“ชาช่ามากินอาหารเช้ากับมัมมาลูก” มาดามเรียซ่าร้องเรียก เมื่อเห็นชาครียาเดินผ่านห้องอาหารไปไวไว
หญิงสาวเดินเขามาภายในห้องด้วยท่าทางสำรวม เธอยกมือขึ้นทำความเคารพตามความเคยชิน ทรุดลงนั่งเก้าอี้ตัวใกล้ๆ วางหนังสือเรียนลงข้างตัว ยกแก้วนมที่คนสนิทของมาดามเรียซ่ายกมาวางให้ขึ้นจิบแก้กระดาก
“หนูจบปีนี้ใช่ไหมลูก มัมว่าจะถามหลายครั้งแล้ว”
“ค่ะ” ชาครียารับคำช้อนสายตามองมาดามเรียซ่า
“มัมจะให้หนูเข้าไปดูแลกิจการแทนแด๊ดน่ะ เข้าไปเรียนรู้กับแด๊ดไว้ก่อน จะได้เก่งเร็วๆ” มาดามเรียซ่าหยิบขนมปังในจานขึ้นมาทาเนย ก่อนจะวางลงบนจานของหญิงสาว
“เอ่อ...”
“ไม่มีแต่ลูก มัมคิดดีแล้ว ถ้าให้รอตาคาร์ค แด๊ดคงต้องทำงานอีกนาน เห็นเมื่อคืนโทร.หาแด๊ดว่าจะอยู่ทำอะไรกับเพื่อนก็ไม่รู้ คงยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ มันคงคิดว่ามัมจะง้อ ฝันไปเถอะ” มาดามเรียซ่ากล่าวประชดบุตรชาย
“ถ้าคุณคาลอสรู้ เดี๋ยวเธอจะโกรธชาช่าเอาได้ค่ะ”
“ช่างหัวคาร์คมันซิ...ชาช่าหนูไม่สงสารแด๊ดหรือไง มัมมีแค่หนูกับคาร์ค ยิ่งรายนั้นเอาเรื่องอะไรก็ไม่ได้ ก็เหลือแต่หนูเท่านั้นแหละ”
“ค่ะ”
“ถ้าภายในสามปีคาร์คยังไม่กลับบ้าน มัมจะยุให้แด๊ดยกทุกอย่างให้หนูให้หมด ไม่ต้องยกให้คาร์คมันแล้ว อยากงอนมัมเป็นเด็กๆ ดีนัก”
ชาครียาก้มหน้าซ่อนแววตาผิดหวัง ให้พ้นจากสายตามาดามเรียซ่า เธอถอนหายใจอย่างอ่อนล้าเมื่อรู้ว่าคาลอสยังคงไม่ยอมกลับมาบ้าน เหมือนที่เขาเคยลั่นวาจาเอาไว้ ชาครียารู้เรื่องของคาลอสผ่านหนังสือพิมพ์ และหนังสือซุบซิบทั้งหลาย เธอตัดเก็บภาพของเขาไว้ในสมุดเล่มโต วางไว้ใกล้ๆ ตัวยามหลับใหล ทุกๆ ครั้งที่มีรูปหรือภาพถ่ายของคาลอสชาครียาจะตัดเก็บเอาไว้อย่างดี ถึงแม้ว่าชายผู้นั้นจะโกรธเกลียด แต่ชาครียาก็ยังคงหลงรักเขาอยู่เรื่อยมา
“หนูจะไปลอสแอนเจลิสตอนไหน มัมอยากให้หนูแวะเอาของบางอย่าง ไปให้คาร์คด้วยนะจ้ะ”
“อีก3อาทิตย์ค่ะ ชาช่าต้องไปก่อนวันคริสต์มาส ไม่อย่างนั้นส่งงานไม่ทันค่ะ”
“ดีจะได้เป็นของขวัญคริสต์มาสให้คาร์คเลย” มาดามเรียซ่าพึมพำ นางวางแผนการล่วงหน้าเอาไว้ แล้ว ส่งชาครียาไปยั่วให้คาลอสอยู่ไม่ติด อยากรู้นักว่าบุตรชายจะทำหน้าอย่างไร เมื่ออยู่ๆ ชาครียาไปปรากฏกายขึ้นหน้าห้อง
“หนูจะไปมหาลัย’เลยใช่ไหม...ไปพร้อมมัมก็แล้วกันนะ เดี๋ยวมัมแวะไปส่งก่อนไปทำธุระต่อ”
“ค่ะ” ชาครียายกแก้วนมขึ้นดื่มจนหมด เตรียมตัวไปพร้อมกับมาดามเรียซ่า
มาดามเรียซ่าและชาครียาเดินออกจากบ้าน สองสาวต่างวัยตรงไปขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่หน้าบ้านพร้อมกัน เสียงพูดคุยดังขึ้นเบาๆ ไปตลอดทางจนถึงมหาวิทลัยของชาครียา เธอก้าวเท้าลงจากรถยนต์คันใหญ่หันไปโบกมือลา รีบเดินเข้าคลาสเรียนเมื่อจวนได้เวลาเรียนพอดี
มาดามเรียซ่ามองตามชาครียาไป พร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ติดอยู่ที่มุมปาก เมื่อนึกถึงสีหน้าของคาลอสยามเจอกับคนที่ตนเองไม่คาดคิดแบบไม่รู้ตัว
(คุณ...เดี๋ยวฉันแวะเข้าไปหา คุณติดธุระหรือเปล่าคะ)
(ไม่...ผมมีประชุมนิดหน่อย แต่คิดว่าไม่นาน คุณมีอะไรด่วนหรือเปล่าล่ะ)
(ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...มีเรื่องปรึกษาอะไรนิดหน่อย)
(เรื่องอะไรอีกล่ะ...คราวนี้)
(จะมีเรื่องอะไรล่ะคะ เรื่องเอาคืนไอ้ตัวแสบนะสิ คิดจะงัดข้อกับฉันมันเร็วเกินไปค่ะ)
(คุณสองคนกับลูกนี่...เหมือนกันไปหมดแทบทุกเรื่องเลยนะ)
(แหมแม่กับลูกมันก็ต้องเหมือนกันซิคุณ แต่คราวนี้ลูกคงชอบ เพราะฉันจะส่งของที่เขาอยากได้ไปให้ อาจจะรีบแจ้นกลับบ้านเลยก็ได้ใครจะไปรู้)
มาดามเรียซ่าคุยเรื่องทั่วๆ ไปอีกนิดหน่อยก่อนจะกดวางสาย นางผินกายไปมองทิวทัศน์ข้างถนนขณะที่รถยนต์วิ่งผ่าน ด้วยดวงตาเป็นประกาย สมองคิดแผนการที่วางเอาไว้อย่างลงตัว โดยหวังผลยิ่งใหญ่เอาไว้ล่วงหน้า
นางพญากาน่าเดินเข้าไปในตึกสำนักงานใหญ่ของกาน่ากรุ๊ปอย่างรื่นเริง เธอมองเห็นอนาคตภายหน้าหลัของบุตรชาย งจากส่งชาครียาไปกระตุ้นคาลอสได้อย่างชัดเจน
“สวัสดีค่ะมาดาม...” พนักงานต้อนรับยกมือขึ้นทำความเคารพ เมื่อเห็นมาดามเรียซ่าเดินเข้ามา
“บอสเลิกประชุมหรือยัง ฉันจะได้ขึ้นไปหาเลย”
“เลิกแล้วค่ะ...เลขาคุณดิมิสทรีโทร.ลงมาแจ้งไว้เมื่อซักครู่ ให้เชิญมาดามขึ้นไปได้เลย”
“ฉันไปนะ...ไว้จะให้ชาช่าเอาขนมอร่อยๆ เข้ามาฝากทุกคน คราวหน้านะจ้ะ”
มาดามเรียซ่าเดินตรงไปยังห้องทำงานของดิมิสทรีด้วยความคุ้นเคย ร่างค่อนข้างท้วมของมาดามเรียซ่าเดินจากไป โดยมีหลายสายตาของพนักงานมองตามไปอย่างสนใจ
“คุณชาช่านี่ใช่คนที่ออกงานกับมาดามบ่อยๆ ใช่ไหม...ตามข่าวที่ว่าเป็นว่าที่สะใภ้ของมาดามน่ะ...ใช่หรือเปล่า” หลายเสียงกระซิบถามกันเป็นทอดๆ เมื่อหาคำตอบยังไม่ได้ เสียงซุบซิบดังไปทั่วบริษัท ตามที่มาดามเรียซ่าคาดไว้แล้ว
“มาแล้วรึ? แวะไปส่งชาช่ามาอีกล่ะซิคุณน่ะ” ดิมิสทรีเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร เขาเอ่ยถามภรรยา เมื่อมาดามเรียซ่าเดินผ่านเข้ามาในสายตา
“ค่ะ ก็ต้องใช้ไม้นี้ ไม่งั้นแกก็โหนรถเมล์ไปอีกนั้นแหละ ไม่รู้จะเกรงใจอะไรนักหนา” มาดามเรียซ่าบ่นถึงชาครียาด้วยความอ่อนใจ หญิงสาวพยายามเลี่ยงความสะดวกสบายทุกอย่างที่มาดามเรียซ่ามอบให้
“หนูชาช่าแกเจียมตัวน่ะ...ยิ่งตาคาร์คไม่ยอมกลับบ้านแบบนี้ด้วย ยิ่งเจียมหนักขึ้นไปอีกหลายเท่า คงกลัวว่าจะเป็นต้นเหตุให้คุณกับลูกหมางใจกัน”
“ใครว่าล่ะ...ฉันกับลูกไม่เคยทะเลาะกัน มีแต่ลูกนั้นแหละที่เล่นแง่กับฉันมาตลอด” มาดามเรียซ่าต่อว่าคาลอสพร้อมกับความน้อยใจที่ผุดขึ้นมากลางใจ
“งอนกันไปงอนกันมาน่าตีทั้งแม่ทั้งลูก...คุณก็รู้ว่าลูกไม่ชอบถูกบังคับ ยิ่งไปกะเกณฑ์แบบนี้ยิ่งต่อต้านหนักขึ้นไปอีกสิ”
“ฉันหวังดีกับลูกนี่คะ ถ้ามัวแต่รอ ปล่อยให้ลูกเลือกคนที่พอใจเอง กลัวว่าจะไปคว้าเอาแม่พวกแปดสาแหรกมาน่ะซิ”
“แล้วเป็นไงล่ะ...คนที่คุณพอใจ แต่ลูกไม่ชอบน่ะ เตลิดไปไกลสุดกู่เลยไหมล่ะ”
“คุณรู้ได้ไงคะว่าลูกไม่ชอบชาช่า เมื่อก่อนนั้นน่ะยังเป็นเด็ก ชาช่าก็ยังไม่โตเป็นสาว คุณไม่เห็นหรือไงคะ ครั้งสุดท้ายลูกมองหนูชาช่าด้วยสายตาอย่างไร?”มาดามเรียซ่าเอ่ยแบบเป็นต่อ
“ผมรู้...แต่ลูกก็ยังไม่ยอมรับซักหน่อยนี่ ปล่อยลูกไปก่อนเดี๋ยวมันก็กลับมาเอง เมื่อคืนโทร.มาว่าจะทำงานร่วมกันกับเพื่อน ขอเวลาอีกไม่นาน คุณก็ใจเย็นๆ ก่อนซิ”
“ไม่ล่ะค่ะ...ฉันใจร้อน คุณคอยดูก็แล้วกัน คาลอสจะรีบกลับบ้านไหม หลังจากได้ของขวัญวันคริสต์มาสจากฉันไป”
“คุณจะส่งอะไรไปล่ะคราวนี้...คงไม่ใช่ระเบิดนะ”
“ยิ่งกว่าระเบิดอีกคุณ...อาจจะเป็นปรมาณูเลยก็ได้ใครจะไปรู้” ดวงตามาดามเรียซ่าแพรวพราวไปด้วยเล่ห์กล ยามนึกถึงแผนการที่วางไว้
ชาครียาก้าวเท้าตรงไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ด้วยความเร่งร้อน หลังส่งงานชิ้นสุดท้ายกับอาจารย์เรียบร้อย เธอก็รีบเดินทางมายังคอนโดหรูที่คาลอสพักอาศัยอยู่ เพื่อส่งของที่มาดามเรียซ่าฝากมาให้กับเขา
ประชาสัมพันธ์คนสวยส่งยิ้มหวานมาให้ เมื่อของชาครียาที่เดินตรงเข้าไปหา
“มีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ?”
“ฉันมีของขวัญ มาฝากไว้ให้คุณคาลอสค่ะ เขาที่พักอยู่ที่นี่” ชาครียายอมขัดคำสั่งของมาดามเรียซ่า นางกำชับอย่างหนักแน่น เมื่อฝากของขวัญกล่องนี้มาให้คาลอส และขอให้ส่งถึงมือของบุตรชายด้วยตัวของชาครียาเอง
“คงไม่ได้ค่ะ...คุณคาลอสสั่งไว้ว่าไม่รับของขวัญของใครทั้งหมด ถ้าคุณอยากมอบให้เขา คุณต้องติดต่อคุณคาลอสเองค่ะ” ประชาสัมพันธ์คนสวยเอ่ยขัดขึ้น เมื่อชาครียาแจ้งจุดประสงค์