ข้อความของบอลที่ส่งมาทำให้ฉันนึกถึงในตอนที่วาคีนเข้าห้องน้ำนานๆ ฉันไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่าแต่ฉันรู้สึกจุกที่กลางอกของฉันจนแทบหายใจไม่ออก วาคีนไม่แม้แต่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู แต่เขาเลือกที่จะคว่ำหน้าจอโทรศัพท์มือถือลงแล้วเปลี่ยนเป็นจับมือของฉันเอาไว้แทน ฉันไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำแล้วหันหน้าไปทางอื่นมองสิ่งต่างๆ ข้างทางที่ตอนนี้ก็กำลังเริ่มทำมาหากินกันแล้ว
"เฟิร์น หรือพรุ่งนี้มึงอยากไปดูกูเตะบอลล่ะ"
อยู่ๆ วาคีนก็พูดขึ้นแต่ฉันรู้ดีว่าน้ำเสียงอย่างนี้เป็นน้ำเสียงที่เขาใช้หยั่งเชิงฉันเพราะปกติแล้วฉันก็จะตอบเขาไปว่าไม่ไปหรอกยุงกัดวาคีนไปเถอะ แต่คราวนี้ฉันลองตอบอีกอย่างดู
"เอาสิ"
วาคีนนิ่งไป เขาตอบกลับมาเพียงแค่คำว่าอืม แล้วก็ขับรถต่อไปโดยที่อีกมือยังจับมือฉันอยู่ ฉันก็รู้นะคะว่าทำตัวแบบนี้มันน่ารำคาญแต่ฉันเป็นผู้หญิงประเภทรักแรงเกลียดแรง หากฉันจะปล่อย ฉันต้องเจ็บจนกว่าฉันจะไม่ไหวแล้ว ดูโรคจิตใช่ไหมละคะ ฉันอยากรู้เหมือนกันค่ะ ว่าความอดทนของฉันกับความเลวของเขาอันไหนจะมากกว่ากัน ฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะอดทนได้มากแค่ไหน ดูโง่มากใช่ไหมล่ะคะ อันที่จริงมันเป็นข้ออ้างของฉันค่ะ ฉันแค่ยังปล่อยเขาไม่ได้และอยากจะให้โอกาสฉันหวังว่าความดีของฉัน และความผูกพันของเราจะชนะใจเขาได้บ้าง
เรามาถึงที่ตลาดน้ำกันแล้ว ที่นี่จะมีวัดอยู่ด้านในตลาดน้ำ เราเดินจูงมือกันไปเรื่อยๆ มีคุยกันบ้างนิดหน่อย คืออารมณ์ฉันมันไม่สดใสแล้วก็เลยดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่แล้วในวันนี้ เราสองคนเดินจูงมือกันมาจนถึงวัด ฉันเดินไปเช่าชุดสังฆทานและเดินไปทำตามพิธีต่างๆ พร้อมๆ กับวาคีน
"ทำบุญแล้วหน้าสดใสขึ้นเยอะเลยเมียใครเนี่ย"
วาคีนก็มักจะเป็นแบบนี้แหละค่ะ เขาชอบที่จะทำกับฉันแบบนี้ เราทำบุญกันเสร็จแล้วและฉันรู้สึกว่าโทรศัพท์ของวาคีนดังอยู่ตลอด ทุกครั้งที่ดังเขาก็จะกดตัดสายจนตอนนี้ไม่มีเสียงแล้วค่ะ มีแค่ความสั่นสะเทือนที่ฉันรู้สึกได้
"ใครโทรมานักหนาเหรอวาคีน ทำไมไม่รับๆ ไป เราจะได้เดินเล่นกันสักที"
"ไม่มีอะไรหรอก ไอ้บอลมันชวนไปเตะบอลวันนี้แต่กูอยากอยู่กับมึง"
"งั้นก็บอกบอลไปดีๆ สิ ไม่เห็นต้องเลี่ยงแบบนี้เลย"
"เออน่า เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงหิวยังครับ เดี๋ยววาคีนคนนี้จะพาไปกินของอร่อย"
เขาพาฉันเดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ ไปเจอกับร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่เจ้านึง พอฉันเห็นร้านนี้ฉันก็ยิ้มออกมาไม่หุบเลยล่ะค่ะ เพราะว่าเจ้านี้อร่อยมากแถมยังเป็นร้านที่เราเคยเดตกันครั้งแรกอีกด้วย
"มึงจำได้ไหมว่าเราเคยมาเดตที่นี่ด้วยกัน"
"จำได้สิ"
"ไปนั่งที่เดิมเราเนอะ" วาคีนจูงมือฉันไปนั่งลงที่โต๊ะที่เราเคยนั่งด้วยกันเมื่อตอนที่เพิ่งเริ่มคบกันเป็นแฟน ฉันอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปคู่กับเขาและอัปลงโซเลียลแถมยังแท็กเขาด้วย ซึ่งว่าคีนก็ไม่ได้ว่าอะไร ฉันอัปลงไปได้ไม่นานมากนักโทรศัพท์มือถือของวาคีนก็สั่นอีกครั้งเขาวางมันเอาไว้อยู่บนโต๊ะค่ะฉันเอื้อมมือไปหมายจะหยิบมันขึ้นมาดูเพราะความรำคาญแต่วาคีนอยู่ๆ ก็รีบมาคว้าเอามันไปจากมือของฉันแล้วกดตัดสาย
"เดี๋ยวกูจัดการเอง"
"จัดการเอง คืออะไร"
"ไอ้บอลไง โทรมาอยู่ได้"
"จะจัดการอะไร"
"เออน่า มึงกินไปก่อนนะเดี๋ยวกูมา"
วาคีนลุกขึ้นแล้วเดินออกไปหน้าร้าน ฉันมองตามแผ่นหลังของเขาไป เขายืนอยู่หน้าร้านและรับสายโทรศัพท์ หน้าตาของเขาเหมือนกำลังทะเลาะอะไรกับคนในโทรศัพท์ด้วยเรื่องอะไรฉันก็ไม่รู้ วาคีนเหลือบตามามองฉันเป็นระยะก่อนจะตัดสายนั้นอย่างอาการหัวเสียแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม
"เป็นอะไรเหรอ"
"ไอ้บอลมันจะให้ไปหา เห็นว่าวันนี้มีซ้อมกะทันหันน่ะ"
"แต่เรากินข้าวกันอยู่นะ วาคีนจะไปเหรอ"
"เออ กูไม่ไปหรอก อยู่กับมึงเนี่ยแหละ"
ติ๊ง~
เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้น ฉันก็หยิบมันขึ้นมาดู เห็นเป็นใครไม่รู้ขอเพิ่มเป็นเพื่อนฉันมาทางแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ฉันไม่คุ้นหน้าตาแต่เหมือนว่าจะเป็นเด็กมหา'ลัยเราฉันไม่ได้กดรับเพราะไม่รู้จัก แต่แล้วก็มีข้อความจากคนนั้นดังขึ้นมา
พัดชา : สวัสดีค่ะพี่ใบเฟิร์น
ฉันกดอ่านแล้วไม่ได้ตอบ
พัดชา : ฉันชื่อพัดชานะคะ
พัดชางั้นเหรอ ชื่อของเธอคล้ายกับคนที่บอลพูดถึง ฉันเหลือบมองวาคีนที่กำลังนั่งดูดน้ำอยู่
ใบเฟิร์น : ค่ะ
ฉันตัดสินใจกดตอบข้อความของพัดชากลับไป ทางนั้นเหมือนกำลังจะพิมพ์อะไรบางอย่างอยู่ ฉันก็รออย่างใจจดใจจ่อตอนนี้หัวใจของฉันมันเต้นแรงมากเลยละคะ ไม่รู้ว่าจะใช่อย่างที่ฉันคิดหรือเปล่า
พัดชา : พัดเป็นแฟนอีกคนของพี่วาคีนนะคะ แค่อยากแนะนำตัวเฉยๆ จะได้รู้จักกันไว้
เคร้งงง!
ทันทีที่ฉันได้อ่านข้อความโทรศัพท์มือถือของฉันก็ร่วงลงโต๊ะจนเกิดเสียงดัง วาคีนเงยหน้ามองฉันจากที่ดูคลิปฟุตบอลอยู่ในโทรศัพท์
"มึงเป็นอะไรเฟิร์น"
เขาถามฉันมา ตอนนี้เหมือนหัวใจของฉันกำลังร้องไห้แต่ฉันกลับไม่มีน้ำตาสักหยดฉันมองหน้าเขานิ่งๆ ฉันหายใจแรงขึ้นและถามเขาไปตามตรง
"พัดชาเป็นใคร"
"อะไร"
"เฟิร์นถามว่าพัดชาเป็นใคร" วาคีนขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะพูดออกมาน้ำเสียงปกติ
"ใครมาบอกอะไรมึงอีกละ มึงแม่งหูเบาฉิบหายไม่เชื่อผัวตัวเองเลยดิ"
ฉันอยากจะหัวเราะออกมาให้กับเหตุการณ์แบบนี้ ฉันยื่นหน้าจอมือถือให้วาคีนดู วาคีนก็รับไปอ่านอยู่พักหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมองฉัน
"กูไม่รู้จักมัน มันอาจจะชอบกูก็ได้"
"เหรอ"
"แล้วที่บอลส่งข้อความมาถามละ" ฉันเริ่มเสียงดังขึ้นเพราะทนไม่ไหว คนรอบตัวก็เริ่มหันมามองทางฉันกับวาคีนเป็นตาเดียว วาคีนมองไปที่คนรอบตัวของเราแล้วหันมาบอกให้ฉันพูดเบาลงหน่อย
"ก็กูไม่รู้จักจริงๆ"
"เฟิร์นโง่มากเหรอวาคีน ไหนบอกรักเฟิร์นไง รักเฟิร์นแล้วทำไมถึงทำแบบนี้วาคีนมีคนอื่นทำไม"
"ก็กูบอกว่าไม่รู้จักมันไง มึงไม่เชื่อใจกูเลยเหรอ"
ครั้งนี้เป็นวาคีนที่เสียงดัง และฉันก็เลือกที่จะเดินออกมาจากตรงนั้นเพราะฉันอาย ฉันเดินออกมาด้วยอารมณ์หลายความรู้สึก ฉันเสียใจ ฉันเจ็บใจ ฉันแค้นใจ ฉันผิดตรงไหน ฉันไม่ดีตรงไหน หรือถ้าหมดรักกันแล้วก็แค่พูดออกมามันยากหรือไง
ฉันไม่รู้ว่าวาคีนตามฉันมาไหม และตอนนี้ฉันก็เริ่มจะมองไม่เห็นทาง ฉันเดินไปเรื่อยๆ น้ำตาก็ไหลอาบเต็มสองแก้มฉัน ฉันเจ็บ เจ็บอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะคะ
หมับ!
"อ่ะ!"