Chapter 14 มีแฟนหรือยัง

1187 คำ
รถเคลื่อนผ่านถนนคนเดิน สายตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็นแฟนเห็นแก่ตัวกับเพื่อนทรยศเดินจูงมือกันอย่างกะหนุงกะหนิง เธอรีบเบือนหน้าหลบ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ เพราะเธอเพิ่งเบือนหน้าหนีจากผู้ชายที่เธอเกลียดอีกคน แต่ก็ต้องจำใจทนเพราะค่าจ้างที่เขาจ่ายมาให้แล้ว “ฉันดูน่ามองกว่าถนนขึ้นมาแล้วหรือไง” คนขับรถทักขึ้นทันที เหมือนเขาจับสายตามองเธอทุกระยะ แพรนรีไม่ตอบ แต่ทิ้งตัวลงพิงพนักและปิดเปลือกตาลงแทน “เหมือนเธอจะเสียมารยาทกับเจ้านายมากเกินไปแล้วนะ” “คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่ ฉันจะได้บริการได้ถูก” แพรนรีหันกลับมาถามเสียงเรียบ ทว่าอีกคนกลับไม่ตอบ จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพัก เขาจึงเปิดหัวข้อสนทนาอีกครั้ง “มีแฟนหรือยัง” “ฉันคิดว่าคำถามของคุณเกินตำแหน่งของเจ้านาย” “งั้นหรือ” เขาหรี่ตา จงใจมองหน้าเธอทั้งที่ยังขับรถ มองทั้งที่ยังต้องใช้สายตาคมคู่นั้นมองถนนเป็นสำคัญ “หันกลับไป ฉันยังไม่อยากตาย” หญิงสาวบอก “แต่ฉันดูเธอออก อาการอย่างนี้เหมือนผู้หญิงกำลังอกหักชัดๆ” ชายหนุ่มยั่ว เขาเพียงเหลือบสายตากลับมามองถนน กะระยะ แล้วหันกลับไปจ้องที่เดิม “อย่าเอาเวลาของคุณมาใส่ใจเรื่องของฉันเลยค่ะ” แพรนรีบอกเสียงเรียบ เบือนหน้าหนีจากเขา แต่พอมองออกไปนอกรถอีกครั้งเธอก็ต้องรีบหันกลับมาหาเขา “นี่มันทางออกไปนอกเมือง ไหนบอกว่าจะกลับบ้าน” หญิงสาวถามหน้าตื่น “ฉันบอกเธอหรือยังว่าจะไปบ้านไหน” คนหลังพวงมาลัยตอบกวนๆ “แต่ฉันไม่ได้ว่าง” “มันเป็นข้อตกลง แล้วนี่ก็เป็นเวลางานในข้อตกลงไม่ใช่หรือ” หญิงสาวกัดฟันกรอด เพราะตัวเธอเองไม่ละเอียดให้มากพอ เธอเสียรู้นักธุรกิจอย่างเขาจนได้ ผู้ชายก็เจ้าเล่ห์เห็นแก่ตัวไม่ต่างกันสักคน “ก็ได้...ฉันผิดเองที่ไม่ละเอียดพอ” “ฮึๆ” คนหลังพวงมาลัยหัวเราะออกมาอย่างพอใจ ผิวปากขับรถต่อไปอย่างอารมณ์ดี ไม่ว่าอย่างไร เสือร้ายอย่างเขาก็ไม่มีวันจะปล่อยแมวน้อยตัวนี้ออกจากกรงเขี้ยว หญิงสาวค้อนลับหลังเขาอย่างหมั่นไส้ ได้แต่ทำปากขมุบขมิบบ่นให้อย่างเขา ทิ้งศีรษะลงพิงพนักหงุดหงิด มองแสงไฟข้างถนน ไม่รู้สักนิดว่ารถคันหรูพาเธอวิ่งฉิวออกไปอีกเมือง แอร์เย็นฉ่ำกับเบาะนุ่มๆ นำมาซึ่งความง่วงงุน แต่ความระแวดระวังภัยที่ถูกสอนและปลูกฝังเอาไว้ทำให้หญิงสาวต้องทนฝืนร่างกาย พยายามปรือตาที่พร้อมจะปิดและหลับลงทุกเมื่อให้เปิดขึ้น ดึงสติของตัวเองเอาไว้ให้มั่น แต่เปลือกตาที่หนักอึ้ง ความเหนื่อยจากการอดนอนสะสมก็รั้งสติของหญิงสาวหลุดไป เปลือกตาเคลือบสีมุกวาวค่อยๆ ปิดลง คนขับหันไปมอง ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากอย่างพอใจ ฮาริสหยุดรถริมสะพานชาเพล (Kapellbrucke หรือ Chapel Bridge) เมืองลูเซิร์น สะพานไม้เก่าแก่ที่มีภาพเขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของเมือง เชิงคอสะพานห่างออกไปไม่ไกลเป็นบ้านพักตากอากาศหลังงามคล้ายตึก หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ไม่ผิดนัก ชายหนุ่มเหลือบสายตามองนาฬิกา ก่อนจะหันไปมองคนที่เขาจงใจแกล้ง เปลือกตาของเธอปิดสนิท ใบหน้านวลต้องแสงไฟลางๆ ริมฝีปากหนาของคนมองหยัดยกขึ้นน้อยๆ อย่างพอใจ เพียงแค่มองเห็นเธอหลับเขาก็รู้สึกเป็นสุขจนอยากยิ้มออกมา ไม่เคยมีผู้หญิงคนใดที่เขาปล่อยเวลาให้นานขนาดนี้ เสือร้ายอย่างเขาไม่เคยปรานีเหยื่อ แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับทำให้เสือร้ายอยากละเลียดชิมเนื้อหวานให้อิ่มเอมก่อนจะปล่อยไป หน้าตาและสัจจะสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด แม้จะเสียดาย แต่เขาจะไม่มีวันสานต่อ ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวยกมือกอดอกห่อไหล่จึงถอดเสื้อของเขาคลุมตัวให้เธอก่อนจะเอนเบาะลงนอนข้างๆ ยกมือข้างซ้ายรองต้นคอตัวเองไว้ แล้วเอียงหน้าหันไปมองหญิงสาว ‘ตอนหลับก็น่ามองเหมือนกันนะ’ เขาบอกตัวเองในใจ รอยยิ้มที่มุมปากน้อยๆ บ่งบอกถึงความพอใจ คนถูกจ้องค่อยๆ ลืมตาขึ้น เธอเป็นคนรู้สึกตัวเร็ว หากแต่คนนอนจ้องเมื่อครู่กลับแกล้งหลับหน้าด้านๆ ยังดีที่เขาปิดเปลือกตาลงทันก่อนที่เธอจะได้เห็น “ที่นี่...ที่ไหนกัน เราหลับไปตอนไหน” หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง สำรวจร่างกายที่มีเสื้อสูทตัวหนาของเขาคลุมตัวเอาไว้ก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่ปิดเปลือกตาสนิท “ผู้ชายบ้าอะไร หล่อไม่มีที่ติ” เพราะคิดว่าเขาหลับ แพรนรีจึงกล้าวิจารณ์เขาออกมาตรงๆ ทั้งโมโหความเผด็จการและกวนอารมณ์ของเขา แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารับค่าจ้างมาแล้ว คนแกล้งหลับแทบหลุดยิ้มออกมาให้เห็น แต่เขาก็ฝืนนอนนิ่ง อยากรู้ว่าเธอจะพูดหรือทำอย่างไรต่อ เสียงของหญิงสาวเงียบไป แต่ชายหนุ่มได้ยินเสียงเปิดประตู เขาหรี่ตาขึ้นมองก็เห็นคนในรถกำลังก้าวออกไป เธอเดินไปยืนริมเชิงราวสะพานไม้เก่าแก่ ทอดสายตามองแม่น้ำนิ่งๆ แพรนรียกมือขึ้นกอดอก แม้ที่นี่จะเป็นช่วงซัมเมอร์ แต่ยามค่อนดึกอย่างนี้ก็เย็นมาก แล้วเธอไม่ได้หยิบเสื้อที่เขาคลุมให้มาด้วย เสื้อคลุมตัวเดิมถูกพาดลงบนหัวไหล่ของเธออีกครั้ง แพรนรีหันกลับมามองคนที่ตัวเองคิดว่าหลับ ถามอย่างสงสัย เธออยากรู้ที่สุดว่าจะได้กลับบ้านไปทำงานค้างของเธอต่อตอนไหน “ที่นี่ที่ไหน” หญิงสาวถามเขากลับทันที “ลูเซิร์น” ชายหนุ่มตอบเร็ว ไม่รู้สึกอะไรกับคำตอบมากไปกว่าความภูมิใจ แพรนรีอ้วปากหวอ มือของเธอกำแน่น มันก็จริงที่เธอได้รับค่าจ้างมาแล้ว แต่เธอก็เสียรู้โดนหลอกมาจนถึงที่เมืองนี้ “แล้วบ้านคุณอยู่ไหน ฉันไปส่ง แล้วฉันจะได้กลับ” “คิดว่ามันจะง่ายอย่างนั้นเลยหรือสาวน้อย” “คุณต้องการอะไร” “เธอจำวันที่เธอจูบฉัน แล้วทิ้งให้ฉันอับอายได้ไหมละ วันนี้เธอต้องชดใช้” หัวใจของแพรนรีหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่คิดว่าเขาจะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นั้น “ฉันขอโทษ” หญิงสาวขอโทษเสียงเบา มาถึงวันนี้เธอก็เพิ่งรู้สึกได้ว่าวันนั้นเขาคงอับอายที่โดนเธอหักหน้าต่อหน้าเพื่อน “หึ!” เขาหัวเราะในลำคอ เดินเข้าหา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม