เมียเลี้ยง

ใต้อาณัติการปกครอง

ตอนที่ 22

ทั้งสามตามมาด้วยเพราะไม่อยากกลับไปบ้าน และหม่อมราชวงศ์หนุ่มไม่ได้เหน็บเอาสาวสวยคนใดเหมือนอย่างในทุกครั้ง

ประการหนึ่งเป็นเพราะสาเหตุมีเพื่อนรักทั้งสาม เป็นก้างขวางคอทำให้เขาจัดการกับธุระส่วนตัวไม่ค่อยสะดวกไม่ก็อย่างหนึ่งกลายเป็นโรคเบื่อความสวยของผู้หญิงขึ้นมาบ้างแล้ว

โรคนี้นั้นสำหรับหม่อมราชวงศ์หนุ่มมันเกิดขึ้นสักพักแล้วหายไปเองเพราะเบื่อความจู้จี้ขี้บ่น เอาแต่ใจตนเองของสาวสวยทั้งหลาย นอกจากต้องการผูกมัดแต่หม่อมราชวงศ์หนุ่มยังอยากใช้ชีวิตโสดเช่นเดิม

ชั้นยี่สิบสี่ของคอนโดหรู ระดับเกรดเอ ห้องแบบเพนเฮ้าส์มีพื้นที่กว้าง164ตารางเมตรแบ่งเป็นสามห้องนอน สองห้องน้ำและห้องครัวห้องรับแขก รวมทั้งมีดาดฟ้าพิเศษ สำหรับชมวิว

เที่ยงคืนครึ่งแล้วสำหรับสหายหนุ่มของคุณชายเคนธิศที่แทบจะหมดเรี่ยวแรงแผ่กายนอนลงบนเตียงนุ่ม คุณชายหนุ่มจัดการให้เพื่อนเรียบร้อยแล้วหากแต่ตัวเอง กลับข่มตาหลับไม่สนิท ทั้งๆที่ร่วมสนุกสนานเฮฮาสรวลเสด้วยกัน ค่อนข้างจะเต็มที่ด้วยซ้ำ

จนใบหน้าคมคายนั้นยังแดงก่ำไม่ใช่ว่าคุณชายจะเดินมาจัดการเพื่อดื่มต่อ บอกกับตัวเอง ว่าพอแล้ว แค่นี้ก็เมาจะแย่ และไม่มีอารมณ์ นอกจาก อยากหยุดมาเดินดูท้องฟ้า วิวทิวทัศน์ยามดึกเช่นนี้ ที่รายรอบตัวมีแต่คอนโดสูงไลฟ์สไตล์ใหม่ ที่ราคายี่สิบสามสิบกว่าล้านขึ้นไป

สหายสนิททั้งสาม ได้แก่อาทร นิทัศน์ ธนภูมิ เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นสหายรักของคุณชายพากันทยอยกลับออกไปทีละคนอาการเมาเริ่มสร่างจางลงแล้ว กลับขึ้นรถแท็กซี่กลับ ยามอยู่คนเดียวเช่นนี้ เชื้อพระวงศ์หนุ่ม ตื่นมาตั้งแต่เพื่อนสนิทหนุ่มพากันตื่นแต่ก็รู้สึกว่านอนเต็มอิ่มยังคงนึกคิดและหยิบภาพถ่ายบนลิ้นชักใกล้มาหยิบดู ภาพของเด็กสาววัยชั้นมัธยมของโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่มีชื่อเสียง พึมพำเบา เด็กสาวคนนี้ มีชื่อว่า ช่อดมิสา ชื่อเพราะจริง

หญิงเบญ่า หรือหม่อมราชวงศ์ สกุลวัลย์ เอ่ยถามกับช่อดมิสา

“สา เมื่อวานนี้ ทำไมถึงไม่มาเรียนล่ะ”

เงียบไปครู่ ก่อนหันมาตอบเบญ่า

“ เราเวียนหัว แล้วก็ปวดท้องด้วยจ้ะเบญ่า รู้ตัวว่าลุกไปไม่ไหว”

เพื่อนสนิทสาวจากตระกูลสูงศักดิ์เข้าใจจึงพยักหน้า เป็นปกติของวัยรุ่นสาวทุกคน เพราะหลีกเลี่ยงการมีประจำเดือนไม่ได้ ต้องเป็นกัน

“อ๋อ แล้วหายแล้วหรือยังล่ะ”

“ปวดอยู่ แต่ก็ไม่มากจ้ะ”

ตอบกับหม่อมราชวงศ์สกุลวัลย์ เพื่อนสาวผู้สูงศักดิ์ ไม่ถือตัวยิ้มแย้มแจ่มใส กล้าพูดและกล้าคุยในหลายๆเรื่อง แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว

แต่ส่วนที่เพื่อนสนิททั้งหลายไม่เคยทราบนั่นคือ ช่อดมิสาอยู่ในฐานะใดกันแน่ ของบ้านมหาเศรษฐีหลังนั้น

ทุกคนทราบเพียงว่ามีเพียงเศรษฐีนีรุ่นคุณย่านั่นแหละ เป็นผู้อุปการะ

ซึ่งเรื่องราวแท้จริงมันจะขมขื่นใจลึกลงไปกว่านั้น

หากว่าช่อดมิสาจะกล้าบอกความจริงว่าแท้ที่จริงแล้ว หล่อนก็ไม่ต่างไปจากอนุของหลานชายคนโตของคุณท่าน เพราะว่าทายาทคนเล็กสุดยังเรียนต่ออยู่ที่ต่างประเทศ ยังไม่มีกำหนดกลับมาที่เมืองไทย

ซึ่งช่อดมิสารับรู้เพียงเท่านี้ดังนั้นปมที่เป็นความขมขื่นใจในข้อนี้หล่อนพยายามซุกซ่อนมันไว้ลึกที่สุด แทบจะไม่ให้เพื่อนทั้งหมดระแคะระคายเลย เพราะเข้าใจดี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

ความกังวลยังไม่ขาดหายเมื่อการปรากฏตัวของคุณอภิวานต์ที่มาส่งช่อดมิสาถึงโรงเรียนคราวนั้นคงสร้างคำถามอย่างมากมายว่าเขาเป็นใครนอกจากความหล่อเหลา ทว่าดูยะเยือกสุขุมจนเดายาก บวกกับสีหน้าที่เข้มตึงดุ เพื่อนๆของช่อดมิสาจึงพากันคิดและคาดเดาไปต่างๆนานาๆ ว่า คงจะเป็นคุณอาผู้ชายของเธอ

แต่ช่อดมิสาตอบคำถามนี้ได้ไม่ถนัดชัดคำ พยายามหลบเลี่ยงกลบเกลื่อนที่เพื่อนๆพยายามเอ่ยถึงผู้ชายที่หน้าตาดี วัยผู้ใหญ่อย่างเขา หล่อนเป็นคนที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก และไม่ตอบคำถามนี้กับใคร

“สาจ้ะ เสาร์นี้ เราจะพาสาไปเที่ยวที่บ้านด้วย มีคนอยากจะรู้จักตัวเป็นๆของสามากเลยนะ ตัวต้องไปให้ได้นะ สาจ๋า” หญิงเบญ่า เอ่ยกับหล่อน ด้วยปกติของเพื่อน ไม่ถือยศศักดิ์ถือตัวคำว่าบ้านที่เป็นความหมายของเพื่อนจากยศชั้นสูงศักดิ์คงจะหมายถึงที่ประทับหรือวังของเชื้อพระวงศ์

“สาไม่ว่างหรอกจ้ะ เสาร์นี้หญิงเบญ่าคือเรามีธุระ สำคัญด้วยน่ะ เลยไปตามที่เบญ่าขอไม่ได้”

ตอบคำถามเพื่อนแล้วเห็นเพื่อนยศสูงส่งถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง

“แหม..นึกว่าสาจะว่าง ตั้งใจดิบดีเลยนะ งั้นอย่างนี้ไหมจ้ะสา เบญ่าเพิ่งนึกขึ้นได้ที่บ้านของเบญ่า มีจัดเลี้ยงวันเกิด เบญ่าอยากจะพาสาไปด้วยนะ ไปนะไปเป็นเพื่อน แล้วเบญ่าจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับสา”

ช่อดมิสาอึ้งตะลึงไปทันทีกับคำเอ่ยของเพื่อนสาวสูงส่ง ทีนี้เธอจะแก้ไขอย่างไรล่ะในเมื่อหม่อมราชวงศ์หญิงเพื่อนสนิทได้เหมาขาดไปแล้วว่า ช่อดมิสาต้องไปให้ได้ด้วย ห้ามปฏิเสธ

เห็นท่าทีจริงจังของเพื่อนคนนี้ ทำให้ริมฝีปาก ที่ยกอ้างจะค้าน ก็เลยต้องเก็บและหุบเงียบพยักหน้ารับแทน

“ขอบใจมากเลยนะสาเอ้อใครคนนั้นเขาคงจะดีใจมากเลยล่ะที่เบญ่าสามารถ พาสามาที่นี่ได้ เป็นเพราะเขาขอร้องมาจ้ะ”

ช่อดมิสายิ่งอึ้งหนักไปกว่าเดิมนี่หมายความว่าอย่างไรหม่อมราชวงศ์หญิงผู้เพื่อนกำลังบอกอะไรกับเธอ

แล้วมีอะไรที่จะเซอร์ไพรสซ์ แล้วเขา ที่ว่าเป็นใคร

ทีแรกนึกว่าหญิงสกุลวัลย์หรือเบญ่าต้องการชวนเธอไปด้วยในฐานะมิตรแท้ที่คบหาและเชื่อใจไว้ใจกัน แต่ครั้นเห็นสีหน้าที่แปรเปลี่ยนเป็นสลดไม่สบายใจอย่างนั้น หญิงเบญ่าคาดเดาเข้าใจทันที

“แต่ว่าเบญ่าด้วยจ้ะเบญ่าก็อยากให้สาไปด้วยนะ ไม่ใช่เพราะว่า ใครคนนั้นชวน เพราะสาเป็นเพื่อนรักของเบญ่า ไง อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ เบญ่าพูดจริงนะไม่ได้แกล้งชวนอย่างเดียว มั่นใจด้วยจริงใจที่สุด เพราะอยากให้สาไปร่วมงาน”

หญิงเบญ่าเอ่ยซ้ำย้ำเรื่องเพื่อให้เพื่อนเข้าใจ ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น และหันสีหน้าไปหาเพื่อนเพื่อสบตาแสดงความจริงใจออกมา

แล้วช่อดมิสาก็พยักหน้าตอบรับเงียบแค่นี้หม่อมราชวงศ์ หญิงสกุลวัลย์ ก็โล่งใจ