ก๊อก~ ก๊อก~ (เสียงใครบางคนเคาะกระจกรถ ในขณะที่ทั้งสองกำลังจูบกันอยู่)
หญิงสาวถึงกับสะดุ้งรีบผลักเขาออก และชายหนุ่มก็ยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
"สวัสดีครับคุณมังกร ผมเห็นคุณจอดรถได้สักพักแล้ว แต่ยังไม่ลงมา"
"คุณเหมันต์"
เหมันต์คือผู้จัดการใหญ่ที่ดูแลบริษัทในประเทศไทย เขาเดินทางมาประชุมเรื่องนี้โดยเฉพาะ
มังกรลงรถมาคุยกับเหมันต์อยู่ข้างนอกสักพัก เขาก็เปิดประตูรถกลับเข้ามาหยิบเอกสาร
"ลงมาสิ" พอชายหนุ่มได้เอกสารแล้ว เขาก็เลยบอกให้เธอตามออกมาด้วย
"ฉันไม่ไป" ถ้าเลือกได้เธอคงจะไม่คุยกับเขา แบบนั้นมันดูเสียมารยาทเกินไป ..เขาจะไม่ขอโทษเราเลยเหรอที่จูบ..นั่นคือจูบแรกของเราเลยนะ
"จะกวนประสาทอะไรอีก" ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สบอารมณ์ คงคิดว่าเธอเล่นตัวเพื่ออัพคุณค่าของตัวเอง
"ฉันไปไม่ได้"
"ทำไม"
"กางเกงเปื้อน" ตอนนี้ประจำเดือนของเธอทะลุออกมานอกกางเกง และมันก็เปรอะเบาะนั่งไปด้วย
ที่จริงเธอกลั้นมันไว้ได้สักพักแล้ว แต่พอถูกเขาจู่โจมด้วยจูบ ไอ้ที่กลั้นเพราะคิดว่าจะมาปล่อยในห้องน้ำของโรงแรม มันได้หลั่งไหลออกมาจนรู้สึกได้
"หมายความว่าไง"
"คุณก็รู้ว่าฉันเป็นประจำเดือน วันนี้ไม่ได้เอาผ้าอนามัยมาเปลี่ยนด้วย" หญิงสาวพูดแบบไม่กล้าหันหน้ามาหาเขาด้วยซ้ำ
สายตาชายหนุ่มมองต่ำลงไปที่ก้นของเธอทันที เพราะตอนนี้เขาเข้าใจสิ่งที่เธอสื่อออกมาแล้ว
มังกรเดินอ้อมไปอีกฝั่ง พร้อมกับรีบถอดเสื้อสูทของตัวเอง "ออกมา" ชายหนุ่มเปิดประตูรถให้เธอลงมาก่อน
"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไปไม่ได้ มันเปื้อนไปหมดแล้ว"
"ก็เอาเสื้อคลุมไว้ไง..ลงมาก่อน"
"เดี๋ยวเสื้อของคุณก็เปื้อนไปด้วยหรอก"
"เปื้อนก็ซักได้ เธอจะไปนั่งแช่ทำไมอยู่ข้างในรถ อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะคุยงานเสร็จ"
เลิฟยูจำเป็นต้องได้ลงมาในสภาพนั้น เพราะเธอคิดว่าเขาคงจะกลัวเบาะรถของเขาเปื้อนมากไปกว่านี้
พอเท้าเรียวยืนแตะพื้นทั้งสองข้าง ชายหนุ่มรีบเอาเสื้อสูทที่เพิ่งถอดออกพันรอบเอวของเธอไว้ เพื่อปิดบังร่องรอย
เหมันต์ยืนมองแบบแปลกใจว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ดูท่าทางมังกรจะให้ความสำคัญกับเธอมาก
"คุณเหมันต์ ผมฝากเอาเอกสารเข้าไปในห้องประชุมก่อนนะ เดี๋ยวผมตามไป"
"ครับ" เหมันต์กำลังจะเปิดประตูรถเพื่อไปหยิบเอกสาร
"เดี๋ยวผมหยิบให้ดีกว่า" มังกรรีบเปิดประตูรถก่อน เพราะเขากลัวว่าเหมันต์จะเห็นคราบประจำเดือนของเธอที่เปรอะเบาะรถอยู่
พอเหมันต์ได้เอกสารก็ตรงไปที่ห้องรับรองก่อน
ส่วนมังกรก็พาเธอมาที่ล็อบบี้ของโรงแรม
"*ผมฝากหาชุดให้เธอเปลี่ยนหน่อยนะครับ ค่าใช้จ่ายรวมกับงานประชุมเลย*" และชายหนุ่มก็ไม่ลืมที่จะให้พนักงานหาผ้าอนามัยมาให้เธอเปลี่ยนด้วย
"ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากับพนักงาน คุณจำห้องประชุมวันนั้นได้ใช่ไหม พอเสร็จแล้วค่อยตามผมไปที่ห้องนั้น" เขาหันมาพูดกับเธอบ้าง
"ค่ะ" อายก็อายแต่จะไม่ให้บอกเรื่องนี้ก็ไม่ได้
ยี่สิบนาทีผ่านไป..
ประตูห้องประชุมได้ถูกเปิดออก หญิงสาวร่างบางที่อยู่ในชุดราตรีของงานแฟชั่นโชว์ที่เพิ่งแสดงจบไปได้เดินเข้ามา
ทุกคนที่กำลังนั่งคุยงานอยู่ต่างหันมามองที่เธอเป็นตาเดียว..ไม่เว้นแม้แต่มังกร
พนักงานโรงแรมคิดว่าเขาต้องการให้เธอแต่งตัวหรูหราเพื่องานประชุมนี้ และเลิฟยูก็คุยกับพนักงานไม่รู้เรื่อง เธอก็เลยจำเป็นต้องให้พวกเขา จัดการกับเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ขนาดตัวเองมองกระจกแล้วยังสงสัยเลยว่าใครที่ยืนอยู่ในนั้น...
"ชะ.. เชิญนั่งก่อนครับคุณผู้หญิง" เหมันต์ที่นั่งอยู่ข้างมังกรรีบลุกขึ้น แล้วเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง
"ขอบคุณค่ะ คุณเป็นคนไทยเหรอคะ" หญิงสาวจำไม่ได้ว่าคนที่ไปเคาะประตูรถคือผู้ชายคนนี้ เพราะตอนนั้นเธอมัวแต่อายไม่กล้ามองหน้าเลยด้วยซ้ำ
"ใช่ครับ"
"ผมว่าคุยงานต่อดีกว่า" ก่อนที่ทั้งสองจะคุยกันประโยคต่อไป มังกรได้พูดขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
สามชั่วโมงผ่านไป..
"อาทิตย์หน้าผมถึงจะเดินทางไปที่ประเทศไทย พวกคุณก็จัดเตรียมงานไว้รอแล้วกัน"
"ครับ" หลายคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นต่างก็ตอบรับแบบนอบน้อม
ระหว่างที่กำลังคุยงานอยู่นั้น เขาสังเกตเห็นเธอนั่งบิดไปมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ พอทุกคนเริ่มทยอยออกจากห้องนั้นไป ชายหนุ่มก็เลยหันมาหาหญิงสาวบ้าง
"ชุดอื่นไม่มีให้ใส่แล้วเหรอ"
"ไม่รู้ค่ะ ฉันคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง"
มังกรถอนหายใจก่อนที่จะลุกขึ้น "กลับ"
"กลับบ้านใช่ไหมคะ" หญิงสาวดีใจมาก เธอรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้
แขว่ก~
"........" ทั้งสองมองไปดูที่ต้นเสียงพร้อมกัน เก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่มันทับชายกระโปรง พอลุกขึ้นกระโปรงก็เลยขาด
"ฉะ.. ฉันไม่ได้ตั้งใจ"
"แล้วเธอเคยตั้งใจอะไรไหม"
"เดี๋ยวฉันเย็บซ่อมคืนให้ก็ได้ แต่มันจะซ่อมได้ไหม.." มือเรียวค่อยๆ จับกระโปรงนั้นให้มันประสานกัน เพราะว่าตอนนี้ถ้าเดินออกไปคนคงจะเห็นต้นขาเกือบจะถึงสะโพกเธอแน่
ชายหนุ่มค่อยๆ ถอดเสื้อเชิ้ตที่เหลืออยู่ตัวเดียวของเขาออก เพราะว่าเสื้อสูทตัวนั้นเขาส่งซักพร้อมกับชุดของเธอ
"คุณจะทำอะไร" เลิฟยูถามแบบสงสัย เพราะอยู่ดีๆ เขาก็ถอดเสื้อโชว์ซิกแพค
"แล้วเธอจะเดินโชว์ก้นออกไปแบบนี้น่ะเหรอ" พอถอดเสื้อออกแล้ว เขาก็ใช้มันคลุมกระโปรงด้านหลังให้เธอ รวบแขนเสื้อทั้งสองข้างมามัดไว้ตรงเอว
พอเรียบร้อยแล้วมังกรพาเลิฟยูเดินออกมาที่ล็อบบี้อีกครั้ง เพื่อที่จะบอกว่าชุดที่พวกเขาให้เธอยืมใส่ก่อนนั้น..มันขาด..
จังหวะที่เขาเดินออกมา จากห้องรับรอง สายตาของสาว ๆ หลาย ๆ คู่ต่างก็มองมา ใครจะไม่มองล่ะซิกแพคแน่นขนาดนั้น
"*ชุดนี้ราคาเท่าไหร่เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบเอง*" พอชายหนุ่มรู้ราคาแล้วเขาก็เลยเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
...บนรถ...
"คุณจ่ายค่าชุดนี้ไปเท่าไหร่คะ" เห็นเขาเงียบระหว่างทางที่ขับรถมาเธอก็เลยชวนคุย
"แสนแปด"
"แสนแปด..เงินญี่ปุ่นเหรอคะ" หญิงสาวถามออกไปเสียงเรียบ เธอไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่คิดว่าเป็นเงินเยน แต่ถึงเป็นเงินเยนก็แพงอยู่ดีตั้งหลายหมื่น แต่มันก็สวยสมราคา
"เปล่าเงินไทย"
"แสนแปดเงินไทย!!??" เลิฟยูแทบช็อคเมื่อรู้ว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่ "เขาจะขายชุดไปสร้างตึกหรือไง"
"ชุดนี้มันเป็นชุดฟินาเล่ ที่จัดแฟชั่นโชว์เมื่อคืนนี้"
"คะ!?" ถ้าจะร้องไห้ตรงนี้มันน่าอายเกินไปไหมเนี่ย ฉันจะเอาเงินที่ไหนมาใช้คืนเขา
"ฉันจะพยายามหาเงินมาใช้คืนคุณแล้วกัน"
"หึ!!" ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก เพราะตั้งแต่เจอเธอคนนี้มา ปัญหาที่ไม่เคยมี มันก็ทยอยเข้ามาในชีวิตทีละอย่างสองอย่าง จนกลายเป็นสีสันของชีวิตเขาไปแล้ว
เขาคงคิดว่าเราจะไม่มีปัญญาใช้คืนหรือเปล่าถึงเงียบอีก แต่ก็จริงอย่างที่เขาคิดนั่นแหละ เงินตั้งแสนแปดจะเอาที่ไหนมาใช้เขา
ขับรถชั่วโมงกว่าก็มาถึงบ้าน..พอได้ยินราคาชุดที่เธอทำขาด จากที่หิวข้าวอย่าหนักเพราะยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง แต่ตอนนี้ความหิวมันได้มลายหายไปสิ้น ไม่มีแรงแม้จะก้าวเดิน
"กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ ทำไมหนูใส่ชุดนี้ แล้วไดจิทำไมไม่ใส่เสื้อล่ะลูก..ไม่หนาวเหรอ"
"แม่ถามคนดีของแม่แล้วกัน" พอจบคำพูดกับแม่ชายหนุ่มก็รีบเดินขึ้นบ้านเพราะตอนนี้หนาวมาก
"คุณแม่คะ..งื้อออ" เลิฟยูโมโหให้ตัวเองที่ไม่ได้ดั่งใจอะไรสักอย่าง พอคล้อยหลังเขาไป หญิงสาวถึงกับร้องไห้โฮออกมาต่อหน้าแม่ของเขา
"ยูเป็นอะไร! " ความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของกชกรตอนนี้ นางคิดว่าลูกชายของนางได้ล่วงเกินลูกสาวของเพื่อนรักไปแล้วแน่เลย
"งื้ออออ" เลิฟยูโผลเข้าไปกอดหญิงวัยกลางคนที่เธอนับถือเหมือนกับแม่แท้ๆ
"พี่เขารังแกหนูใช่ไหมลูก เดี๋ยวแม่จัดการให้ หนูอย่าร้องไห้นะ แม่จะให้พี่รับผิดชอบ"
หญิงสาวกำลังเศร้าได้แต่ร้องไห้ เธอไม่ได้ฟังที่แม่เขาพูดเลยด้วยซ้ำ
"หนูขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ ทำใจให้สบาย"
เลิฟยูทำตามคำสั่ง เธอรีบเช็ดน้ำตาออกแล้วเดินขึ้นบ้านไป
.เย็นวันเดียวกัน...
"หิวข้าวจังเลยครับคนสวย" เขาชอบพูดล้อเล่นกับแม่แบบนี้บ่อย ๆ ชายหนุ่มพึ่งจะกลับเข้ามาจากไปวิ่งออกกำลังกาย
เพี๊ยะ! ฝ่ามือกชกรฟาดลงที่ต้นแขนลูกชายอย่างแรง
"โอ้ยย..แม่ตีผมทำไม" เขาลูบตรงที่ถูกแม่ตีเมื่อกี้ เพราะมันรู้สึกแสบๆ คันๆ
"เรารังแกน้องใช่ไหม"
"รังแกอะไรแม่"
"แม่เห็นน้องร้องไห้"
"คนดีของแม่นั่นแหละรังแกผม"
"น้องจะรังแกลูกได้ยังไงน้องเป็นผู้หญิงนะ"
"แม่รู้จักเธอน้อยไปซะแล้ว..ทำให้ผมปวดประสาทได้ทุกวัน แล้วนี่เธอไปไหน"
"น้องหลับไปแล้ว"
"ทำให้คนอื่นลำบากแล้วก็ชิ่งหลับเนี่ยนะ"
23 : 40 น.
"อ๊อยย..หิว" หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะความหิว "อะไรหนัก ๆ ผีอำหรือเปล่า..ช่วยด้วย!!" เลิฟยูตะโกนจนสุดเสียง เพราะเธอคิดว่าผีอำตอนนี้ขยับตัวไม่ได้เลย
"ผีบ้านเธอสิอำ! จะร้องทำไมนักหนา กลัวคนเขาไม่ได้ยินหรือไง" มังกรรีบเอามือและขาตัวเองออกจากตัวเธอ เพราะเขาพาดทับเธอเต็มที่เลย
ชายหนุ่มนอนตะแคงหันหลังให้หญิงสาวทันทีที่พูดจบ เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตุ๊บ! อุ๊บ!! "โอ้ย!!" เสียงตุ๊บคือเสียงเท้าเรียวถีบเข้ากลางหลังจนมังกรกระเด็นตกเตียงดัง อุ๊บ!!
"เธอเป็นบ้าอะไรอีก!!" เขาค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากพื้น
"อย่าเข้ามานะ~ เจ้าผีร้าย~" พอจบคำพูด เลิฟยูก็ทิ้งตัวลงที่หมอน แล้วหลับไป...
"อะไรวะ? ละเมอถีบเราเนี่ยนะ??"