ห้างสรรพสินค้า [18.10 น.]
วาคีนพาฉันมาดูหนังที่ห้างหลังเลิกเรียน เราเดินจับมือกันมาตามปกติและเหมือนกับว่าฉันเห็นใครบางคน คนที่เข้ามาทักฉันกับวาคีนเมื่อกลางวัน เธอยืนอยู่หน้าโรงหนังคนเดียว ในชุดนักศึกษารัดรูปถือขวดน้ำแล้วเอี้ยวตัวมามองวาคีนด้วยรอยยิ้ม และสายตาแปลกๆ
ฉันไม่รู้นะคะว่าวาคีนเห็นเธอคนนั้นไหมแต่ฉันเห็นและจำเธอได้เป็นอย่างดี วาคีนเดินไปซื้อตั๋วหนัง และให้ฉันนั่งรอ ส่วนตัวเขาขอไปเข้าห้องน้ำเห็นบอกว่าปวดท้องหนัก ฉันมองตามวาคีนไปจนสุดสายตาแต่ก็ไม่ได้อะไรนะคะ ฉันนั่งรอวาคีนอยู่พักใหญ่ๆ เขาก็ยังไม่ออกมาสักทีจนเวลาหนังใกล้จะฉายแล้ว
แล้วอยู่ๆ ฉันก็นึกถึงผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาฉันหันไปมองหาเธอที่ทางเดิม ทางที่ฉันเห็นเธอเมื่อครู่แต่แล้วก็ไม่มี เธอไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว หัวใจของฉันมันเต้นแรงแปลกๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันมันสั่นไปหมด ฉันคิดว่าฉันควรจะเดินไปดูวาคีนสักหน่อย ฉันหยัดกายลุกขึ้นแต่แล้วก็เห็นวาคีนเดินออกมาพอดี ร่างกายของเขามีเหงื่อเล็กน้อยเดินมาจูงมือฉัน
"ปะ หนังจะฉายแล้ว"
วาคีนจูงมือฉันให้เดินตามเขาไป ฉันหันหน้ากลับไปมองด้านหลังก็ไม่มีอะไรนะคะ แต่ในตอนที่เรากำลังให้เจ้าหน้าที่เช็กตั๋วหนังอยู่นั้นฉันก็เห็นผู้หญิงคนนั้นเดินออกมาจากทางห้องน้ำ สภาพเสื้อผ้าของเธอไม่ได้เรียบร้อยเหมือนตอนแรกเธอยังมองฉันแถมยกยิ้มมุมปากให้ฉันก่อนจะเดินหายไปอีกทาง
"วะ วาคีน"
"ว่าไง" ขณะที่เรากำลังเดินเข้าไปในโรงหนังวาคีนใช้แขนแข็งแรงของเขาคล้องลำคอของฉันเอาไว้จนเราเข้าไปนั่งในที่นั่งวีไอพีที่วาคีนจองเอาไว้ และหนังก็เริ่มฉายทำให้ฉันไม่สามารถพูดในสิ่งที่สงสัยออกมาได้ มันจะไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่ไหม
เราดูหนังกันไปเรื่อยๆ จนหนังจบเรื่อง และก็เดินออกมาในช่วงเวลาเกือบประมาณสี่ทุ่ม วาคีนก็ดูปกติดีทุกอย่างนะคะไม่ได้มีอะไรที่มันแปลกไปมีเพียงแค่ฉันที่รู้สึกแปลกๆ ไปเองในตอนที่กำลังกลับฉันตัดสินใจถามวาคีนขึ้น
"วะ วาคีน"
"ว่า"
"จำผู้หญิงที่มาทักเราเมื่อกลางวันได้ไหม" เหมือนกับว่าวาคีนจะชะงักไปนิดหน่อยนะคะ
"จำได้"
"เมื่อกี้ก่อนเข้าโรงเหมือนเฟิร์นเห็นเธอเลย วาคีนเห็นไหม"
"ไม่นะ ไม่เห็น" เขาพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าฉันเลยด้วยซ้ำ และภายในรถก็เงียบไปจนกระทั่งเรามาถึงคอนโด วาคีนเข้าไปอาบน้ำ และก็เหมือนเดิมเอาโทรศัพท์เข้าไปด้วยเข้าเปิดคลิปไฮไลท์ฟุตบอลดังลั่นออกมาข้างนอกเหมือนปกติ แต่ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ปกติเลยค่ะ จิตใจของฉันมันไม่ปกติเอาเสียเลย ฉันตัดสินใจทักเข้าในไลน์กลุ่มของเพื่อนๆ ฉัน
Line สามแสบ (3)
ใบเฟิร์น : นอนกันยังอะ
โรสลิน : ยังดูซีรีส์อยู่
ลลิน : ยังดูซีรีส์เหมือนกัน
ฉันเล่าเหตุการณ์ที่ฉันรู้สึกไม่ดีวันนี้ให้เพื่อนๆ ของฉันฟัง และแน่นอนว่าทั้งสองคนก็พิมพ์กลับมาพร้อมๆ กันเลยว่า
โรสลิน : ฉันไม่อยากพูดคำนี้เลยวะ
ลลิน : ฉันว่าสองนี้อาจจะไปเจอกันก็ได้
ลลิน : เลิกเหอะเฟิร์น อยู่แล้วก็เจ็บจะอยู่ทำไม
ฉันอ่านแล้วไม่ได้ตอบ ก็ฉันยังทำใจไม่ได้ พอฉันคิดว่าความน่าจะเป็นมันเป็นไปในทางนั้นมือไม้ของฉันก็สั่นไปหมดฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังกลัวอะไรระหว่างกลัวการอยู่คนเดียว หรือกลัวความจริง
ติ๊ง~
เสียงแจ้งเตือนข้อความโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นอีกครั้ง ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะหยิบมันขึ้นมาดูเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ต้องหยิบขึ้นมาเพราะตอนนี้ที่พึ่งทางใจเดียวของฉันที่มีคือเพื่อนของฉัน
พี่เก้า : น้องเฟิร์นครับ พี่เจอร้านน้ำเต้าหู้อร่อยมากเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ซื้อไปฝากนะครับ
ใบเฟิร์น : ดีเลยค่ะ งั้นเฟิร์นจะหิ้วท้องรอนะคะ
ฉันตอบพี่เก้าไปอย่างนั้น ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงด้วยอาการใจสั่น ฉันไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นเลย ไม่อยากเลยสักนิด วาคีนเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว ฉันเดินสวนเข้าไปเพื่ออาบน้ำเรายังไม่ได้คุยกันเลยสักคำนะคะ คือฉันไม่มีอะไรจะคุยน่ะค่ะ ฉันเข้าไปอาบน้ำอยู่พักใหญ่ๆ พยายามทำใจให้สบายแล้วเดินออกมาในตอนที่วาคีนกำลังเปิดตู้เย็นดื่มน้ำอยู่
"เป็นอะไรรึเปล่า" ถ้าฉันถามเขา ฉันจะได้ความจริงหรือคำโกหกกันนะ อยากจะถามไปให้รู้เรื่องว่าเขาไม่ได้รู้จักกับคนนั้นจริงๆ หรือ
"ไม่มีอะไร ไปนอนกัน" ฉันเลือกที่จะยังไม่พูด ไม่รู้สิตอนนี้ฉันไม่สามารถมองหน้าวาคีนหรือฟังเสียงของเขาได้เลย มันเหมือนกับว่าฉันจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ฉันปิดไฟทั่วห้องเดินเข้าไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่เราเคยนอนกอดกันอย่างอบอุ่น ไม่ใช่ว่าวันนี้เขาไม่กอดฉันนะคะ วาคีนกอดฉันเหมือนเดิม ฉันนอนหนุนแขนของเขาเหมือนเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือน้ำตาของฉันกำลังไหลในขณะที่เขากำลังหลับไม่รู้เรื่อง
"ฮึก..." เจ็บเหลือเกินค่ะ ขนาดจะร้องไห้ยังไม่สามารถปล่อยอารมณ์ออกมาได้เต็มที่ จุกที่อกเกินทนจนหายใจแทบไม่ออก แต่ต้องปล่อยน้ำตาให้ค่อยๆ ไหลลงมาอย่างเงียบๆ
"ฮึก..." เหนื่อยเหลือเกิน ทำไมฉันต้องมาเหนื่อยกับอะไรแบบนี้ด้วยนะคะ หรือฉันควรจะปล่อยวาคีนไปได้แล้วจริงๆ ฉันพลิกตัวหันไปอีกทาง มองหน้าของวาคีนฝ่าความมืดที่มีแสงสลัวๆ จากแสงจันทร์ส่องเข้ามา ใบหน้าของเขายังเหมือนเดิมคิ้วของเขายังเข้มเหมือนเดิม จมูกของเขายังโด่งเหมือนเดิม ฉันยกมือขึ้นลูบใบหน้าของเขาแผ่วเบาพลางน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงบทสนทนาของเราเมื่อก่อน
'คิ้วของวาคีนเป็นของเฟิร์น'
'ตาของวาคีนเป็นของเฟิร์น'
'แก้มของวาคีนเป็นของเฟิร์น'
'ปากสวยๆ ของวาคีนเป็นของเฟิร์น'
ในตอนนั้นฉันก็กำลังลูบใบหน้าของเขาแบบนี้ วาคีนเองกุมมือของฉันไปวางไว้ตรงที่หน้าอกด้านซ้ายและเป็นคนพูดออกมาเองว่า
'หัวใจของกูก็เป็นของมึงนะ'
'ร่างกายของกูก็เป็นของมึง'
"ฮึก..." คิดถึงเหลือเกิน ฉันคิดถึงวาคีนคนนั้นเหลือเกิน ฮื้อออ~ ฉันเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรงเพราะว่ากลัวเสียงของฉันมันจะดังออกมาทำให้วาคีนได้ยิน มือของฉันกำลังสัมผัสอยู่ที่หน้าอกด้านซ้ายของเขาตรงตำแหน่งหัวใจของวาคีนพลางคิดในใจ
ในนี้มันยังเป็นของเฟิร์นอยู่ไหมวาคีน
หัวใจของวาคีนมันยังเป็นของใบเฟิร์นอยู่ไหม
"ฮึก... ฟะ เฟิร์น ระ รัก วาคีนมากนะ ฮึก..."