เมื่อได้ยินคำพูดนี้หลุดออกจากสะใภ้รองของตน แม่เฒ่ากุ้ยได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ อีกทั้งชาวบ้านเริ่มมุงดูมากมายจึงไม่อยากให้เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก ต่อให้อยากได้เงินขนาดไหนแต่นี่ไม่ใช่เวลาของเธอ
จากนั้นแม่เฒ่ากุ้ยจึงรีบเดินออกมาจากบ้านรองโดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมแม่สามีถึงยอมบ้านรองง่ายดายขนาดนี้
สองสามีภรรยาสบตากันด้วยความโล่งใจก่อนจะรีบจูงมือกันเข้าบ้านและคิดว่าพรุ่งนี้เช้าต้องรีบไปไปรษณีย์เพื่อเบิกเงินออกมา และต้องเก็บซ่อนไว้ให้ดีหรือไม่ต้องเข้าในเมืองเพื่อเปิดบัญชีธนาคาร ครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องวุ่นวายเช่นนี้อีก
ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างราบเรียบ ชีวิตของกุ้ยหนิงอันไม่มีอะไรมาก ตื่นเช้ามาทำงาน ตกเย็นมาก็มานั่งทำอาหารกินร่วมกันกับป้าจิง ทำให้สองสามีภรรยาต่างก็เอ็นดูกุ้ยหนิงอันไม่ต่างกับลูกและหลานของตนเอง
จนวันเวลาผ่านล่วงเลยมาครึ่งปี กุ้ยหนิงอันต่างก็เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะแผนกไหนก็ตามเพราะความมีน้ำใจของเธอ อีกทั้งความสามารถของทั้งสองมีไม่น้อยเลยทีเดียว
ใครจะไปรู้ว่ากุ้ยหนิงอันและซีซวนจะมีความสามารถในการสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ ทำให้หัวหน้าแผนกต้อนรับอยากจะดึงตัวทั้งสองคนมาทำงานในส่วนนี้แทนที่จะเป็นแม่บ้านของโรงแรม
หลังจากที่เรียกทั้งสองคนมาคุย ไม่นานกุ้ยหนิงอันจึงเปลี่ยนจากแม่บ้านมาเป็นพนักงานต้อนรับโดยมีซีซวนตามมาด้วยเช่นกัน ทำให้ทั้งสองคนดีใจมาก
“นี่เราทั้งสองได้เลื่อนตำแหน่งใช่หรือไม่”
กุ้ยหนิงอันไม่ได้ดีใจตรงที่ได้เลื่อนตำแหน่ง ทว่าเธอดีใจที่ได้เงินเดือนเพิ่มต่างหาก นั่นหมายความว่าเธอจะสามารถส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวมากกว่ายี่สิบหยวนต่อเดือน
“อีกไม่กี่เดือนจะปีใหม่แล้ว พวกเราทั้งสองคนจะได้กลับบ้านกันหรือเปล่า ยิ่งได้ย้ายมาอยู่แผนกต้อนรับด้วย”
“ไม่เป็นไร ฉันค่อยเขียนจดหมายบอกครอบครัวว่าปีใหม่นี้อาจจะยังไม่ได้กลับ ช่วงปีใหม่แขกน่าจะเข้ามาใช้บริการที่โรงแรมไม่น้อยเลยทีเดียว”
“นั่นสิ ช่วงนี้โรงแรมก็วุ่น ๆ เพราะจะมีงานแต่ของคุณหนูหลันกับคุณชายหยาง ได้ข่าวมาว่างานแต่งครั้งนี้มีถึงสามคู่เชียวนะ”
ซีซวนเอ่ยอย่างตื่นเต้น ตัวเธอนั้นเรียนจบจากต่างประเทศ แต่พอจะรู้ข่าวมาบ้างว่าครอบครัวหลันและครอบครัวหยางนั้นมีความเกี่ยวดองแน่นแฟ้นกันแค่ไหน คุณหนูหยางแต่งงานกับคุณชายใหญ่ตระกูลหลัน เท่าที่เธอรู้ตอนนี้มีเพียงคุณชายรองตระกูลหลันเท่านั้นที่เพิ่งเรียนจบพร้อมกับน้องสาว
“จริงเหรอ”
กุ้ยหนิงอันถามอย่างตื่นเต้น แม้เธอจะทำงานที่นี่ได้เพียงครึ่งปี และเป็นเพียงพนักงานแม่บ้าน แต่เธอก็เคยเห็นคุณหนูหลันนั้นผ่านตาหลายครั้ง คุณหนูหลันและครอบครัวไม่เคยแบ่งแยกฐานะ คล้ายกับเข้าใจคนทำงานรากหญ้าเช่นเธอ
และเธอได้ข่าวมาว่าการออกแบบโรงแรมแห่งนี้ก็คือสามพี่น้องแห่งตระกูลหลัน บางครั้งเธอคิดเหมือนกันนะว่าคุณหนูหลันนั้นมาจากที่เดียวกับเธอหรือเปล่า แต่ทว่าฐานะของทั้งสองต่างกันราวฟ้ากับเหว ย่อมไม่ใช่แน่นอน
“จริงสิ ทว่าเธอทั้งสองคนได้รับเลือกให้ช่วยงานเลี้ยงวันนั้นด้วย อีกอย่างเจ้านายให้พิเศษด้วยนะ ดูเหมือนแขกของทั้งสองฝ่ายคงไม่น้อย และคิดว่าน่าจะมีต่างชาติด้วย”
หัวหน้าแผนกเดินเข้ามาได้ยินทั้งสองคนคุยกันพอดี เลยกระซิบบอกก่อน เมื่อใกล้ถึงวันงานกลัวทั้งสองจะตื่นตกใจและเตรียมตัวไม่ทัน
“ขอบคุณมากค่ะพี่หนานหนาน ฉันกับเสี่ยวซวนจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งพนักงานต้อนรับที่พี่ผลักดันเราทั้งสองขึ้นมาและงานเลี้ยงในวันแต่งงานของคุณหนูหลัน”
กุ้ยหนิงอันยิ้มรับ เธอรู้ว่าหัวหน้าแผนกหรือที่พวกเธอเรียกว่าพี่หนานหนานช่วยดันพวกเธอขึ้นมาจากแม่บ้าน
“ไม่เกี่ยวกับพี่หรอก อันอันและเสี่ยวซวนมีความสามารถ ควรจะทำงานที่เหมาะกับความรู้ ดังนั้นการที่ได้ขึ้นมาอยู่แผนกต้อนรับก็สมควรแล้ว”
หนานหนานยิ้มให้ทั้งสองคนก่อนจะบอกให้พรุ่งนี้มาเริ่มงานกับตำแหน่งใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ให้รอเอาชุดพนักงานกลับไปด้วย แล้วค่อยเอาชุดแม่บ้านมาคืน
ในที่สุดงานใหญ่ของโรงแรมก็มาถึง วันนี้เป็นวันแต่งงานของทั้งสามคู่ หนึ่งคือหลันลู่อิงน้องสาวที่เขารักมากที่สุด สองคือเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยม คือเหอเจียจิง และฟางอี๋ชิง หลันอี้ข่ายมองทุกคนภายในงานเลี้ยงคืนนี้ด้วยรอยยิ้ม และนั่งดื่มกับกลุ่มเพื่อนโดยมีชายโสดอย่างผู้พันจิ้งเจี้ยนซามาร่วมดื่มด้วย
“พี่เจี้ยนซา มารวมตัวอะไรกับพวกผม อีกไม่นานจะส่งตัวเข้าหอแล้ว พี่ไม่กลับไปตระกูลหยางหรือยังไง”
หลันอี้ข่ายพูดด้วยอาการมึนเมาเล็กน้อย
“ไม่ล่ะ หนุ่มโสดแบบฉันขอนั่งดื่มแบบนี้ดีกว่า นายดูสิอาข่าย เพื่อนสนิททั้งสองของฉันต่างก็แต่งงานหมดแล้ว เหลือแค่ฉันนี่แหละ เฮ้อ...ใช้ชีวิตหนุ่มโสดต่อไป”
จิ้งเจี้ยนซาไม่สนใจที่จะไปร่วมส่งคู่บ่าวสาวเข้าหอ เขาไม่อยากอิจฉาเพื่อนรักทั้งสอง ขอนั่งดื่มกับกลุ่มของหลันอี้ข่ายดีกว่า
จากนั้นจึงยกมือเรียกพนักงานเมื่อเครื่องดื่มบนโต๊ะหมดแล้ว
“ไม่ทราบว่าจะรับอะไรคะ”
พนักงานสาวเดินเข้ามาเอ่ยถาม วันนี้เธอได้รับมอบหมายให้มาอยู่ช่วยในงานเลี้ยงแต่งงานของเจ้านาย
“ช่วยเอาเครื่องดื่มมาให้พวกเราหน่อยได้ไหม”
“รอสักครู่นะคะ ดิฉันจะไปนำมาให้”
พูดจบพนักงานสาวคนนี้จึงรีบเดินไปเอาเครื่องดื่มมาให้กลุ่มของหลันอี้ข่าย จากนั้นทั้งหมดจึงนั่งดื่มให้กับความสุขของคู่บ่าวสาวกันต่อ
กุ้ยหนิงอันและซีซวนดูแลแขกในงานมือระวิง แม้จะเหนื่อยอย่างไรเมื่อเห็นคู่บ่าวสาวทั้งสาม ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนรู้สึกดีใจไปด้วย และวาดหวังว่าวันหนึ่งจะเจอคนรักและได้แต่งงานเช่นนี้บ้าง
“ไหวไหมทั้งสองคน งานวันนี้แขกของคุณท่านเยอะมาก”
วันนี้หนานหนานมาช่วยในส่วนรับรองแขกในงานเลี้ยงด้วยเช่นกัน ในวันที่คัดเลือกคนมาช่วยงานเลี้ยงครั้งนี้เธอตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ เนื่องจากแขกต่างชาติของตระกูลหลันและตระกูลหยางมีไม่น้อยเลย อีกทั้งพนักงานต้อนรับหรือพนักงานเสิร์ฟแทบจะนับคนได้ที่สื่อสารกับต่างชาติรู้เรื่อง
“ไหวค่ะพี่หนานหนาน งานไม่ได้เหนื่อยอะไรมาก สนุกดีค่ะ”
กุ้ยหนิงอันตอบกลับ เธอมีความสุขที่ได้ช่วยงานเจ้านาย แม้ว่าจะมีเงินพิเศษให้ก็ตาม พลางคิดในใจว่าการพบรักของทั้งสองคนนั้นช่างสนับสนุนเกื้อกูลกันดีเหลือเกิน
อีกทั้งความรักของทั้งคู่ช่างยาวนานนัก ไม่ง่ายเลยกว่าทั้งสองจะได้แต่งงานกัน คุณชายรองหยางช่างมีความอดทนและรักมั่นคงเหลือเกิน
“ตอนนี้บ่าวสาวส่งตัวกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลันแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงกลุ่มเพื่อนและคุณชายรองที่ยังคงฉลองความโสดกันต่อ”
หนานหนานกล่าวจบก็เดินจากไปดูงานของตนเอง กุ้ยหนิงอันจึงหันมาทำงานของตนเองเช่นกัน ส่วนซีซวนเหมือนจะเห็นบางอย่างผิดปกติกับเจ้านายจึงรีบเดินแยกจากไป
“อันอัน ฉันเอาเครื่องดื่มมาให้”
พนักงานคนหนึ่งเดินยิ้มเข้ามาหากุ้ยหนิงอัน ก่อนจะยื่นแก้วน้ำผลไม้ให้
แม้จะสงสัยในท่าทางของพนักงานคนนี้ เพราะรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นไม่ค่อยดีเท่าไร ทว่าไม่ต้องการหักหน้าเพื่อนร่วมงานอีกทั้งยังอยู่ในงานเลี้ยงของเจ้านายจึงรับแก้วน้ำผลไม้มาดื่ม
พนักงานหญิงคนนั้นได้แต่กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่ากุ้ยหนิงอันดื่มน้ำผลไม้จนหมดแก้ว ก่อนจะเดินจากไปอยู่มุมหนึ่งเพื่อดูความเคลื่อนไหวของกุ้ยหนิงอัน