวกับเพื่อนแต่เห็นฉันก็เลยเข้ามาทัก
“พี่มาซื้อของกับเพื่อนน่ะ”
“แล้วเพื่อนพี่ไปไหนล่ะครับทำไมปล่อยพี่ยืนอยู่คนเดียว?”
“เพื่อนพี่เลือกซื้อของ พี่ก็เลยยืนรออยู่ที่นี่”
ฉันกับรุ่นน้องยังคุยกันไม่ถึงสองประโยคด้วยซ้ำพิราบก็ตรงเข้ามากระชากแขนฉันอย่างแรงให้ไปยืนอยู่ข้างเขาแล้วหันไปจ้องหน้ารุ่นน้องฉันอย่างเอาเรื่อง แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ชวนหาเรื่องมากด้วย
แล้วนี่อะไรอีกอ่ะ ไม่ถามอะไรเลยสักคำจู่ๆ มาถึงก็หาเรื่องกันเลยนะ เพราะแบบนี้แหละฉันถึงไม่ค่อยอยากไปไหนมาไหนกับเขา
เพราะเขาเป็นคนที่ชอบชวนคนอื่นมีเรื่องด้วยตลอดเวลาเลย การที่เขาหวงฉัน
ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ อยากหวงก็หวงเพราะฉันก็เข้าใจเขาไงว่าเขาชอบฉัน แต่การที่หวงแล้วมีเรื่องกับคนอื่นอื่นไปทั่วแบบนี้มันก็ไม่ไหว
และฉันก็ไม่ชอบสิ่งที่เขาทำมากด้วย ฉันบอกเขาหลายครั้งแล้วว่าเขาควรมีเหตุผลมากกว่านี้
และควรใจเย็นให้มากกว่านี้ด้วย ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็พร้อมบวกตลอด เขาควรเห็นใจฉันบ้าง
นี่ก็แทบจะไม่มีใครคบฉันอยู่แล้วเพราะเขาคนเดียวเลยไง แต่ว่าไม่ว่าฉันจะพูดยังไงเขาก็ไม่คิดจะฟังหรอก เพราะถ้าเขาฟังเขาก็คงไมาทำแบบนี้
“น้องมีไรกับเมียพี่ป่ะ?”
“พิราบ”
ฉันเรียกชื่อพิราบให้หยุดพูด นี่มันรุ่นน้องฉันนะเขาไม่มีสิทธิ์มาพูดจาหาเรื่องแบบนี้ ไอ้นิสัยเถื่อนถ่อยของเขาน่ะลดๆ ลงบ้างก็ได้นะ
นี่พูดตรงๆ เลยนะว่าถ้าเขามีเหตุผลมากกว่านี้ ไม่ใช้อารมณ์ฉันก็อาจจะยอมคบกับเขาก็ได้
ที่ฉันไม่ยอมคบกับเขาก็เพราะเขามันเป็นพวกชอบหาเรื่องคนอื่นไง อะไรไม่ได้ดั่งใจเข้าหน่อยก็โวยวายชกต่อยตลอด
นี่ถ้าฉันเป็นผู้ชายก็คงโดนเขาชกหน้าเข้าให้แล้วล่ะ นี่เป็นแค่เพื่อนยังขนาดนี้ ถ้าฉันเป็นเมียเขาจริงๆ เชื่อเหอะว่าเขาคงหวงฉันมากกว่านี้แน่ๆ
“นี่รุ่นน้องฉันนะพูดอะไรเกรงใจกันหน่อยไม่ได้หรือไง อย่าหาเรื่องได้มั้ย”
“แล้วพูดไม่ได้ตรงไหนวะ ก็แค่ถามว่ามีอะไรกับเมียหรือเปล่า”
“พิราบ ถ้าพูดไม่รู้เรื่องฉันจะไม่พูดกับนายแล้วนะ”
“อะไร นี่ยังไม่ได้พูดหาเรื่องอะไรเลยนะเว้ย อย่าใส่ร้ายขอร้อง”
“ไอ้พิราบ”
ฉันเดินหนีออกมาจากตรงนั้นทันทีเพราะรู้ว่าถ้าเดินออกมาแบบนี้พิราบจะต้องตามมาแน่ๆ และมันก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อพิราบวิ่งตามฉันมา
ที่ฉันต้องให้เขาตามมาเพราะไม่อยากให้เขาไปหาเรื่องรุ่นน้องฉันแบบนั้น พิราบวิ่งมาดักหน้าฉันเอาไว้ไม่ยอมให้ฉันได้เดินหนีเขาแถมยังชักสีหน้าไม่พอใจใส่อีกต่างหาก
เมื่อกี้ฉันไม่ได้ผิดนะ คนที่ผิดมันเป็นเขาต่างหากล่ะที่ทำอะไรใช้แต่อารมณ์ ฉันไม่ได้อยากจะโทษพ่อแม่เขาหรอกนะที่เลี้ยงลูกให้โตมาเป็นแบบนี้
เพราะฉันรู้จักอาโฟร์กับน้ารัน ทั้งสองน่ารักมากแต่คนที่ไม่ฟังก็คงจะเป็นไอ้บ้าพิราบนี่แหละ
แต่เขาก็ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครนะ เขาเหป็นแค่กับฉันคนเดียว หวงฉันคนเดียว เพราะเพื่อนคนอื่นเขาก็ไม่ได้มาหวงอะไรแบบนี้เลย
“ทำไมต้องเดินหนีแบบนี้”
“ไม่อยากอยู่คุยกับนาย เบื่อ รำคาญ”
“แต่เมื่อกี้ฉันไม่ผิดป่ะ ฉันไม่ได้หาเรื่องเด็กเธออ่ะ ก็แค่ถาม”
นี่ยังคิดว่าตัวเองไม่ผิดอีกเหรอ การที่พูดด้วยน้ำเสียงหาเรื่องแบบนี้คือไม่ผิดงั้นเหรอ
ก็ถ้าเขาถามดีๆ ฉันจะโมโหแบบนี้หรือเปล่าล่ะ การที่เขาใช้น้ำเสียงหาเรื่องรุ่นน้องฉันมันทำให้ฉันเข้ากับคนอื่นได้ยาก เพราะไม่มีใครอยากยุ่งกับฉัน
เรื่องนี้ฉันก็บอกเขาไปหลายรอบแล้ว ฉันก็คิดว่าเขาจะเข้าใจ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนเดิม โคตรเหนื่อย โคตรเบื่อมากเลย
อยากจะต่อว่าให้มากกว่านี้เหมือนกันแต่ก็ทำไม่ได้ไงเพราะไม่อยากทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนต้องมีปัญหา อีกอย่างพ่อแม่เราก็รู้จักกันด้วย
“ที่ทำทั้งหมดเพราะฉันหวงเธอนะเว้ย”
“ถ้าหวงแล้วเป็นแบบนี้ คราวหลังก็ไม่ต้องมาหวงเพราะมันทำให้ฉันอึดอัดเข้าใจมั้ย”
“เธอหรือเปล่าล่ะที่ผิด ที่คุยกับผู้ชายคนอื่นทั้งที่ก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ”
ฉันมองหน้าพิราบกลับไปโดยไม่ละสายตาไปไหนเพราะฉันคิดว่าตัวเองไม่ผิด และเขาก็คงจะรู้ว่าถ้าทำให้ฉันโกรธเขาจะต้องโดนอะไรบ้าง
ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบโกรธใครพร่ำเพรื่ออยู่แล้ว แต่ถ้าใครที่ทำให้ฉันโกรธได้นี่คือสุดแล้วจริงๆ
พิราบเองก็เคยโดยฉันโกรธแล้วเพราะเขาไปต่อยหน้าพี่ชายที่เป็นญาติของฉันที่ยืนกอดฉันอยู่ เขาเข้าใจผิดคิดว่าฉันกับญาติตัวเองแอบคบกัน
แล้วรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่พูดกับเขาเป็นอาทิตย์เลยล่ะ จนเขาง้ออยู่นานมากก็เลยยอมหายโกรธ
นี่ฉันก็เริ่มคิดหนักแล้วนะว่าถ้าฉันอยากจะมีแฟนเหมือนคนอื่นเขาบ้างต้องทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากพิราบได้
เพราะดูท่าว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ฉันมีแฟนง่ายๆ หรอก ไม่ว่าผู้ชายคนไหนเข้าหาฉันเขาก็จะไล่ตะเพิดตามไปหาเรื่องจนคนพวกนั้นไม่กล้าเข้ามาจีบฉันอีกเลย
เขาบอกว่าคนเดียวที่ฉันควรคบก็คือเขาไม่ใช่ผู้ชายคนอื่น มันดูเหมือนการบังคับ และใช่เขากำลังบังคับฉันอยู่
เขาบอกว่าถ้าฉันกล้าที่จะนอกใจเขา เขาจะตามไปกระทืบผู้ชายพวกนั้นให้ต้องมาบอกเลิกฉันเอง
คิดดูแล้วกันว่าเพื่อนฉันคนนี้มันโรคจิตขนาดไหนที่คิดเองเออเองว่าฉันเป็นเมียเขาแล้วห้ามนอกใจอ่ะ แล้วตอนนี้เขาก็มองฉันตาขวางด้วย
“โคตรเหนื่อยที่จะพูดกับนายมากเลยพิราบ”
“นี่เผลอแป๊บเดียวแม่งมีผู้ชายเข้าหาเลยนะ ไปอ่อยท่าไหนล่ะถึงได้ตามมาหาถูก?”
อ้าว ไอ้บ้านี่พูดอย่างกลับไม่รู้จักฉันดีอย่างนั้นแหละทั้งที่ก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว อย่างฉันน่ะเหรอจะไปอ่อยใคร
“จะพูดอะไรก็ให้เกียรติกันหน่อยนะ”
“ขอโทษก็ได้”
“…”
ฉันเลือกที่จะไม่พูดกับเขาแล้วเดินหนีออกมาก็เห็นร้านไอศกรีมร้านที่ฉันเคยมากินกับพิราบเมื่อนานมาแล้วและเราก็ไม่ได้มาด้วยกันอีกเลย
ฉันหมุนตัวกลับไปหาเขาก็เห็นว่าเขามาถึงตัวฉันเร็วมาก ฉันเลยชี้นิ้วไปที่ร้านไอศกรีมบางทีการที่ได้นั่งกินอะไรเย็นๆ อาจจะทำให้เขาอารมณ์เย็นลงก็ได้
เวลาที่เขาโมโหน่ะเขาชอบโวยวายดีไม่ดีอาจจะตามไปหาเรื่องรุ่นน้องฉันก็ได้ พิราบเลิกคิ้วถามว่าฉันอยากกินเหรอ ฉันพยักหน้าแล้วพาเขาเข้าร้านไอศกรีม
“อยากเอาใจฉันว่างั้นเหอะ แล้วแบบนี้อยากได้กำลังใจจากฉันหรือเปล่าล่ะ?”
พิราบกำลังจะยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มฉันแต่ฉันก็ดันหน้าผากเขาออกไปทันที ถ้ารางวัลของเขาเป็นการหอมแก้มฉันน่ะบอกเลยว่าไม่ต้องมาให้รางวัลฉันหรอกเพราะฉันไม่อยากได้
“เอาช็อกโกแลตคาราเมลสองที่ค่ะ”
ฉันเดินไปสั่งแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะว่าง เวลาที่ฉันมากินกับพิราบก็มักจะสั่งแต่เมนูนี้ประจำฉันก็เลยไม่ต้องถามเขาว่าจะกินรสไหน
พิราบเดินมานั่งตรงข้ามกับฉัน เขาเอามือเท้าคางจ้องหน้าฉันยิ้มๆ เหมือนตอนนี้เจ้าตัวกำลังอารมณ์ดีมากต่างจากเมื่อกี้ลิบลับเลย
แต่ก็ดีแล้วล่ะเขาจะได้เลิกหาเรื่องฉันสักที อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงเป็นเมนส์ของพิราบน่ะฉันเจอมาทุกรูปแบบแล้วล่ะ
และชินมานานแล้วด้วยก็ไม่เลยไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่กับอารมณ์ที่ดูเหมือนคนเป็นไบโพลาร์
ฉันหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเพื่อรอให้พนักงานมาเสิร์ฟแต่ยังไม่ทันจะได้เปิดหน้าจอด้วยซ้ำพิราบก็แย่งมือถือไปจากมือฉันทันทีแล้วหุบยิ้ม
“เวลาอยู่กับฉันก็ต้องสนใจฉันดิไม่ใช่สนใจอย่างอื่นมากกว่าฉัน แบบนี้ไม่น่ารักนะคะเดี๋ยวจะโดนโป้งนะ”
ฉันจ้องหน้าพิราบอย่างไม่ชอบใจที่เขาชอบทำเหมือนเป็นเจ้าของฉันทั้งที่มันไม่ใช่เลย
ฉันก็บอกเขาหลายครั้งแล้วนะว่าอย่ามาก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของฉันมากเกินไปเพราะมันทำให้ฉันไม่มีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง
เขาจะหวงฉันหรือคิดไปเองว่าฉันเป็นอะไรกับเขาก็ได้แต่เขาไม่มีสิทธิ์มาแย่งเอาพื้นที่ส่วนตัวของฉันไปจนหมดแบบนี้ฉันไม่โอเค
ฉันจ้องหน้าคนตรงหน้าเพื่อที่จะขอมือถือคืนให้ฉันด้วย และดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าฉันต้องการอะไรแต่เขาก็ไม่ยอมคืนให้ฉัน
เขาบอกว่ากินเสร็จแล้วจะยอมคืนให้ ยังไม่ทันที่เราจะได้เคลียร์กันเสร็จเสียงมือถือฉันก็ดังขึ้น ทำให้พิราบจ้องเข้าไปที่หน้าจอแล้วเงยหน้ามองฉัน
เขายื่นมันคืนให้ทันทีที่หน้าจอมันขึ้นชื่อพ่อฉัน ทีอย่างนี้ล่ะไวเชียวนะ แต่ฉันจะบอกอะไรให้ว่าคนที่โทรเข้ามาไม่ใช่พ่อฉันหรอกแต่เป็นพี่แวนน่ะ
ที่ฉันไม่ยอมเมมชื่อพี่แวนเพราะพิราบชอบแอบเอามือถือฉันไปเล่นเดี๋ยวจะมีเรื่องกันอีก เพราะเขารู้ว่าฉันแอบชอบพี่แวนอยู่
ฉันกำลังจะลุกออกไปคุยด้านนอกพิราบก็สั่งห้ามแล้วให้ฉันนั่งคุยตรงนี้ให้อยู่สายตาเขาเพราะเขาไม่อยากให้ฉันห่างสายตาอีกแล้ว
ก็ถ้าเขาจ้องหน้าฉันแบบนี้ฉันจะกล้ารับได้ยังไง ดีไม่ดีเขาอาจจะตะโกนเข้าไปในสายให้เป็นเรื่องอีก ฉันก็เลยปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้นไม่คิดที่จะกดรับ
“ไมไม่รับ?”
“เดี๋ยวค่อยโทรกลับก็ได้ พ่อคงไม่มีธุระอะไรสำคัญหรอก”
ฉันกำลังจะเก็บมือถือเขากระเป๋าแต่พิราบก็จับมือฉันเอาไว้ซะก่อน เขาแย่งมือถือฉันไปอีกครั้งแล้วกดเข้าไปดูเบอร์เมื่อกี้ที่โทรเข้ามา
เขาขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนกำลังจับผิดฉันอยู่ ก่อนที่มุมปากของเขาจะปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
เห็นแบบนั้นฉันก็รู้ได้ทันทีเลยว่าโดนเขาจับได้แล้วแน่ๆ เพราะมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ฉันคิดดีไม่ได้เลย
“ไม่ยักรู้ว่าพ่อเธอจะเบอร์เหมือนคนที่เธอเคยแอบชอบ”