EP7 - ผมว่ามันแปลกดี

1356 คำ
7 - ผมว่ามันแปลกดี ทางด้านนอร์ท ผมกับปอแก้วบอกเลยว่าเราสองคนกลายเป็นวัยรุ่นชอบก่อกวนชาวบ้าน เป่าฟองสบู่ทำฟองลอยเข้าหูเข้าตาไปหมด มันเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผมชอบทำมากกว่าการทำงานหาเงินเสียอีก ผมชักจะเพ้อฝันออกตามหาความรักผ่านของในมือที่เรียกว่าฟองสบู่ได้แล้ว ผมเป่ามันให้ฟองสบู่ลอยออกไปเพื่อให้ความรักของผมอยู่ยาวคงที่เสมอไป แต่ตอนนี้ผมคงต้องหยุดเป่าก่อนไม่งั้นชาวบ้านจะด่าผมกับปอแก้วได้แล้ว “มึงจะเป่าเพื่อตามหาความรักอีกนานแค่ไหนล่ะ” “ไม่รู้ดิ จนกว่ากูจะเรียกสิ่งนั้นว่ารักได้เต็มปาก” แม้หน้าตาผมจะไม่หล่อ ออกแบดบอยแต่หัวใจของผมสีชมพู ใครเห็นก็อยากอยู่ใกล้ เพราะความคิดของผมถ้าใครได้ฟัง มันสดใสน่าดูเลยว่าไหม แต่จะว่าไปผมนั่งอยู่ข้างปอแก้วแล้วทำไมผมรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาได้ล่ะ ทำไมผมจับมือปอแก้วแล้ว เหมือนน้ำแข็งจะลุกลามเป็นทางมาจากมือเขาได้ล่ะ ผมรู้สึกสัมผัสความเย็นที่ส่งต่อจากจิตวิญญาณ ผมจับมือค้างไว้จนน้ำแข็งจะเกาะให้ได้แล้ว “ทำไมกูรู้สึกว่าตัวมึงเหมือนน้ำแข็งเลยวะ” ปอแก้วตกใจเมื่อผมเคลิ้มให้นอร์ทจับมือตามประสาผู้ชายใจเกเรชอบอยู่ด้วยกัน ผมต้องสะบัดมือออกเพราะผมกลัวว่าเขาจะรู้ความลับของผมบางอย่าง ผมยังไม่อยากบอกให้เขารู้ตอนนี้ มันดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติมากกว่าความเป็นจริง “มึงเป็นคนหรือเปล่าปอแก้ว” ผมสงสัยว่าปอแก้วเป็นมนุษย์จริงหรือเปล่า บางทีอุณหภูมิร่างกายของเขาอุ่นมากหรือบางทีก็เย็นมากจนผมไม่รู้ว่าเขาเป็นมนุษย์หรือเครื่องปรับอากาศกันแน่ ถ้าผมปรับอุณหภูมิสักยี่สิบห้าองศาคงสั่งงานได้ “กูมีสามสิบสองประการต้องเป็นคนดิ ถามแปลก” “เอาเถอะ กูไม่ถามอะไรมากละ เย็นนี้กินหมูกระทะกันไหมกูเลี้ยง” “เอาดิ” ผมเห็นว่านอร์ทจะเลี้ยงหมูกระทะผมถือว่าเป็นโชคดีที่ผมจะได้กินของฟรีจากเพื่อนรัก ปกติผมเป็นสายกินบุฟเฟ่ต์อยู่แล้วและผมชอบกินอะไรที่เย็นและเป็นน้ำแข็งสุด ๆ หวังว่าเขาจะไม่สงสัยอะไรผมอีกนะเพราะร่างกายของผมมันไม่เหมือนคนอื่น มีหัวใจความเย็นเป็นน้ำแข็งขั้วโลกเหนือเพราะผมเกิดที่นั้นมีผู้ดูแลคือมิสเตอร์นอร์ทโปล ผมถึงอยากให้เพื่อนผมเชื่อว่ามีอยู่จริงจะได้ประทานพรที่ขอได้ สักวันผมต้องทำให้มันเชื่อให้ได้ แต่ต้องปิดบังความจริงของผมและทุกคนที่ผมยังหาตัวเขาไม่เจอ เพราะมิสเตอร์นอร์ทโปลไม่ให้ผมติดต่อผ่านโทรศัพท์ ต้องผ่านทางหูฟังเท่านั้น อีกด้านหนึ่ง ใครคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้านหลังจากนั่งทำงานที่โต๊ะทำงานในห้องนอนติดหน้าต่างซึ่งเป็นมุมประจำของเขา เขากำลังเดินออกมาเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าพบว่าฟองสบู่จำนวนหนึ่งลอยวนไปมาที่ตัวผู้ชายคนนี้ มันพิศวงดีเหมือนฟองสบู่เหล่านี้มีจิตวิญญาณซ่อนอยู่ พร้อมบอกอะไรกับผู้ชายตรงหน้า แปะ! ผมเอานิ้วจิ้มฟองสบู่ให้มันแตกออกทีละฟอง เวลาผมเห็นมันลอยไปมามันสนุกมือผมมากเลย ผมจิ้มแตกไปหลายฟอง แต่ว่าผมเห็นมันเหมือนจะลอยมาเพิ่มมากขึ้น เจาะจงมาที่ผมคนเดียวมันชักจะยังไงแล้วสิ มนต์วิเศษในฟองสบู่กำลังซึมซับตัวตนของผม ผมเป็นคนมีเวทมนตร์แล้วหรือไงถึงได้สัมผัสถึงความรู้สึกมันได้ “มันแปลกมากเลย” ผมเหมือนว่าสิ่งนี้เป็นเวทมนตร์ราวกับใครบางคนส่งตัวแทนความรักเข้ามาก่อนจะเข้ามาในรูปแบบตัวจริง ผมไม่รู้หรอกว่าเขาคนนั้นเป็นใครแต่ฟองสบู่แบบนี้มันทำให้ผมหวนความชอบที่ผมเคยเล่นตั้งแต่เด็ก ผมกลับเข้าไปในบ้านไปหยิบของสิ่งนั้นมาเล่นดูบ้าง เวลาต่อมา ฟรู้ววว ผมชื่อยูยิ้มเป็นผู้ชายวัยมหาวิทยาลัยเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่เข้ามาในชีวิตผม ผมเป็นคนตัวผอมสูง ร่างกายบอบบางออกจะอ่อนแอ ผมไม่มีท่าป้องกันตัวหรอกเวลาโดนผู้ชายแกล้งทำอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้าผมอยู่ในเซฟโซนในห้องที่สามารถสร้างความสุขให้ผมคนเดียว ผมจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งทางใจมากจนใครก็มองเห็นไม่เท่าผม ผมเป็นคนรักอิสระอยากไปเที่ยวไหนก็ไปได้เลย เงินผมมากพอจะใช้ทั้งชีวิตได้เลย ตอนนี้ผมกำลังสนุกกับการเป่าฟองสบู่ให้มันลอยไปมาทั่วท้องฟ้าถือว่าเป็นการบรรยายเกินจริง ถ้าฟองสบู่ลอยทั่วท้องฟ้าแบบนี้ ปอดผมพังหมดพอดี เป่ากี่ชาติจะเต็มท้องฟ้า ผมก็แค่เปรียบเปรยไปเท่านั้นเอง “แกย้อนวัยเหรอ ยูยิ้ม” แฟนต้าเพื่อนของผมเห็นท่าทางของผมในวันนี้แล้วบอกเลยว่าไม่คุ้นเคยกับผม ราวกับว่าวันนี้ผมจะเป็นเด็กประถมไปแล้ว ตัวโตแต่ความคิดและการกระทำผมอยากกลับเป็นเด็กมาก เอาเป็นว่าผมขอใช้เวลานี้ในการเป่าฟองสบู่ให้ผมได้เพิ่มพลังปอดให้แข็งแรงก็ยังดี “ไม่รู้สิ เหมือนอะไรมาดลใจให้เรากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง” ผมบอกกับแฟนต้าว่า ผมเห็นฟองสบู่ลอยเข้าบ้านผมเหมือนจงใจมาหาผมคนเดียวทำให้ผมเป่ามันและย้อนวัยกลับไปอีกครั้งหนึ่ง ฟังดูแล้วมันเป็นเหตุผลที่เพ้อเจ้อเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม ฟองสบู่ที่ไหนจะลอยไปไกลหลายกิโลเมตรแล้วไม่แตกก่อนที่ผมมาเห็น มันแปลกเกินไปจนผมและเพื่อนยังไม่อยากเชื่อหรือไม่ “แกเพอเจ้อปะเนี่ย” “ไม่รู้สิ เรายังไม่แน่ใจแต่เราเห็นจริง ๆ” ผมยืนยันกับแฟนต้นเลยว่าผมเห็นฟองสบู่ลอยจากดินแดนแสนไกลมารอให้ผมเห็น ฟองของมันทนทานแรงลมฝนถึงได้ลอยมาไม่แตก มันเหมือนใครอีกคนบนโลกใบนี้เป่ามาเพื่อตามหาความรัก “มึงเลิกอ่านนิยายแฟนตาซีสักที มันทำให้มึงแยกเรื่องจริงกับเรื่องแต่งไม่ออก แล้วกูจะได้กินไหมหมูกระทะอะ” ผมนัดกับยูยิ้มจะไปกินหมูกระทะแต่ดูท่าทางผมจะกินไม่ลงเพราะมันชอบเพ้อเจ้อ ผมว่าบ้านของเพื่อนผมห้องนอนตรงชั้นหนังสือมีแต่นิยายหน้าปกสวยแถมเนื้อเรื่องเพ้อมาก มิน่าล่ะมันถึงเป็นคนที่เพ้อฝันจนผู้ชายด้วยกันไม่เข้าใจ ระหว่างทางที่เดินกับผมไปเขาเป่าฟองสบู่ไปตลอดทางเลย ฟรู้วววว “ไอ้ยูยิ้มม” ผมตกใจเมื่อมันเป่าเข้ามาหาผมจนฟองสบู่ลอยเข้าตาผมหมด ผมบอกให้มันหยุดเป่า ผมจะมองทางตรงหน้าไม่ชัด ข้ามถนนพลาดรถชนตายต่อหน้าเพื่อนคนนี้ ผมจะตามไปหลอกหลอนทันที ช่วงรอข้ามถนนผมยืนเป่าฟองสบู่จนปอดผมจะหมดแรงก่อนกินหมูกระทะ เมื่อไฟข้ามถนนเปลี่ยนเป็นสีแดง ไฟพร้อมข้ามเป็นสีเขียว ผมเดินตามแฟนต้าไปทั้งที่ผมกำลังเดินเป่าฟองสบู่ จังหวะนั้นผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมเดินสวนทางกับใครบางคนที่มีของเหมือนกับผมเลย ในมือขวดคนละสีแต่วิธีใช้เหมือนกัน “เอ๊ะ...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม