Chapter 3
ดวงตาคู่กลมโตลืมพรึบมองขนตางอนเป็นแพหนารับจมูกโด่งเป็นสันคม วงหน้าหล่อเหลาลงตัวไม่มีแม้รอยฝ้ากระ ลูกกะตาเธอก็ติดหนึบอยู่กับหน้าคุณหมอหมา!
ขณะที่อีกคนไม่ได้ต่อว่าอะไรกับรอยแดงบนหน้าผาก นัยน์ตาคู่สีน้ำตาลสวยพร่างพราวสบมองมานิ่ง ๆ ไม่รู้ว่าเขาอาจนึกโกรธเธออยู่ลึก ๆ หรือว่ากำลังคิดอะไรแน่ อริสาพอตั้งสติได้ในอีกครู่หนึ่ง
“เอ่อ... ขอ.. โทษค่ะ” ตะกุกตะกักตอบ คุณหมอหนุ่มแย้มยิ้มอยู่บนใบหน้า เป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย
“ไม่เป็นไรครับ”
รอยบุ๋มบนแก้มทั้งสองข้างทำเอาแทบจับไข้ตามหมา หญิงสาวกลอกตาไปมา ยืนตัวเกร็งมือเหงื่อชุ่มบีบขนสีทองอยู่แน่น กลายเป็นว่าสุนัขที่กำลังดิ้นพล่านไม่ต่างจากกามเทพดี ๆ สถานการณ์เป็นใจอะไรขนาดนี้!
“ไงล่ะ? เอ๋บอกแล้วว่าคุณอริสาส้วย สวย หมอจะตะลึง แหม.. ทีเมื่อกี้ทำเมิน เบอร์คุณอริสา เอ๋มีค่ะ เดี๋ยวเอ๋เอาให้หมอไอนะคะ”
ใบหน้าหล่อเหลามองขวับตามเสียงของหล่อนที่ทำความสะอาดอุปกรณ์อยู่ตรงมุมห้อง ขณะโถมน้ำหนักตัวลงกดสุนัข เสียงเข้ม ๆ จึงดังกว่าเสียงของสุนัขที่ร้องครวญครางไม่หยุด
“ขอบคุณสำหรับความหวังดีครับคุณเอ๋ แต่มาช่วยกันจับก่อนดีไหม? ผมกดโกลเด้นอยู่นะ ไม่ใช่ปอมปอม ชิวาว่า”
“ไม่ได้อยากจะไม่ช่วยนะหมอไอ แต่โกลเด้นยังตัวเล็กกว่าหมอตั้งเยอะ เอ๋เตรียมของดีกว่า ยืนจีบกันไปก่อนเถอะ”
แทนที่คุณหมอหนุ่มจะโมโหขาใหญ่ประจำคลินิก กวนประสาทได้ทั้งวัน เขาหันกลับมาทางเจ้าของสุนัข แก้มแดงฉ่ำบอกอาการเก้อเขินหนักกับคำว่า ‘จีบกัน’ ทว่าเธอก็ให้ความร่วมมือสัตวแพทย์เป็นอย่างดี
“มันกัดไหมครับ?”
“ไม่ค่ะ มันแค่ดิ้นกลัว แรงมันเยอะ มันไม่เคยกัดใครค่ะ”
สัตวแพทย์หนุ่มจึงวางใจว่าหมาใจดีอย่างโกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะไม่หันมาแว้งกัดจนต้องมัดปากไว้เหมือนหมาดุตัวอื่น ๆ ซึ่งหมอหมาหมอแมวอาจโดนแว้งกัดได้ก็เคยมีเกิดขึ้นอยู่ เขากดกำสองขาปุกปุยหน้าหลังไว้ด้วยมือแต่ละข้าง มีหญิงสาวโน้มน้ำหนักลงบนช่วงลำคอและช่วงตัวของสุนัข
“ไม่มีอะไรนะ ลูกแม่ คุณหมอมือเบ้า เบา นิดเดียว ไม่เจ็บ ไม่ดิ้นนะลูก” น้ำเสียงอ่อนโยนปลอบ สายตาของเธอจรดอยู่ตรงท่อนแขนเป็นล่ำสันเส้นเลือดปุด! กล้ามเป็นมัด ๆ บอกว่าเขาน่าจะเป็นคนชอบออกกำลังกาย ไม่ก็คงเป็นเพราะสู้แรงหมาทั้งวัน
“โฮ่ง ๆ!”
เจ้าหมาตัวโตทั้งร้องทั้งดิ้น กลัวหมอแปลกหน้าชนิดว่าสู้ตาย! เม็ดเหงื่อขึ้นแซมผ่านไรผมของเธอและเขา อริสาลอบมองคุณหมอครั้งหนึ่ง เห็นจะทนไม่ไหว พายุโทสะลูกหนึ่งจึงฟาดลงกับหมาจอมดื้อ
“ที่รัก.. อยู่นิ่ง ๆ! เดี๋ยวแม่ยิงไส้แตก..” ขู่ตะคอกเบา ๆ ผ่านไรฟันขาว
เจ้าหมาตัวโตเหลือกตามองผวา หยุดดิ้นทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘ปืน’ หรือ ‘ยิง’ มันฉลาดมากพอจดจำคำศัพท์ของมนุษย์ได้เกือบถึงหนึ่งพันคำ จากที่มันเคยติดตามเจ้านายไปทุกที่แม้แต่สนามยิงปืนซึ่งมันไม่ชอบเสียงดัง ๆ อย่างนั้นเลย
“คุณอริสายิงหมา ก็ต้องมาคลินิกหมออยู่ดี อย่าเลยนะครับ” พูดเรื่อยเฉื่อย ตาคมลอบมองเรียวปากอิ่มงามกระจับด้วยลิปสติกสีแดงสดรับเครื่องสำอางอ่อน ๆ เขี้ยวคมตรงมุมปากยามขยับเอ่ยถ้อยคำ
“ฉันแค่ขู่ให้มันนิ่งเฉย ๆ ฉันไม่ได้ขู่มันบ่อย ใครจะไปกล้ายิงลูกสุดที่รักคะ? หมอไอ”
ไม่ใช่เรื่องแปลกกับการเรียกชื่อหมอ เธอเพิ่งรู้สึกมันแปลก เพราะดันเรียกตามผู้ช่วยที่เตรียมของนานกว่าปรกติ กระทั่งหล่อนเดินกลับมาพร้อมวางถาดลงบนโต๊ะ ลูกค้าประจำอย่างอริสารู้จักคุณหมอที่นี่ทุกคนคงต้องถาม
“อาจารย์นิธิไม่มาหรือคะ? คุณเอ๋...”
“อาจารย์ไม่สบายค่ะ แพร่เชื้อหวัดติดกันไปทั้งคลินิก คุณหมอไอศูรย์เลยมาช่วยงานชั่วคราว แต่ว่านะ งานหนักกว่าอาจารย์อยู่อีก เพราะตอนนี้สาว ๆ ไอเลิฟยูกันไปหมด” ท้ายประโยคบอกเจ้าของร่างสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร
“ถ้าหมอไอจะเกิดมาขายาว หล่อล่ำกล้ามโต เบ้าหน้าส่งตรงจากเกาหลีขนาดนี้ ใส่หน้ากากเสียเถอะค่ะ ใส่ชุดหมีซาฟารีเลยยิ่งดี เอ๋ไม่อยากให้เจ้าของหมาหัวใจวายตาย”
“จะให้หมอใส่ชุดหมี หมาได้กัดหมอก่อนแน่ ๆ”
ผู้ช่วยสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนสลับที่กับคุณหมอหนุ่ม
สุนัขพันธุ์ใหญ่ถูกยกหาง จับปรอทวัดไข้เสียบก้น มันคงต้องหดตัวอย่างหวาดกลัวหูหางตก ต่างคนจับสุนัขแน่นมือให้คุณหมอได้ทำงานสะดวก ผู้ช่วยสัตวแพทย์สาวชักชวนสนทนาไปเรื่อยเปื่อย ตามนิสัยหล่อนที่ช่างแซวเสียเหลือเกิน
ด้วยความที่เจอหน้ากันอยู่เป็นประจำ หากลูกค้าคนสวยไม่พาเจ้าที่รักมาฉีดวัคซีน ก็จะมาซื้อขนม อุปกรณ์สัตว์เลี้ยงที่นี่
“คุณอริสาพาเจ้าที่รักมาคนเดียวตลอดนี่คะ วันนี้มากับหนุ่มล้อ... หล่อ เดินเข้าคลินิกมา พี่เก๋บอกว่าเหมือน หมาก ปริญ สาว ๆ ข้างนอกนี่นั่งมองตาแทบหลุดเลยค่ะ”
อริสาทำหน้าครุ่นคิดอย่างไม่แน่ใจ “ก็ดูดี... มั้งคะ”
“แฟนหรือคะ?” กระซิบถามแววตาเป็นประกาย อาจไม่ใช่คนเดียวที่หูผึ่งรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันโสด”
“จริงหรือคะ? อุ๊ย.. พอดีเลย หมอไอก็โสด...” เหมือนว่าจุดประสงค์ของผู้ช่วยสาวจะประสบความสำเร็จ จึงส่งยิ้มให้คุณหมอ และเจ้าของหมาในฝั่งตรงกันข้ามอย่างไม่ต้องสืบความหมายมากมาย
แต่เวลางานก็ต้องเป็นเวลางาน สองหนุ่มสาวเพิกเฉยคำพูดของหล่อน ลิ้นตาของเจ้าที่รักละห้อยมองเข็มขนาดใหญ่ในมือหมอด้วยความหวาดกลัวจับใจ ส่งเสียงดังลั่นขนาดว่ายังไม่ได้ทำอะไร
“คุณเอ๋จับแน่น ๆ ไม่โดนแขนหมา จะเจ็บ...” น้ำเสียงเจือแววข่มขู่ คนที่ช่วยกันจับสุนัขอยู่จึงออกแรงมากกว่าเดิม คุณหมอหนุ่มไม่ได้ใช้เวลามากกับการลงมืออย่างมืออาชีพกดเข็มยาจนสุด ลูบเจ้าขนทองเบา ๆ ปลอบประโลมด้วยคำชมเชย
“เก่งมาก นิดเดียวเองเห็นไหม มดกัดนะ เจ้าที่รัก..” แล้วค่อยเงยหน้าขึ้นบอกเจ้าของสุนัข
“มีไข้สูงอยู่นะ หมอเพิ่งให้ยาลดไข้บรรเทาอาการ ระหว่างรอผลเลือด ถ้าสุนัขตัวร้อนมากกว่านี้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุณหภูมิปกติเช็ดตัวเพื่อระบายความร้อนได้ หมอขอฟังเสียงปอดน้องหน่อยว่าชื้นไหม ถ้าไม่มีก็น่าจะคลายกังวลพวกพยาธิในเม็ดเลือด..”
พยาธิในเม็ดเลือดเป็นโรคน่ากลัวที่คร่าชีวิตของสุนัขมาแล้วนักต่อนัก การกระทำของสัตวแพทย์หนุ่มที่แตะเครื่องฟังลงบนขนสีทองจนผละมือออก ใบหน้าสดสวยสะท้อนความร้อนรนอย่างชัดเจน
“ฉันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ค่ะ ถ้าอาการหนักยังไงฉันจะรีบพาที่รักมา”
“ครับ คลินิกเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าน้องหมาอาการไม่ดีขึ้นก็รีบมา เดี๋ยวได้ผลเลือด ทางคลินิกจะโทรไปแจ้งนะครับ” พอคุณหมอตอบ ผู้ช่วยสัตวแพทย์สาวส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม
“รีสอร์ตของคุณอริสาอยู่ตรงนี้เองค่ะ พี่บุษกับเอ๋เคยไปนอนตั้งแคมป์ดูนกชมม้า ดูแกะเพลิน วิวสวยมาก ๆ คุณอริสาให้โวเช่อดินเน่อร้านอาหารแถมมาด้วย คนอะไร สวย ใจดี แถมโสด..”
“ไว้จะไปเที่ยวแน่ ๆ ครับ” ในคำพูดมีนัยเขาแค่รักษามารยาท หญิงสาวกำลังเป็นห่วงเจ้าสุนัขหน้าซีดเซียวไปถนัดตา ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
“ค่ะ.. ยินดีต้อนรับล่วงหน้าค่ะ ขอบคุณ คุณเอ๋ คุณหมอมาก ๆ” ความเป็นผู้น้อยกว่าเธอเป็นฝ่ายยกมือไหว้ลา โน้มตัวลงอุ้มหมาตัวโตออกจากห้องไป
ดวงตาคู่หวานคมมองตามแผ่นหลังบางด้วยความรู้สึกมากมายหลายอย่างโดยเจ้าตัวคงไม่รู้ หญิงสาวในชุดสีเขียวข้างกันขมวดคิ้วมุ่นมองหมอ
“เอ๊ะ... ปรกติหมอไอใส่หน้ากากอนามัยทำงานตลอดนี่คะ?”
คุณหมอหนุ่มเปรยยิ้ม ก้มหน้าลงหาผู้ช่วยสาวด้วยความสูงชะลูดของตัวเขา ส่ายหน้าไปมาและก็ไม่ได้ตอบอะไรแต่หมุนตัวเดินกลับไปทำงานอย่างอารมณ์ดี
ทางด้านหญิงสาว สุนัขตัวโปรดผู้เป็นดั่งดวงใจตามชื่อของมันคือ ‘สุดที่รัก’ พาดวงตาคู่สวยหม่นทอดมองใบหน้าอิดโรยของมัน
เตชินนั่งรออยู่พักใหญ่ ๆ พบหญิงสาวผู้หอบความหยิ่งผยองมาตลอดทาง หอบหมาตัวโตออกมาจากห้องตรวจด้วยสีหน้าเป็นกังวล จึงเดินไปหา ขนาดว่าเขาไม่ใช่คนรักสัตว์ยังอดห่วงไม่ไหว
“เป็นไงบ้าง?”
“ไม่ใช่ธุระของคุณ” เจ้าของสุนัขชักสีหน้าใส่ แล้วก็ถูกต่อว่า
“มาด้วยกันจะไม่ใช่ได้ไง โต ๆ กันแล้วหัดแยกแยะหน่อย ผมไม่ได้อยากมาดูแลคุณนักหรอก มาให้ผมอุ้มมันก่อน จะได้รับยากลับบ้านสักที เสียเวลา” เบ้ปากว่า ชักเริ่มรำคาญแม่คุณสวยรวยมาก เรื่องมากชะมัด! เตชินกำลังคิดอยู่ว่าหากเธอนิสัยดีกว่านี้ให้มันเข้ากับหน้าตาสะสวยคงดี
หญิงสาวหน้าตาบึ้งตึง ขี้เกียจอ้าปากเถียงกับเขาต่อ จึงยอมให้ลูกรักในอ้อมแขนถูกอุ้มไป ไปนั่งรอชำระเงิน ตาชำเลืองมองเจ้าที่รักซบหน้าลงบนตักชายหนุ่ม ไม่ว่ามันจะจงรักภักดีต่อเธอแค่ไหน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่เป็นมิตรกับทุกคน
ตลอดหนึ่งปีหนึ่งเดือนที่เธออยู่กับมันมา เจ้าที่รักร่างกายแข็งแรง ซุกซนตามลักษณะนิสัยสายพันธุ์ของมัน มันป่วยแทบนับครั้งได้ ความเศร้าหมองจึงกอบกุมจิตใจ ไม่ต่างจากผู้คนทั้งหลายที่นั่งอยู่ เจ้าของสุนัขทุกคนจมอยู่กับความหวาดกลัวว่ามันจะเป็นอะไรไป
เสียงถอนหายใจจึงหลุดออกจากริมฝีปากคู่งามมากกว่าหนึ่งครั้ง หากทว่าพอรับยาเรียบร้อยทางช่องชำระเงิน
“คุณอริสา... คุณเอ๋เธอฝากของมาให้ อยู่ข้างในนะคะ” พนักงานสาวอายุประมาณสามสิบได้ ส่งใบเสร็จให้เธอด้วยรอยยิ้ม
นัยน์ตาคู่สลดสวยฉายแวววูบวาบทันทีที่เปิดถุงกระดาษใส่ยา สังเกตเห็นกระดาษแข็งใบเล็ก ๆ มีตัวหนังสือชัดเจน!