“ดิฉัน...กลับเลยนะคะ เชิญคุณคาลอสตามสบายค่ะ” สรรพนามแทนตัวของหล่อนห่างเหินจนคาลอสเริ่มไม่พอใจ
“แล้วใครจะล้างจานพวกนี้ล่ะถ้าเธอรีบกลับไปแบบนี้” เขากล่าวเสียงดัง จนชาครียาชะงัก มือที่กำลังจะหยิบกระเป๋าเป้ตกลง ไปกุมชายเสื้อไว้เมื่อทำอะไรไม่ถูก ดวงตาไหวระริก
“ค่ะ ชาช่ารอล้างจานก่อนกลับก็ได้ค่ะ” ชาครียาทิ้งตัวนั่งบนโซฟา ก้มหน้าจนปลายคางจรดกับอกอวบใหญ่
คาลอสรีบเดินเข้าไปมองอาหารที่ชาครียาทำไว้ ด้วยดวงตาเป็นประกาย เขาลากเก้าอี้ออกมาและทรุดตัวนั่งเคาะนิ้วกับโต๊ะดังๆ จนหญิงสาวสะดุ้งสุดตัว ชาครียาเงยใบหน้าขึ้นมองเธอยิ้มแหยๆ ให้กับเจ้าของห้อง เมื่อพบว่าคาลอสมองตรงมายังเธอ พร้อมทั้งพยักใบหน้าเรียก หญิงสาวจึงขยับลุกขึ้นจากที่นั่งเดินตรงไปยังโต๊ะอาหาร
“จาน...ช้อนไม่เห็นมีเลย จะให้ใช้มือหยิบกิน หรือว่า...เธอจะเป็นคนป้อนผมเองล่ะ” คาลอสพูดเอื่อยๆ ขยับมือพาดกับพนักเก้าอี้
หญิงสาวเดินตัวลีบเข้าไปค้นหาจานกับช้อน ฉวยเดินมาส่งให้คาลอสตามคำสั่ง เธอวางจานลงตรงหน้าเขา ขยับถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มปลายตามองผู้หญิงที่ถอยออกไปยืนเงียบๆ ด้านข้างด้วยหางตา เขานั่งนิ่งไม่ขยับกายสักนิด จนชาครียาขมวดคิ้วเป็นปม
“ทำอะไรมานะ...กินได้ไหม เธอคงไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆ ลงไปนะ” เสียงทุ้มๆ เอ่ยขึ้นเหมือนจะหาเรื่อง
“อาหารพื้นๆ เท่าที่หาของสดในตู้เย็นได้ค่ะ”
“เธอลองกินให้ดูก่อนซิ ผมไม่ไว้ใจหรอก เดี๋ยวใส่อะไรแปลกประหลาดลงไป ผมเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบ”
ชาครียาเดินเข้าไปจับช้อน ตักอาหารตักเข้าปากแบบกระแทกระทั้นนิดๆ ดวงตากลมโตเริ่มมีแววโกรธแบบที่พยายามข่มอารมณ์ไว้ที่สุด มือเรียวยกขึ้นและส่งอาหารในช้อนเข้าปากจิ้มลิ้มโดยมีสายตาคาลอสมองตามอยู่ตลอดเวลา ชาครียาเคี้ยวอาหารและกลื้นลงคอ โดยมองสบนัยน์ตากับคาลอสอย่างไม่หวั่นเกรง เนื่องจากอารมณ์กรุ่นโกรธลุกโพลงอยู่ข้างใน
“อีกช้อนซิ...” คาลอสสั่ง ด้วยเสียงเรียบเรื่อย เขาขยับกายลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ไปทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ กับที่ชาครียายืนอยู่แทน
“ป้อนผมด้วย...” คำสั่งที่ตามมาหลังจากที่คาลอสทรุดตัวลงนั่ง ชาครียาเบิกตาโต มือที่ถือช้อนอ่อนจนช้อนที่อยู่ในมือแทบจะหลุดร่วง
“เร็วๆ ซิ...หิวจะตายแล้ว ช้อนที่เธอถือนั้นแหละ” ชาครียาสั่นเทาเพราะเสียงเข้มๆ ที่ร้องเร่ง เธอพยายามบังคับใจให้สงบลง ทำตามที่คาลอสบงการเงียบๆ
ช้อนสั่นๆ ที่ตักอาหารส่งมาถึงปากของคาลอส มันสั่นเทาจนคาลอสนึกขำ เขาอ้าปากกว้างๆ รับอาหารนั้นและไล้เลียปลายช้อนอย่างหยอกเย้า หน้าหวานแดงจัดเพียงเพราะกิริยาของชายหนุ่มตรงหน้า ปลายลิ้นสีชมพูนั้น ขยับทับรอยปากของเธอก่อนหน้านั้น จนชาครียาสะท้าน ร่างกายร้อนผ่าวขึ้นมาดื้อๆ มือใหญ่ยกขึ้นมาจับมือเรียวเล็กที่กำลังสั่น เขาบังคับให้เธอตักอาหารป้อนต่อ จนอาหารที่ชาครียาทำมายุบลง และหมดลงไปอย่างรวดเร็ว ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยไล้บริเวณหลังมือของชาครียา จนผิวเนื้อบริเวณนั้นร้อนวูบวาบ กระจายไปทั่วทั้งตัว เสียงเก้าอี้ลากกับพื้นเสียงดัง เมื่อคาลอสทานอาหารหมดจาน เขาลากเก้าอี้ออกห่างโต๊ะ รั้งเอวชาครียามาเกยอยู่บนหน้าตักแกร่ง
“ปากผมเปื้อน...ช่วยทำความสะอาดให้หน่อยสิ” เสียงแหบห้าวที่ดังขึ้น พร้อมทั้งผ้าเช็ดหน้าที่ถูกยัดเข้ามาในอุ้งมือ
ลำตัวชาครียาเกยอยู่บนตักของคาลอสเกือบครึ่งตัว เธอยกมือดันอกกว้างเอาไว้ เกรงว่าร่างกายจะแนบชิดกันมากเกินไป
“ปล่อยค่ะ ดิฉันเช็ดปากตุณไม่ถนัด...ขอลงไปยืนข้างล่างน่าจะเหมาะกว่าค่ะ”
“เห็นจะไม่ได้...ผมใจร้อน ถ้าเธอยังมัวโยกโย้ ผมจะเช็ดปากที่เปื้อนเอง...และก็คงไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้าในมือเธอด้วย” คาลอสกระซิบเสียงแหบพร่า พลางยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นกว่าเดิม จนลมหายใจผ่าวร้อนรินรดบริเวณผิวแก้มใส
“ค่ะ...ชาช่าทำเองค่ะ” ชาครียาลนลานพูด เผลอแทนตัวเองเหมือนเดิม คาลอสจึงยิ้มด้วยความพอใจ
มือเรียวยกขึ้นบรรจงเช็ดไปตามมุมปากแผ่วเบา พยายามทรงตัวบนตักของชายหนุ่ม พยายามไม่ให้ร่างกายแนบชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม คาลอสแบนหน้าหนี เมื่อชาครียาเริ่มเช็ดตามมุมๆ ปากจนเธอต้องโน้มตัวตาม จนร่างกายแนบชิดกันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว อกอวบใหญ่เกินตัวของชาครียาแนบบนอกกว้างของคาลอสแบบถนัดถนี่ เธอมัวแต่สนใจจะรีบเช็ดรอยเปื้อนที่ติดอยู่บนมุมปาก จนละเลยการแนบชิดของร่างกาย เธอเกยอยู่บนร่างของคาลอสโดยที่เจ้าตัวแสนจะพอใจ กลิ่นหอมๆ รวยรินเข้าจมูกโด่งที่สูดดมอย่างแสนสุขใจ
คาลอสดันตัวของชาครียาจนหลังบอบบางติดกับขอบโต๊ะ เธอไม่มีทางดิ้นหนี เมื่อเขาท้าวมือทั้งสองข้างคร่อมร่างของเธอไว้ แถมด้านหลังก็เป็นโต๊ะตัวใหญ่ที่ทั้งหนาหนักจนไม่มีทางขยับ ใบหน้าคร้ามคมโน้มลงมาแนบชิด เขาประทับจุมพิตบนเรียวปากอิ่มที่หมายตาไว้ ปากอุ่นร้อนทาบทับลง มาบดคลึงเรียวปากอิ่มอย่างหลงใหล เรียวลิ้นสากร้อนแทรกลึกเข้าไปในโพรงปาก กวาดไล้เรียวลิ้นเล็กๆ ที่พยายามกระเสือกกระสนหนี เขาดูดดื่มความหวานฉ่ำของเรียวปากหวานได้รูป สูบลมหายใจของชาครียาจนขาดห้วง
“มากกว่าจูบได้ไหมคะ?” เสียงกระซิบแหบพร่าชิดเรียวปากอิ่ม
ชาครียากำลังอึ้ง สมองสั่งการของเธอทำงานช้าลง เธอมองคาสอสตาปรอย เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มก้มลงมาประทับเรียวปากอุ่นร้อนกับเรียวปากนุ่มนิ่มได้อีกครั้ง จุมพิตร้อนร้าย ยาวนานจนร่างเล็กแต่อวบอิ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นระรัว มือใหญ่ช้อนรองใต้ท้ายทอยและกดเบาๆ เมื่อชาครียาพยายามจะเอนกายหลบ เรียวปากร้อนร้ายตามติด บดขยี้แรงๆ เพิ่มความหวามไหวด้วยการขบเม้มกลีบปากหวานฉ่ำเบาๆ อย่างหยอกเอิน จนเรียวปากอิ่มเห่อแดงขึ้นมาทันตา เพราะคาลอสบดเบียดอย่างรุนแรงด้วยความโหยหาที่อัดแน่นอยู่ภายในหัวใจ
ชาครียาตัวอ่อน เผลอซบอกกว้างของคาลอสด้วยความอ่อนแรง เมื่อชายหนุ่มถอนเรียวปากออกห่า เปิดทางให้เธอเป็นอิสระ หลังจากจุมพิตกระชากวิญญาณจนพอใจ ลมหายใจของคาลอสร้อนผ่าว จนชาครียารับรู้ได้ ดวงตากลมโตพริ้มหลุบลง ซึมซับความรู้สึกหวานวามเก็บไว้ในทรวงอก
อารมณ์ของคาลอสเดือดพล่าน เขาจวนเจียนจะแตกดับ เพียงแค่จุมพิตเรียวปากอ่อนนุ่มแค่เพียงครั้งเดียว ลำตัวของเขาสั่นเทา เพราะแรงหอบหายใจ เนื้อตัวผ่าวร้อน เส้นเลือดเต้นตุ๊บตั๊บ เขาอยากจะปลดปล่อยสิ่งที่อัดแน่นในกายทุกหยาดหยดไปกับเรือนกายอวบละมุน เขากำมือใหญ่กับขอบโต๊ะ จิกปลากนิ้วกับผิวไม้แน่นจนข้อนิ้วปูดโปน
ชาครียาดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอด ธอพยายามทรงตัวนั่งอยู่บนตักของคาลอส จะลนลานหนีไปโดยที่คาลอสห้ามไม่ทัน เขาได้แต่มองตามหญิงสาวที่เดินจากไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
“หึ!” เสียงหัวเราะดังขึ้น เมื่อประตูหน้าห้องกระแทกปิดลง ชาครียาหายลับตาไปหลังบานประตู คาลอสยกนิ้วเกลี่ยไล้ไปตามมุมปากด้วยความพอใจ ‘จูบ’ ที่หวังไว้หวานจับใจ เขาหยัดกายทรงตัวลุกขึ้นยืน เดินไปทรุดนั่งบนโซฟาที่ชาครียาวางกล่องของขวัญของมารดาเอาไว้ เขาเอื้อมไปหยิบกล่องขึ้นมาเปิดดูแบบไม่รอช้า
ภายในกล่องว่างเปล่า...มีเพียงกระดาษชิ้นเดียว นอนอยู่ก้นกล่อง คาลอสล้วงมือลงไปหยิบออกมาคลี่ดูด้วยความสงสัย?
“มัม...เล่นตลกอะไรอีกล่ะคราวนี้” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ ‘ของขวัญคริสต์มาสถูกใจลูก...หรือเปล่า!!!’ เมื่อมองเห็นตัวหนังสือที่มาดามเรียซ่าเขียนไว้ คาลอสก็สหัวเราะเสียงดังลั่น ใบหน้าคร้ามคมเห่อแดง ในที่สุด มารดาก็ล่วงรู้ความคิดที่เขาซุกซ่อนไว้ แถบไม่มีเรื่องไหนที่สามารถแอบซ่อนเอาไว้จากสายตาของมารดาได้ ชายหนุ่มรู้สึกอับอาย เขาเคยพูดจาดูถูกหล่อนไว้ แต่ตอนน้ำเขากำลังโมโห จะมาแก้ตัวตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว ทายาทกาน่าจิปากเบาๆ เขาอยากจะเปลี่ยนใจกลับบ้านไปเสียตอนนี้เลย