น้ำรินกลับมาที่บ้านพ่อแม่ของตัวเองด้วยสภาพอ่อนล้าคุณนายวิภาวดี เมื่อเห็นลูกสาวกลับมาสภาพนั้นก็รู้สึกแปลกใจ
“เป็นอะไรจ้ะลูกริน ทำไมสภาพเป็นแบบนี้”
ผู้เป็นแม่เลิกคิ้วถามด้วยท่าท่างเป็นห่วงเป็นใย ร่างบางที่ผ่านการร้องไห้มาอย่าหนัก ตอนนี้ก็เริ่มตาแดงๆ น้ำตาใสๆ ทำท่าจะเอ่อล้นออกมา
“รินจะหย่าค่ะแม่ รินจะหย่า รินทนผู้ชายคนนั้นไม่ไหวแล้ว ทั้งหยาบคาย ทั้งรังเกียจริน แถม เค้า..เค้า”
“เค้าอะไรยัยริน”
ผู้เป็นพ่อแทรกขึ้นมาหลังจากได้ยินการสนทนาของลูกสาวและมารดา
“ปล้ำรินค่ะ!”
พูดเสร็จน้ำตาหญิงสาวก็ไหลลงมาไม่ขาดสาย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า รินลูกหย่าไม่ได้หรอกนะ ลูกแต่งงานแล้วและอีกอย่าง นั่นสามีลูกนะ เค้าไม่น่าจะเรียกว่าปล้ำหรอก”
ผู้เป็นบิดาหัวเราะออกมาด้วยความขำขัน
“พ่อก็!ลูกเสียใจอยู่นะ “
คุณนายวิภาวดีหันไปมองค้อนสามี
“งั้นก็ปลอบกันเข้าไป ถึงได้นิสัยเสียเอาแต่ใจอยู่แบบนี้ก็เพราะคุณนั่นแหร่ะคุณหญิง แต่ยังไงพ่อก็ไม่ให้หย่าหรอกนะ หย่าไม่ได้เด็ดขาด “
“คุณแม่คะ อือ อือ งั้นรินขอนอนบ้านนะคะคืนนี้”
หญิงสาวยังสะอึกสะอื้นโผเข้ากอดผู้เป็นมารดา
“จ้าๆๆ รินไม่ต้องไปใหน คืนนี้นอนที่นี่แหละ เดี๋ยวแม่โทรคุยกับฝั่งพ่อแม่นายธีร์เอง”
มารดาได้แต่ส่ายหน้าอ่อนอกอ่อนใจกับลูกสาว ใช่!นางตามใจน้ำรินจนมากเกินไปจริงๆ ลูกถึงได้เอาแต่ใจขนาดนี้
ขนาดวันแรกของการร่วมหอหล่อนยังทนไม่ได้ขนาดนี้ คงจะไปแผลงฤทธิ์ให้ธีรภัทรโกรธ ไม่งั้นไม่เป็นแบบนี้ ผู้ชายอย่างธีรภัทร ไม่ใช่ผู้ชายใจร้อนเจ้าอารมณ์ขนาดนั้น นางก็ได้แต่หวังว่า ธีรภัทรจะทำให้น้ำรินเป็นคนที่ดีขึ้นกว่านี้
???
ธีรภัทรหงุดหงิดเมื่อผู้เป็นมารดาโทรมาให้ไปรับน้ำรินกลับบ้าน หลังจากหล่อนหายไป2-3วันคงจะโกรธเขาเรื่องวันก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่ได้คิดจะไปตามหญิงสาวกลับ รู้สึกโล่งซะอีกที่ไม่มีเธอมากวนประสาทเขา
‘คงแล่นไปฟ้องพ่อกับแม่ ยัยตัวแสบเอ้ยย! จะคำราบนิสัยแย่ๆ แบบเธอได้อย่างไร’
ธีรภัทรได้แต่ถอนหายใจเมื่อนึกถึงหญิงสาวผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของเขาอย่างสมบูรณ์….ยกเว้นเรื่องเดียวที่เขาคิดว่าเธอจะไม่มีวันได้จากเขาก็คือ’ ความรัก’ ของเขานั่นเอง
“แม่คะ รินขอเอาบุ๋งๆ ไปด้วยนะคะ รินเหงา”
หญิงสาวพูดถึงสุนัขพันธุ์โกลเด้นตัวโตสีเหลืองเข้ม ที่หญิงสาวเลี้ยงเอาไว้
“ได้สิจ้ะ แล้วนี่ตาภัทรจะมารับกี่โมง”
ผู้เป็นมารดาถามเพราะเย็นแล้วยังไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มจะมารับ
“รินไม่รอเค้าหรอกค่ะ รินกลับเอง คุณแม่ไม่ต้องตามเค้านะคะ”
รินหน้าบูดบึ้งเมื่อนึกถึงชายหนุ่มผู้เป็นสามี เธอชังน้ำหน้าเขานัก ปกติหญิงสาวจะออกไปท่องราตรีทุกคืน พอโดนชายหนุ่มขืนใจ เธอไม่กล้าแม้แต่จะย่างกลายออกจากบ้าน
???
“กลับมาก่อนทำไมไม่บอก ชั้นต้องวนรถไปมามันเสียเวลามากรู้มั้ย ทำตัวแสบให้มันน้อยหน่อยเถอะ อย่าคิดว่าตัวเองต้องชนะทุกเรื่อง”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้ง แต่ก็ยังสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้
หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นทำหูทวนลมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ป่ะ ไปบุ๋งๆ ไปวิ่งกันมาเร็วววว”
ทำเอาชายหนุ่มโกรธควันออกหูอยากจับเธอมาหักคอให้ตายคามือ
หญิงสาวพาสุนัขไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้าน เสียงหัวเราะคิกคักเป็นเด็กๆ ของเธอทำให้ชายหนุ่มที่ยืนกอดอกมองอยู่ เผลอยิ้มออกมาที่มุมปาก
เขาไม่เคยรู้ว่าหญิงสาวที่มีข่าวร่ำลือว่าช่ำชองเรื่องการท่องราตรีและควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้าแบบหล่อนจะมีมุมน่ารักแบบนี้
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังอยากหย่ากับเธออยู่ดีแต่อีกใจก็แย้งว่าอยากจะกำราบและเอาชนะความแสบสันร้ายกาจของเจ้าหล่อนนัก
มันเหมือนเป็นความท้าทายของเขา “เธอเป็นคนยังไงกันนะน้ำริน” ชายหนุ่มครุ่นคิดนึกอยากจะเข้าไปค้นหาอีกมุมของเธอที่เขาไม่เคยรู้เหมือนกัน
???
“กลับไปนอนห้องเดี๋ยวนี้!”
ธีรภัทรมาตาม เมื่อน้ำรินขนผ้าห่มมานอนที่ห้องรับแขก
“ไม่ รินจะนอนห้องนี้”
“จะให้อุ้มหรือจะเดินออกไปดีๆ ไม่ต้องกลัวชั้นไม่ทำอะไรหล่อนอีกแล้วล่ะ ไม่ได้น่าพิศวาสสักนิด”
ชายหนุ่มพูดพร้อมลากสายตามองเธอทั้งแต่หัวจรดเท้า
หญิงสาวรู้สึกเจ็บจี๊ดกับคำพูดเย็นชาไร้ซึ้งความรู้สึกห่วงใยของเขา ที่ทำกับเธอวันก่อนก็ไม่มีแม้แต่คำขอโทษใดๆ ทำเอาเธอนอนป่วยไข้ไป2-3วัน คนเลว!
“รินเดินเองได้ รินจะเอาบุ๋งๆ มานอนด้วย”
“ไม่ได้! ทำไมหรอ กลัวอะไรชั้น เธอเก่งนักไม่ใช่หรอ จะกลัวอะไรล่ะ”
ปกติเขาไม่ได้เป็นคนแบบนี้เลย แต่กับเจ้าหล่อนเขาอยากจะเอาชนะเธอนัก
“ใครกลัวพี่คะ ไม่ได้กลัวสักนิด หลีกไปค่ะ รินจะไปนอน”
น้ำรินแกล้งเดินชนชายหนุ่มก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป
ธีรภัทรยืนกอดอกทอดสายตามองตามหลังหญิงสาวไป ยิ้มส่ายหน้าให้กับความดื้อรั้นของเธอ