คาลอส กาน่า ทายาทเพียงคนเดียวของดีมิสทรี เจ้าของธุรกิจเดินเรือขนาดใหญ่ ในน่านน้ำทะเลฟลอริดา ชายหนุ่มวัยเพียง25ปีมีสีหน้าเซ็งสุดขีด เขาถูกมารดาบังคับให้เดินทางกลับมายังบ้านเกิด เพียงเพราะว่าเด็กสาวที่มาดามเรียซ่ามารดาของเขารับอุปการะไว้... หล่อนสอบติดมหาลัยชื่อดังของอเมริกาเข้า นางจึงจัดงานฉลองใหญ่โตให้กับ ชาครียา โรจณสเถียรเด็กสาวคนนั้น เป็นการแสดงความยินดีและเปิดตัว ‘ว่าที่สะใภ้’ เพียงคนเดียวที่มาดามเรียซ่าภาคภูมิใจให้กับชาวโลกรับรู้
“คาร์คลงไปข้างล่างกับมัมได้แล้ว แขกมากันเกือบครบ มัมอยากอวดกับทุกคนน่ะว่ามีลูกเรียนเก่งตั้งสองคน...เร็วๆ ด้วยนะ” เสียงมาดามเรียซ่าเคาะประตูเร่งอยู่หน้าห้องนอน คาลอสจึงค่อยๆ หยัดกายลุกจากที่นอนอย่างเกียจคร้าน
“ไม่น่ากลับมาเลย...รู้งี้ไปบ้านไอ้ราฟดีกว่า กลับมาก็ถูกบังคับตั้งแต่วันแรก...ยัยเด็กแว่นนั่นก็ดันเรียนเก่งบรรลัย ฉันเลยต้องลงไปฉีกยิ้มเป็นตัวตลกให้มัมคุยอวดด้วยอีกคน” ชายหนุ่มบ่นพึม แต่ก็ยอมทำตามความต้องการของมารดา เขาอาบน้ำเร็วที่สุดในชีวิต แล้วมายืนหน้ายับอยู่หน้ากระจก สำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง ก่อนจะเดินลงไปด้านล่าง บริเวณที่จัดงานฉลองเล็กๆ ในหมู่เพื่อนสนิทของมารดา
คาลอสเดินไปสวัสดีกับเพื่อนสนิทของมารดาพอเป็นพิธี ก่อนจะขอตัวออกมานั่งเพียงลำพังริมสระว่ายน้ำกว้างด้านหลังตัวบ้าน เขาเอนกายลงนอนบนเตียงผ้าใบริมสระ เงยหน้ามองดูดาวที่ส่องแสงระยิบบนฟ้า เสียงกุกกักของรองเท้าส้นสูงที่กระทบกับพื้นคอนกรีตดังขึ้น คาลอสจึงเอียงหน้ามองด้วยความสนใจ แขกที่มาร่วมงานไม่น่าเดินเลยมาถึงตรงนี้ มันเป็นมุมส่วนตัวที่ไม่ได้เข้ามาง่ายๆ คาลอสจึงแปลกใจที่ยังมีคนหลงทางเข้ามา เงาร่างเพรียวระหง มองดูแล้วอวบอิ่มไปทั้งตัว เพราะชุดรัดรูป แนบไปทุกสัดส่วนจนเปิดเผยสัดส่วนอวบอิ่มให้เห็นได้อย่างชัดเจน
ผิวขาวนวลเนียนละเอียดสะท้อนกับแสงไฟ ดูเปล่งปลั่งน่าประทับใจ คาลอสจึงเผลอมองอย่างชื่นชม เพราะนานๆ จะเจอคนต้องตาถูกใจเสียที ทีท่าเหม่อลอยของสาวน้อยแปลกหน้า เหมือนหล่อนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ สีหน้าหมองเศร้า มีร่องรอยกังวล ทำให้คาลอสเผลอมองด้วยความลืมตัว อารามหลงลืมเขาจึงลุกขึ้นนั่งและเอ่ยทักทายผู้หญิงคนนั้นไป
“สวัสดีครับ...คุณเป็นแขกของยัยแว่นหรือไงครับ แล้วทำไมถึงหลงมาแถวนี้คนเดียว”
ชาครียา โรจณสเถียร สาวน้อยผู้เป็นเจ้าของงานเลี้ยงครั้งนี้ สะดุ้งสุดตัว!! เธอหมุนกายกลับมามองบุตรชายของผู้มีพระคุณ บุตรชายเพียงคนเดียวของมาดามเรียซ่ากับดิมิสทรี ผู้ที่อุปการะเธอไว้ในเวลานี้ ชายผู้นั้นเป็นชายคนเดียวที่ชาครียาเทิดทูน เธอแอบรักเขามาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว ดวงตากลมโตไหวระริกมีความยินดีปะปนอยู่ในหน่วยตา เธอดีใจที่เห็นเขากลับมาร่วมงานในครั้งนี้ ก่อนหน้านั้นชาครียาเฝ้ามองหาเขา เงาร่างสูงใหญ่ของผู้ชายในฝันอยู่ตลอดเวลา เธอฝืนยิ้มต้อนรับแขกของมาดามเรียซ่าที่มาร่วมแสดงความยินดีอยู่นานจนเมื่อยไปทั้งหน้า แต่เมื่อมองไม่เห็นคาลอสในบริเวณงาน ความอดทนของเธอเลยหมดลง...ชาครียาฝืนปั้นหน้ายิ้มแย้มต่อไปอีกไม่ไหว เธอไม่สามารถฝืนทำหน้ายินดีได้อีกต่อไป จึงหลบออกมานั่งพัก เพื่อปรับอารมณ์เศร้าหมองให้กลับมาปกติดังเดิม ก่อนกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง
ยิ้มหวานๆ ปานน้ำผึ้งรวงเดือนห้า ส่งให้คาลอส เขาจึงขยับกายลุกขึ้นจากโต๊ะตัวเดิม เดินเข้ามาทรุดนั่งใกล้สาวสวยที่ตัวเองแอบชื่นชอบ
“เบื่อหรือไงครับ? ในนั้นมีแต่คนแก่ๆ... ผมไม่ยักกะเห็นคุณในงานเพิ่งมาถึงหรือไง แล้วเป็นเพื่อนกับยัยแว่นมานานหรือยังล่ะ ผมไม่เคยเห็นคุณอยู่ในกลุ่มสาวกของยัยแว่นซักที” คาลอสพูดลอยๆ ดวงตาคมดุจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความสนใจ
ชาครียานั่งงง คนตรงหน้าพยายามเลี่ยงหลบเธออยู่ตลอดเวลา นับจากที่ย้ายเข้ามาอยู่ในครอบครัวกาน่า ตอนที่มาดามเรียซ่ารับดูแลชาครียา เพราะเธอกำพร้าพ่อ หลังจากบิดาเข้าไปช่วยดรีมิสทรี จนทำให้บิดาของเธอเสียชีวิต ครอบครัวกาน่ารับอุปการะชาครียา ส่งเสียอย่างดีเหมือนกับเป็นลูกคนหนึ่ง คาลอสต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด จนชาครียาขยาดไม่กล้าเข้าใกล้เขา เธอเจียมเนื้อเจียมตัว คอยหลบหลีกพยายามไม่เผชิญหน้ากับเขา ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ที่เคารพไม่สบายใจ ทั้งที่แอบชื่นชมคาลอสมาตลอด
เธอจ้องมองคาลอสแบบงงๆ เมื่อคาลอสมีทีท่าเปลี่ยนไปจากเดิม จนชาครียานึกแปลกใจ จนกระทั่งคาลอสเอ่ยถาม เธอจึงรู้ว่าคาลอสยังจำภาพตนเอง ตอนสวมแว่นตาหนาเตอะเอาไว้ เขาจำเธอไม่ได้นั่นเอง มาดามเรียซ่าพาชาครียาไปทำเลซิกสายตา เพื่อให้สายตากลับมาปกติเหมือนชาวบ้านทั่วไป เธอถอดแว่นตาหนาเตอะทิ้ง เปิดเผยนัยน์ตาหวานใสให้ทุกคนได้มองเห็น
“หืมม...ว่าไง” คาลอสยังถามย้ำ
“คะ...ชาช่าไม่เข้าใจคำถามค่ะ เลยยังตอบไม่ได้”
“ช่างเถอะ!!...ผมเองก็นึกเบื่อเหมือนกัน มีแต่คนน่าเบื่อ กับคำถามน่ารำคาญเลยหลบมานั่งคนเดียว”
“ค่ะ...” ชาครียารับคำ ก้มหน้าลงเพื่อหลบให้พ้นจากแววตาคมวาวที่จับจ้อง
“ชื่อชาช่าหรือ น่ารักดีนะ” คาลอสเอ่ยชม ไม่ว่าหญิงสาวตรงหน้า จะทำอะไรก็ถูกใจไปหมด “ผมคาลอสครับ เรียกว่าคาร์คก็ได้ ผมเป็นลูกชายเจ้าของบ้าน แต่ไม่ได้เป็นอะไรกับเพื่อนคุณ” ชายหนุ่มแนะนำตัว แต่ก็ไม่วายแควะไปถึงชาครียาด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้
“ค่ะ...คุณคาร์ค” เสียงหวานเรียกชื่อเขา ดังขึ้นแผ่วๆ
คาลอสชวนชาครียาคุยเขาพูดเรื่องทั่วๆ ไปแบบไม่ถือตัว หล่อนเป็นผู้ฟังที่ดี และเป็นเพื่อนคุยที่ถูกใจ คาลอสนึกชื่นชมชาครียาเพิ่มขึ้นทุกครั้งๆ ที่เอ่ยปากถามออกไป ความรู้รอบตัวของหล่อนมีเยอะแยะมากมาย สามารถประยุกต์ใช้ได้ทุกสถานการณ์ จนคาลอสอึ้ง
“ขอตัวก่อนนะคะ ชาช่าหายมานานเดี๋ยวทุกคนเป็นห่วง” ชาครียาเอ่ยขอตัว เมื่อนั่งคุยกับคาลอสอยู่นาน
“น่าเสียดายจังเลยครับ ผมจะได้เจอกับคุณอีกเมื่อไรกันล่ะ” คาลอสพยายามรั้งไว้ เมื่อชาครียาเอ่ยขอตัว
“ชาช่ากลัวแต่ว่า ครั้งหน้าคุณคาร์คจะไม่อยากเจอชาช่าอีกนะซิคะ” ชาครียาอยากจะบอกความจริงกับเขา แต่เสียดายช่วงเวลาดีๆ ที่ได้พูดคุยกับคาลอสอย่างเป็นกันเอง ไม่มีแววตาเหยียดหยามปรากฏขึ้นในสายตาของเขา เมื่อเขามองกลับมา ผิดกับทุกครั้งที่พบหน้ากัน ดวงตาคมดุคู่นี้ไม่เคยมองชาครียาดีๆ เลยซักครั้งเดียว
“คนที่ไม่อยากเจอคุณก็คงจะมีแต่คนบ้า กับคนตาบอดนั่นแหละครับ” ชาครียาอยากหัวเราะกับมุขตลกของเขา แต่เธอขำไม่ออก หากได้พบกันครั้งและความจริงเปิดเผย เธอเสียดายแววตาแบบนี้ หากมันจะเปลี่ยนไป
“อิๆ...” เสียงหัวเราะแผ่วพลิ้ว ฟังไพเราะจนคาลอสเผลอมองด้วยความหลงใหล ดวงตาคมดุเป็นแพรวพราว แววตาระยิบระยับจนชาครียาเกิดความเขินอาย
“น่าเสียดายจังที่คุณรีบกลับเข้าไปด้านใน กำลังคุยกันสนุกอยู่เลย ความจริงผมไม่ค่อยได้คุยเรื่อยเปื่อยกับผู้หญิงซักเท่าไหร่หรอก เพิ่งจะมีคุณเป็นคนแรก” คาลอสเอนกายลงนอนบนเตียงสนามเหมือนเดิม โดยที่สายตายังคงจ้องชาครียาอยู่
“ชาช่าไปก่อนนะคะ หายมานานเดี๋ยวมัมจะมองหา” ชาครียารู้สึกอิ่มเอิบ เธอขอเก็บความรู้สึกล้ำค่าครั้งนี้ไว้ หากวันหน้าจะถูกคนตรงหน้าเกลียดซ้ำ
“อุ้ย!” เสียงอุทานเพราะตกใจ อารามรีบร้อนเธอจึงก้าวพลาด จนทำให้ส้นรองเท้าพลิก จนเธอเสียหลักเกือบจะล้มลงไปกองที่พื้น ถ้าคาลอสถลาเข้ามารับเอาไว้เสียก่อน
กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยมาแตะจมูก คาลอสเผลอสูดดมเข้าไปเต็มปอด ร่างอวบอิ่มตกอยู่ในอ้อมกอดของคาลอส ร่างกายแทบทุกส่วนแนบสนิท แทบจะหลวมรวมเป็นร่างเดียวกัน ความร้อนจากกายเขาแผ่มาถึงเธอ จนชาครียาเริ่มจะสั่นเทา มือเรียวยกขึ้นดันอกหนาไว้ พยายามโก่งตัวไม่ให้หน้าอกอวบใหญ่แนบชิดกับอกกว้างมากเกินไป
ดวงตาคมดุกราดมองดวงหน้าหวานที่ชิดใกล้ ดวงตาหวานไหวระริกอย่างตื่นกลัว