“ฮือๆ” เด็กสาวนั่งกอดเข่าตัวเองพลางก้มหน้าร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด เธอหวาดกลัวทุกคนรอบข้าง แม้จะไม่มีใครเป็นอันตรายกับเธอก็ตาม “หนูนาอยากกลับบ้าน ฮือๆ ~”
“หนูนา...”
ยามเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองจากใครบางคน ยิ่งทำให้เธอร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม เธอปิดตาแน่นแล้วส่ายหน้าไปมาด้วยความหวาดกลัว
“หนูนาอยากกลับบ้าน ฮือๆ” เธอพูดทวนประโยคเดิมซ้ำๆ ความหวาดกลัวมันถาโถมเข้ามาในจิตใจของเธอหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถปลอบเธอให้หยุดร้องไห้ได้ แม้แต่คนใช้ในบ้านที่เป็นผู้หญิงก็ไม่สามารถทำให้เธอดีขึ้นได้
“เอาตัวเธอมานี่” คำสั่งของคามินทำลูกน้องร่างกำยำคนหนึ่งเดินมาฉุดหนูนาขึ้นจากพื้น การกระทำนั้นยิ่งทำให้เด็กสาวปล่อยโหออกมาจนสุดเสียง
“ฮือๆ ปะ..ปล่อย อย่าทำหนูนานะคะ หนูนากลัวแล้ว ฮือๆ” เธอพยายามบ่ายเบี่ยงสุดฤทธิ์เพราะคิดว่าตัวเองกำลังจะมีอันตราย เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอสู้อีกฝ่ายไม่ไหว “กรี๊ด! ฮือๆ อย่าทำหนูนาอึก!”
พรึ่บ!
คามินรับร่างเด็กสาวเอาไว้ในตอนที่เธอสะบัดแขนตัวเองออกจากพันธนาการของคนร่างใหญ่ จนเซเสียหลักล้มหน้าคะมำเข้าหาตัวของคามินที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว
คามินอุ้มร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของตัวเองพร้อมต่อสู้กับอารมณ์รุนแรงของเด็กสาว เธอกรี๊ดร้องและดิ้นพล่านบนตักของคามินอย่างไม่คิดชีวิต
“ปล่อยหนูนานะ ฮือๆ ปล่อย”
“หนูนา!” เพียงแค่เรียกชื่อของเด็กสาวแล้วกดเสียงลงต่ำ ก็ทำเอาคนตัวเล็กตกใจกลัว เธอหยุดดิ้นอัตโนมัติแต่เสียงสะอื้นไห้ยังคงอยู่ ร่างกายบอบบางสั่นเทาเพราะยังผวากับเสียงเรียกเมื่อครู่
“...” ดวงตาคู่สวยที่เคยปิดแน่น ค่อยๆ ลืมขึ้นมามองรอบๆ ห้องกว้าง ทำให้เห็นสายตาหลายสิบคู่ต่างก็จ้องมองมาที่เธอเป็นทางเดียว เธอส่ายหน้าไปมาเพราะไม่รู้จักใครเลยสักคน ก่อนจะค่อยๆ มองคามินอย่างหวาดกลัว
“ยะ..อยากกลับบ้านค่ะ คุณช่วยพาหนูนากลับบ้านได้ไหมคะ”
เธอพยายามกลั้นเสียงร้องเพื่อประคองเสียงพูดของตัวเองไม่ให้สั่นเครือ ขอบตาของเด็กสาวบวมปูดเพราะเกิดจากการร้องไห้อย่างหนัก
“เรียกแด๊ดดี้”
“นะ..หนูนาอยากกลับบ้าน ฮือๆ”
“เรียกแด๊ดดี้ก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่คุยด้วย” ใบหน้าสวยหวานเลอะไปด้วยหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่คนตรงหน้าสั่งให้ทำ เด็กสาวกลืนน้ำลายตัวเองอย่างฝืดคอ ก่อนจะตัดสินใจทำตามคำสั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“แด๊ดดี้~” หนูนาเรียกคนตรงหน้าเสียงแหบแห้งเพราะร้องไห้จนเสียงหาย เธอไม่กล้ามองหน้าของคามินตรงๆ เพราะยังกลัวอยู่
“หนูนาอยู่กับแด๊ดดี้นะ” เสียงพูดของเขาช่างนุ่มนวล แต่ไม่ได้ช่วยให้คนตัวเล็กหวาดกลัวเขาน้อยลงเลย
“หนูนาอยากกลับบ้าน พาหนูนากลับบ้านได้ไหมคะ”
คามินมองเด็กสาวอย่างชั่งใจ เธอคงยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หรืออาจจะรู้แล้วแต่ยังทำใจยอมรับความจริงไม่ได้
“หนูนาจะให้แด๊ดดี้ไปส่งบ้านที่ไหน บ้านที่หนูนาอยู่ถูกยึดไปแล้วนะ”
“อึก! ฮือๆ ลุงกับป้าของหนูนาไปไหน” เขาจะบอกความจริงกับเธอได้อย่างไร ว่าตอนนี้เธอถูกทิ้งให้อยู่ตัวคนเดียว
“นั่นสิ ลุงกับป้าของหนูนาไปไหน” มือหนาเช็ดน้ำตาออกจากแก้มสวย ทั้งที่สายตาคมคายจ้องมองเด็กสาวนิ่งๆ
“พวกเขาทิ้งหนูนาเหรอคะ” เธอพอจะปะติดปะต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ ก่อนหน้านี้ที่ถูกปล่อยให้อยู่บ้านตามลำพังมากว่าสองสัปดาห์ เพราะคิดว่าลุงกับป้าคงพาลูกๆ ของพวกเขาไปเที่ยว แล้วทิ้งให้เธออยู่เฝ้าบ้าน
หลายครั้งที่มีคนมารื้อบ้านของลุงกับป้า เธอหวาดกลัวและหลบอยู่ละแวกนั้นไม่กล้าเข้าบ้าน เพราะคิดว่าเป็นโจร
แต่แล้ววันนี้เธอเจอกับลุงของเธอ ลุงบอกว่าจะพาเธอไปอยู่ด้วย ก่อนที่สติของเธอจะเลื่อนลาง ตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในที่ที่แปลกหูแปลกตา ความหวาดกลัวที่สะสมมาหลายสัปดาห์ทำให้เธอร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ลุงกับป้าทิ้งหนูนาทำไม”
“ไม่รู้สิ แด๊ดดี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน” คามินพูดพร้อมล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมา เพื่อเปิดภาพบางอย่างที่เขาเพิ่งได้มาจากคนเป็นแม่ให้เด็กสาวดู “นี่พ่อกับแม่ของหนูนาใช่ไหม”
“...” เธอพยักหน้ารับรัวๆ พร้อมจ้องไปที่ภาพอย่างไม่ละสายตา “แด๊ดดี้รู้จักพ่อกับแม่ของหนูนาด้วยเหรอคะ”
เขาพยักหน้ารับเพื่อทำให้เธอสบายใจ เด็กสาวเริ่มมีรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปาก เพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัย
“หนูนาอยู่กับแด๊ดดี้นะ” คามินไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น เพราะคิดว่ารอให้เธอโตกว่านี้ก่อนแล้วค่อยอธิบายทุกอย่างให้เธอเข้าใจ