ตอนที่3[แสงเหนือ]

1533 คำ
หนี้[รัก]วิศวะเถื่อน ตอนที่3 [แสงเหนือ] สนามบาส หลังตึกวิศวกรรมศาสตร์ ร่างหนาของแสงเหนือที่มีใบหน้าหล่อเหลาดั่งเทพเจ้าปั้นแต่ง ด้วยมีบิดาที่หน้าตาดีและมีมารดาที่มีเชื้อสายจีน จึงทำให้บุตรชายเพียงคนเดียว โดดเด่นไปทั้งหน้าตาและเรือนร่างที่ขาวผ่อง จนกระทั่งติดอันดับหนุ่มฮอตของสถาบัน ตั้งแต่ปีหนึ่งจนกระทั่งปีสุดท้าย จึงไม่แปลกที่สาว ๆ อีกมากมายต่างหมายปอง วนเวียนยอมพลีกายถวายใจให้ เพื่อจะผูกมัดทั้งกายใจของผู้ชายหน้านิ่งคนนี้มาเป็นของตน แสงเหนือก้าวมาหย่อนก้นลงบนม้าหินอ่อนอย่างผ่อนคลาย มือเรียวหยิบบุหรี่ขึ้นมาต่อไฟดูดพ่นควันสีเทาจาง ๆ ให้ลอยฟุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทว่าภายในใจกลับมีภาพใครบางคนได้ลอยวนเวียนไปมาในความรู้สึก ที่บังเอิญได้พบกันเมื่อวันวาน “อ้าว! มึงมานั่งอยู่นี่เอง กูเดินตามหาจนทั่ว” วายุเข้ามาตบบ่าเพื่อนชายเบา ๆ “ตามหาทำไมวะ” “อะ! ไอ้นี่ แดกข้าวเสร็จก็จ้ำอ้าวไม่รอกู มันเป็นเชี่ย! ไร” “กูไม่ได้เป็นไร” “มึงไม่ต้องมาหลอกกูกูเป็นเพื่อนมึง กูมองออกว่ามึงมีเรื่องในใจ” “กูไม่มีอะไรจริง ๆ” ทั้งคู่กำลังสนทนากันอยู่ จู่ ๆ เสียงหวานของใครบางคน ได้ดังขึ้นจากทางด้านหลัง “พี่เหนือหลบมาอยู่นี่เอง พราวตามหาจนทั่วเลยค่ะ” เสียงหวานของสาวสวยปีสอง ที่ตามตื้อเขามาตลอดสองปี ได้ก้าวเข้ามากอดแขนเขาเอาไว้ “พราวมีธุระอะไร” แสงเหนือเอ่ยถามเสียงเรียบ “พราวอย่างให้พี่เหนือช่วยติวหนังสือให้นะคะ นะคะพี่เหนือ เย็นนี้ไปช่วยติวให้พราวที่คอนโดพราวนะคะ” เสียงหวานออดอ้อน “ไม่ว่างเย็นนี้จะกลับบ้าน” “งั้นพราวไปเที่ยวบ้านพี่เหนือด้วยนะคะ” เธออ้อนต่อ “ขอตัว…ลืมไปว่าลืมส่งรายงาน” แสงเหนือแกะมือเรียวออกจากแขนพร้อมขยับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 182ซ.ม ก้าวเท้ายาว ๆ จากไป “อ๊าย! พี่เหนือ” เสียงพราวฟ้ากรีดร้องออกมาอย่างไม่พอใจอีกฝ่าย เธอเป็นถึงลูกสาวของท่านประธานบริษัทส่งออกรถยนต์เชียวนะ ทำไมแสงเหนือถึงได้ไร้หัวใจกับเธอขนาดนี้ “พี่ยุ…ฝนตามหาพี่เหมือนกันค่ะ” วายุกำลังจะก้าวตามแสงเหนือไปอีกคน ทว่าช้ากว่าแขนเรียวของน้ำฝน ที่ปรี่เข้ามากอดแขนเขาเอาไว้แน่นเช่นกัน “ปล่อยครับ! เฮ้ย! ไอ้เหนือรอกูก่อนดิวะ กูลืมส่งรายงานเหมือนกัน” วายุบิดแขนออกจากมือน้ำฝนจนหลุด พร้อมออกวิ่งตามร่างสูงของแสงเหนือไปติด ๆ หน้าตึก กรี๊ด! “พี่เหนือ พี่เหนือของฉันหล่อมากอะ!” กลุ่มนิสิตสาวของปีหนึ่งที่ชื่อเชอรี่ หันมาจ้องมองรุ่นพี่หนุ่มปีสี่ที่ตนหมายปอง ร่างสูงก้าวผ่านด้วยทวงท่าสง่างามดั่งนายแบบก็ไม่เกินจริง สายตาคนที่จ้องมองอีกฝ่ายคล้ายอยากจะเข้าไปตะครุบร่างนั้นมากลืนกินลงท้องไปทั้งตัวเสียให้ได้ “อะ! ฉันอยากได้” เสียงหวานในกลุ่มอีกคนเอ่ยขึ้น “ไม่ได้! พี่เหนือฉันจองก่อนแกย่ะ! แก…และก็แก…อย่าแม้แต่จะคิด” เสียงแหลมของเชอรี่เอ่ยต่อ “อ๊าย! พี่วายุ” ในกลุ่มเดิมกำลังมองตามร่างสูงของแสงเหนือไปด้วยสายตาละห้อย ทว่าอีกคนหันมาเจอเข้ากับร่างสูงของวายุ ที่ความหล่อโดดเด่นพอ ๆ กัน ทำให้หญิงสาวอดที่จะกรี๊ดออกมาไม่ได้จริง ๆ “อะ! พี่ปีสี่มีแต่หล่อ ๆ น่าลากทั้งนั้นอะแก” หนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้น “พี่ยุฉันจองก่อน” เสียงมัดหมี่เอ่ยขึ้น “อ๊าย! แล้วฉันล่ะ” “แกก็หาใหม่สิย่ะ! แต่พวกแกอย่ามายุ่งกับคนของฉัน” เสียงเชอรี่กับมัดหมี่เอ่ยขึ้นพร้อมกัน โรงเรียนรัฐบาล แพรไหมเหลือบมองด้านขวามือ ที่มีรั้วสูงตระหง่านขวางกั้นระหว่างโรงเรียนมัธยมปลายของรัฐบาล กับอีกฝั่งที่เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังของเอกชน ที่มีค่าเทอมแพงลิบลิ่ว จนคนระดับรากหญ้าอย่างเธอ ไม่กล้าที่จะคิดย่างกรายเข้าไปเฉียดได้เลย “ไหมมาอยู่นี่เอง ทำรายงานเสร็จรึไง” นวินดาเพื่อนสาวเอ่ยขึ้น “เสร็จแล้ว ไหมไปเข้าห้องน้ำมา ตอนแรกว่าจะชวนดาเหมือนกัน แต่เห็นยังก้มหน้าอยู่จึงไม่กล้าชวน” “ดาทำเสร็จพอดี แล้วนี่มายืนมองรั้วทำไม กะจะมองให้ทะลุเข้าไปถึงด้านในรึไง” นวินดาเอ่ยแซวเพื่อนสาว เพราะพวกเธอชอบมายืนมองรั้วสูงนี้อยู่เป็นประจำ “ด้านในคงดูหรูดูแพงมากว่าไหมดา อย่างเรา ๆ คงได้แต่จ้องรั้วอย่างเดียวสินะ” เสียงเล็กพึมพำออกมา “ช่างเถอะอย่างเราก็ได้แต่มองรั้วแค่นั้นแหละ อย่าคิดมาก มหาวิทยาลัยรัฐบาลเยอะแยะไป คิดรึยังว่าจบมอหกไหมจะไปสอบเข้าที่ไหนดี” นวินดาหันมาถามเพื่อนสนิท “ไหมเหรอ! ไม่รู้จะได้เรียนต่อรึเปล่า” คนเอ่ยได้แต่ทำนัยตาเศร้า “ทำไมล่ะไหม จะไม่เรียนต่อรึไง” “ไม่ใช่ว่าไหมไม่อยากเรียนหรอกนะ แต่ทางบ้านกำลังแย่ ดาก็รู้ว่าพ่อเราขายของไม่ค่อยดี” “อืม! อย่าเพิ่งคิดมาก เหลืออีกตั้งสองเดือน ถึงตอนนั้นเราอาจมีทางออกดี ๆ ให้ชีวิตก็ได้” 'อย่างไหมคงไม่มีวันนั้นหรอกดา เพราะบ้านที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เล็กจนโต ยังไม่สามารถที่จะเก็บมันไว้ได้เลย’ แพรไหมได้แต่ร้องประท้วงเพื่อนสาวอยู่ในใจ หลังเลิกเรียนแพรไหมรีบเดินออกมาที่ป้ายรถเมล์อย่างเคย ขณะที่เธอยืนรอรถประจำทางอยู่นั้น รถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนหนุ่มอย่างอาทิตย์ ได้เข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าเธอ “ไหมไปกับทิตย์นะ” “ขอบใจนะทิตย์ ไหมไปรถเมล์ดีกว่า รถมาพอดีเลยทิตย์ไปเถอะนะ” แพรไหมรีบก้าวไปขึ้นรถเมล์ประจำทาง ทำให้อาทิตย์ออกรถตาม แพรไหมเห็นเพื่อนหนุ่มบิดมอเตอร์ไซค์แซงรถเมล์ประจำทางไปล่วงหน้า เธอจึงลุกยืนกดกริ่ง เพื่อให้รถจอดในป้ายถัดไป ร่างระหงหยุดยืนอยู่ที่คิวมอเตอร์ไซค์รับจ้าง “จะให้ไปส่งที่ไหนรึเปล่านังหนู” ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น “ขอโทษนะคะ ลุงรู้จักบ้านของนายหัวเมฆาไหมคะ” “บ้านนายหัวเมฆใช่ไหม ใคร ๆ เขาก็รู้จักทั้งนั้นแหละหนู แล้วนี่แม่หนูจะอยากรู้ไปทำไม” “คือหนูอยากไปบ้านนายหัวเมฆ ลุงช่วยไปส่งหนูหน่อยได้ไหมคะ” “ให้ไปส่งบ้านนายหัวเมฆ หนูจะไปที่นั่นทำไม” ชายวัยกลางคนได้แต่ขบคิด เธอเด็กเกินไปถ้าจะให้เขาไปส่งที่นั่น เธอเด็กเกินไปจริง ๆ “หนูมีธุระอยากคุยกลับนายหัวค่ะ ลุงช่วยไปส่งหนูหน่อยนะคะ” แพรไหมเอ่ยขึ้นด้วยสายตาวิงวอน “หนูรู้ไหมหนูยังเด็กมาก ลุงว่าหนูเปลี่ยนใจเถอะนะ” ชายตรงหน้าได้แต่เตือนสติเด็กน้อยให้เปลี่ยนความคิด เนื่องจากแกได้ยินคนร่ำลือไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าผู้หญิงสวย ๆ ส่วนมากชอบไปเสนอตัวให้นายหัวเมฆาอยู่บ่อย ๆ เพื่อล้างหนี้ “หนูรู้ว่าหนูยังเด็ก แต่หนูมีความจำเป็นที่จะไปที่นั่นจริง ๆ ลุงช่วยไปส่งหนูเถอะนะคะ หนูขอร้อง” ร่างระหงอยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย ยืนสะพายถุงผ้าราคาถูก ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์หลังหรู แล้วตัดสินใจเอื้อมมือไปกดออดในทันที เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ทำให้ร่างหนาของแสงเหนือที่ก้าวลงจากรถ ขาที่กำลังจะก้าวเข้าไปในบ้านต้องหันขวับกลับมามอง “มีเด็กผู้หญิงมากดออดเล่นครับคุณเหนือ” คนสวนวิ่งมาแจ้งเจ้านายหนุ่ม “ใคร! เด็กที่ไหน ไล่ไปให้พ้นผมหนวกหู” แสงเหนือเอ่ยเสียงดุ ก่อนจะก้าวเข้าไปในบ้าน แต่ยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงนั่ง เสียงคนสวนคนเดิมที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาอีกครั้ง “คุณเหนือครับ ผมไล่แล้วแต่เด็กนั่นไม่ไป เธอยืนยันจะขอพบนายหัวให้ได้” “ได้ถามหรือเปล่าว่าเด็กนั่นมีธุระอะไร” เขาถามกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “ผมถามแล้วครับ แต่เธอไม่ยอมบอก มีแต่อ้อนวอนจะขอพบนายหัวเพียงอย่างเดียว” “งั้นก็กลับไปเปิดประตูให้เด็กนั่นเข้ามา” ร่างสูงเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจสุด ๆ เขาก็อยากจะรู้ว่าเด็กนั่นมีธุระสำคัญอะไรกับบิดาเขาหนักหนา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม