ผู้ภักดี

1269 คำ
           ร่างสูงโปร่ง ผิวขาว แม้จะไม่สูงเท่าราชย์ แต่ก็จัดว่าสูงสำหรับชายไทย ใบหน้าสะอาดสะอ้านและมักจะมีรอยยิ้มประดับอยู่ มันทำให้ผู้พบเห็นประทับใจและวางใจได้เสมอ โดยเฉพาะเด็กสาวอ่อนต่อโลกอย่างเธอ           “ คุณหนูครับ ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียกคนที่นั่งหน้าง้ำอยู่   บนเตียงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หากเธอตอบกลับด้วยเสียงสะบัดเหวี่ยงวีนสุดขีด           “ ฉันจะกลับไปอยู่ลอนดอน ช่วยบุ๊คไฟล้ท์ที่เร็วที่สุดให้ที ของก็ช่วยบอกคนใช้ไม่ต้องเอาออกจากกระเป๋านะ ” เขาเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะคุกเข่าบนพรมที่หน้าเตียง มือใหญ่เอื้อมไป  กุมมือเธอเอาไว้           “ คุณหนูใจเย็น ๆ สิครับ คิดดี ๆ นะ ถ้าคุณหนูกลับไปตอนนี้ เสี่ยที่กำลังหลงสองแม่ลูกนั่นหัวปักหัวปำ อาจจะทำอะไรไปอย่างไม่มีสติยั้งคิด มันจะสูบกินเงินทองไปได้นะครับ จริงอยู่   ที่เสี่ยมีเงินทองสมบัติพัสถานมากมาย แต่หากไม่มีคนคานไว้ อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ ” พราวพธูก้มลงมองใบหน้าสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลาของคนตรงหน้า           “ แล้วทำไมนายไม่ช่วยฉันบ้างล่ะภาค ทำไมปล่อยให้ฉันต้องสู้ลำพัง คุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว ”           “ ทำไมคุณหนูพูดแบบนั้นล่ะครับ ทำไมผมจะไม่ช่วยถ้าหากผมไม่รักไม่ห่วงคุณหนู ผมจะบอกเรื่องสองแม่ลูกนั้นทำไมผมอยู่ตรงนี่ อยู่ข้าง ๆ คุณหนูเสมอ แต่คุณหนูลืมไปแล้วเหรอครับ ผมก็แค่ลูกของลูกจ้างคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าพ่อผมจะเป็นมือขวาของเสี่ยมานาน แต่ตอนนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ผมเองก็ไม่เก่งเรื่องบู๊ ผมชอบการใช้สติปัญญาแก้ปัญหามากกว่า เพราะงี้ผมถึงเลือกเรียนนิติศาสตร์ เพื่ออยากเอามาช่วยเสี่ยในเรื่องต่าง ๆ แต่ก็อย่างว่า เสี่ยท่านสายบู๊ เลยเลือกที่จะชอบคนที่ใช้กำลังเก่งเสียมากกว่า ”           “ แบบไอ้สวะนั่นใช่ไหมที่ป๊าชอบ หน้าตาอย่างกับโจร ฉันไม่เข้าใจว่าป๊าไปไว้ใจมันได้ยังไง ” พราวพธูว่าพลางนึกถึงหน้าตาคมเข้มที่มีไรเครารกครึ้มล้อมกรอบใบหน้า นึกถึงสายตาหยิ่งทะนงจองหองไม่ลดราวาศอกแล้วยิ่งโมโห           “ ก็ผมบอกคุณหนูแล้วไง ว่าน้าเรียมแม่ของมันน่ะ ร้ายไม่ใช่ย่อย เห็นหน้าซื่อ ๆ อย่างนั้นก็เถอะ คุณหนูก็เห็นนี่ว่า ตลอดมาถึงแม้ว่าเสี่ยจะเจ้าชู้ไก่แจ้แค่ไหนก็ไม่เคยเอาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้าน แต่นี่พาทั้งแม่ทั้งลูกเข้ามา แถมไอ้ราชย์ก็ประกบติดเสี่ยแจ ผมไม่รู้ว่ากรอกหูโน้มน้าวอะไรกันไปถึงไหน ” พราวพธูฟาดฝ่ามือลงบนที่นอนข้าง ๆ ด้วยความโมโห           “ ไม่มีวัน ฉันจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาชุบมือเปิบสมบัติที่ป๊าสร้าง จะไม่ยอมให้เห็บหมัดที่ไหนมาดูดไชกินเลือด ไปหน้าด้าน ๆ เด็ดขาด ไม่มีวัน ! ” ภาคยิ้มแล้วบีบมือเธอเบา ๆ           “ ผมจะอยู่ตรงนี้ อยู่เคียงข้างคุณหนูเสมอนะครับ ”           พราวพธูก้มลงมองชายตรงหน้า ภรัณย์ผู้เป็นพ่อของภาคแยกทางกับภรรยาหลายปี เหตุเพราะภรัณย์มาทำงานเป็นมือขวาของป๊า แล้วไม่ค่อยได้กลับบ้านกลับช่อง ส่งไปก็แต่เงิน ไม่เคยไปดูแล ไม่มีเวลาให้ ภรรยาของเขาทนไม่ไหวจึงขอหย่า และเลี้ยงดูบุตรชายคนเดียวมาตลอด แต่เคราะห์ร้ายวันหนึ่งเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ภรัณย์จึงต้องรับบุตรชายคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ ตอนนั้นภาคอายุเจ็ดขวบ มากกว่าพราวพธูสองปี เด็กชายหัวดี เรียนเก่ง มีไหวพริบปฏิภาณการเอาตัวรอดเป็นเลิศ คำพูดคำจาเขาเกินผู้ใหญ่ไปมาก และสามารถเป็นเพื่อนที่ดีของคุณหนูพราวด์เสมอ เขาทำทุกอย่าง ยอมทุกอย่าง แม้กระทั่งการบ้านหรืองานที่ครูสั่ง           พ่อของภาคโชคร้าย โดนยิงตายที่มาเก๊าเพราะคุ้มกันเสี่ยเมื่อห้าปีที่แล้ว เสี่ยพธินให้สัจจะกับร่างไร้วิญญาณของมือขวาคนสนิทว่าจะดูแลเขาอย่างเช่นลูกชายคนหนึ่ง และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ภาคนั้นได้เรียนที่ที่ดีที่สุด เสื้อผ้า รถรา เสี่ยจัดให้ทุกอย่าง ไม่ขาดตกบกพร่อง เขาเรียนจบปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ กำลังศึกษาต่อปริญญาโท เสี่ยอยากจะส่งเขาไปเรียนเมืองนอกแต่เขาไม่ยอมไป เขาว่าที่เมืองไทยก็มาตรฐานการศึกษาดีและหากเขาไปเมืองนอกเสียอีกคนก็เท่ากับว่าทั้งลูกและลูกชายบุญธรรมอย่างเขาก็ทิ้งเสี่ยไปหมด เขาเป็นห่วง  จึงศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่เมืองไทย         พราวพธูบีบมือตอบมือใหญ่นั้น แม้เวลาจะผ่านผันไปนานเพียงใด ภาคก็ยังเป็นภาคที่ห่วงหาดูแลคุณหนูพราวด์อยู่เสมอ รวมไปถึงการแจ้งข่าวว่าหลังคุณแม่เสียป๊าได้พาผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะเมียใหม่ เท่านั้นยังไม่พอ ลูกชายของผู้หญิงคนนั้นยังตีสนิทป๊าจนกระทั่งได้เป็นมือขวา ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แค่ระยะเวลาเพียงสี่ห้าเดือนเหตุใดป๊าจึงกล้าวางใจมันขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันเป็นสิบแปดมงกุฎที่หวังมาชุบมือเปิบในสมบัติที่ป๊า สร้างมา ตอแหลเก่งขนาดตบตาป๊าของเธอได้อยู่หมัด         ไอ้ราชย์กับนางเรียม แม่ลูกคู่นั้น !         “ ขอบคุณมากนะภาค ที่คอยเป็นห่วงฉันและพ่อเสมอ ”           “ ขอบคุณอะไรกันล่ะครับ เสี่ยและคุณหนูมีบุญคุณกับพ่อและผมท่วมหัว เราก็เหมือนกับครอบครัวเดียวกัน ผมเป็นห่วงเสี่ย เป็นห่วงคุณหนู เอาเป็นว่าวันนี้คุณหนูทำใจให้เย็นก่อน พึ่งกลับมาวันแรกอย่าทำให้เสี่ยต้องเสียใจ เดี๋ยวสองแม่ลูกนั้น จะยิ่งใส่ไฟเอาได้ ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วเดี๋ยวเตรียมตัวไปกินข้าวข้างนอกกันนะครับ ” เขาค่อยปะเหลาะราวกับเธอเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ๆ แต่มันก็สามารถทำให้เธอใจเย็นลงได้           “ ก็ได้ ฉันจะพยายามอดทนละกัน ”           “ แล้วก็มีอย่างหนึ่งนะครับ เจ้าปิ่น เด็กที่เคยรับใช้คุณหนูมันลาออกไปแต่งงานแล้ว ตอนนี้มีเด็กใหม่ที่มาจากแถวอีสานอยู่กับป้ากับลุง พ่อแม่ตายหมด แล้วป้ากับลุงติดหนี้สาขานั้นของเสี่ยเสียอานเลยเอาตัวมาขัดดอกไว้ ชื่อแก้ว ตอนนี้นั่งรออยู่ข้างนอก คุณหนูอยากจะให้เข้ามาทำความรู้จักกันสักหน่อยไหมครับ ” พราวพธูส่ายศีรษะ           “ ไม่ล่ะ ตอนนี้ฉันไม่อยากคุยอะไรกับใครทั้งนั้น ก็แค่คนใช้คนหนึ่ง ให้มันไปเอาของออกจากกระเป๋าแล้วจัดให้เรียบร้อยละกัน ฉันไปอาบน้ำก่อน ”           “ ครับ เดี๋ยวผมรอข้างล่างนะ ” เธอไม่ตอบหากพยักหน้าแทน ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป           นี่คืออีกหนึ่งความฉาบฉวยของพราวพธู ที่เธอตัดสินคุณค่าของคนจากเงินเสมอเช่นเดียวกับแพรวดาวผู้เป็นแม่  ต่างจากเสี่ยพธินผู้เป็นพ่อลิบลับ ซึ่งเขาจะให้ความสำคัญกับทุกฟันเฟืองไม่ว่าจะเล็กใหญ่เสมอ  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม