เกิดการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกอีกแล้ว ระดับความรุนแรง 5 ตามมาตราริกเตอร์ ณ ภูเขาไฟเอเรอตาเล ที่มีระดับความสูง 2011 ฟุต ทำให้แอ่งลาวาในปากปล่องภูเขาไฟเกิดการเคลื่อนตัวอย่างน่าเป็นห่วงว่ามันจะปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ...
ปี๊ด ไดน่าปิดทีวี เธอไม่อยากฟังมันต่อแล้ว หลายวันแล้วที่รายงานข่าวนี้ออกมาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องสนใจด้วย มันจะปะทุหรือระเบิดก็ไม่เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด ประเทศเอธิโอเปีย กับเกาะฮ่องกงอยู่ห่างไกลกันเกินกว่าที่ลาวาพวกนั้นจะเดินทางไหลมาทำร้ายเธอได้
ไดน่าพลิกตัวไปมาในห้องสี่เหลี่ยมขนาดสี่คูณสี่ ที่มาพร้อมกับห้องน้ำในตัวในพื้นที่เดียวกัน จะว่าไปได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว ก็เธอทั้งโง่ ทั้งไม่ได้เรื่องในทุกๆเรื่อง ดีแค่ไหนแล้วที่ยังจบมหาวิทยาลัยมาได้ แม้เกรดเฉลี่ยจะแค่เพียงพอที่จบมาไม่ได้ช่วยให้เธอได้งานดีๆ เงินเดือนสูงๆ เหมือนอย่างเพื่อนคนอื่นๆ
บรรณาธิการ บอกว่าตำแหน่งพิสูจน์อักษรเป็นตำแหน่งที่สำคัญอย่างมาก เธอได้รับการไว้วางใจในการทำงานนี้ ซึ่งเธอก็ตั้งใจทำให้สมกับความเมตตาที่บรรณาธิการให้โอกาสและช่วยเหลือเธอ นี่ก็ห้าปีแล้ว บนความโง่งมของเธอก็มีความโชคดีอยู่บ้างก็ตรงที่เธอไม่เคยถูกจัดไปอยู่ในกลุ่มผู้รองาน ว่างงาน เธอทำงานนี้ตั้งแต่ยังเรียนอยู่พอจบออกมาก็ทำเต็มตัว เงินเดือนก็มากขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าหนึ่ง แต่ก็ยังถูกจัดเป็นผู้มีรายได้น้อยอยู่ดี
ไดน่าคิดว่าไม่เกี่ยวกับตัว จึงทำให้เธอนอนหลับไปได้อย่างง่ายดาย ในเวลาเดียวกัน ณ ภูเขาไฟเอเรอตาเล เปลือกโลกที่ขยับเคลื่อนตัว ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างก็เป็นห่วง มันค่อยๆดันสิ่งที่อยู่ลึกกว่าใต้ลาวาค่อยๆ โผล่ขึ้นเหนือผิวโลก มันคือ โรงไม้ที่เป็นเพียงไม้ธรรมดา แต่มันกลับไม่ถูกแผดเผา เพราะพลังของสิ่งที่ถูกกักไว้ภายใน
พลิ้ววววว ลมหอบใหญ่จู่ๆก็ปรากฎขึ้น ทั้งๆที่บริเวณรัสมีกว่าสิบกิโลเมตรไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตใดกล้าเข้ามา แต่เสียงกระพือปีกสีน้ำตาลกลับไม่หวั่นเกรงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ ณ เวลานี้เลย
“ท่านอาเธอร์” เสียงอ่อนช้อย บ่งบอกถึงความเคารพต่อสิ่งที่เอ่ยเรียก “ท่านอาเธอร์ ได้ยินเสียงของข้าหรือไม่” เสียงดั่งนกร้องขับขาน ไม่ใช่เสียงของใคร มันคือเสียงเรียกของเทพีทวิชาชาติ
พรึ่บ! นัยน์ตาส่องประกายแสงสีทอง ผลั๊วะ! แผ่นไม้เปิดออกกระเด็นไปไกลแต่ก็ไม่วายที่จะตกลงบนลาวาสีเพลิง พลั่ก ฟู่ ไฟลุกโชติช่วงแต่แค่เพียงพริบตาแผ่นไม้ก็สลายไปกับเปลวไฟ
ทวิชาจับจ้องมองโรงไม้ ไม้เก่าจนแทบจะสลายไปกับอากาศ แต่มันยังคงรูปทรงไว้ แต่ถ้า...
ฟลู่ววววววว ควันสีขาวลอยพวยพุ่งออกมาจากโรงไม้ แสงสีทองค่อยๆ จืดจางและหายไป
“ท่านอาเธอร์” ทวิชามองร่างกายที่ลอยอยู่ด้านหน้าเธอ สองพันกว่าปี เสื้อผ้าที่ท่านอาเธอร์สวมเส้นไหมพุกกร่อนจนใช้ไม่ได้ แม้แต่โรงไม้ทันทีที่ร่างกายของท่านอาเธอร์ออกมา มันก็คือเชื้อเพลิงชั้นดีไม่ต่างกับฝาก่อนหน้านี้
“เวทย์ของข้า...” ทวิชาร่ายมนต์ อีกาปรากฎเต็มท้องฟ้ามากมายจนบริเวณโดยรอบมืดครึ้ม พรึ่บพรึ่บ พวกมันกระพือปีกไปมา ขนสีดำก็หลุดออกจากตัวพวกมันเป็นเส้นทางลอยไปล้อมรอบร่างกายอาเธอร์
ทวิชามองร่างกายเปลือยของอาเธอร์ เธอไล้สายตาตั้งแต่ต้นคอเขาลงมาเรื่อยๆ แผ่นอกกำยำรอยสักดาวห้าแฉกกลางอกซ้ายค่อยๆเลือนหายซึมเข้าไปในร่างกาย เธอได้เห็นจุดอ่อนไหวของเขาแล้ว
ในตำนานเหล่าพ่อมดจะถูกกำหนดจุดอ่อนไหวของร่างกายไว้ ซึ่งต่างก็เลือกจุดที่ไม่เหมือนกัน ของอาเธอร์อยู่กลางอกซ้าย ร่างกายพ่อมดไม่เหมือนมนุษย์ผู้ชาย หากจะมีสัมพันธ์ทางร่างกายด้วยนั้น พวกเธอต้องสัมผัสจุดอ่อนไหวก่อน
ดวงดาวห้าแฉกจะปรากฎให้มนุษย์เห็นก็ต่อเมื่อพ่อมดต้องการสมสู่ด้วยและยังต้องการให้มนุษย์หญิงมีชีวิตต่อไป แต่ถ้าดาวห้าแฉกไม่ปรากฎขึ้นมา ผู้หญิงเหล่านั้นแม้จะสุขสมแต่ก็จะติดอยู่ในโลกจินตนาการเหมือนตกนรก บางคนทนไม่ไหวถึงกับฆ่าตัวตายไปง่ายๆ
ใครเป็นเทพใครเป็นมารข้อแตกต่างอีกอย่างคือยามสมสู่กับมนุษย์
“ท่านอาเธอร์” ทวิชาน้อมตัวลงต่ำ แสดงถึงความเคารพเมื่อคนที่เอ่ยนามลอยเข้ามาอยู่ใกล้เธอ
“ศตวรรษที่เท่าไหร่”
“เรียนท่านอาเธอร์ ท่านถูกจองจำนานกว่าสองพันปี ปัจจุบันเข้าสู่ยุคศตวรรษที่21”
“สองพัน” เสียงแหบพร่า ที่ฟังเหมือนไร้ความรู้สึกแต่จริงๆแล้ว กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
“ท่านไปกับข้าก่อนเถอะ ตอนนี้ท่านยังอ่อนแรง กลิ่นไอในตัวท่านจะทำให้เหล่าเทพกำจัดมารรู้ตัว ข้าได้เตรียมทุกอย่างเพื่อท่านไว้แล้ว” เสียงขับขานไพเราะไม่เคยเปลี่ยนของเทพีทวิชาชาติ อาเธอร์ทำเพียงมองไปที่นางไม่ปฎิเสธต่อข้อเสนอ
ทวิชายื่นมื่อไปข้างหน้าเพื่อขอมือของเขา ร่างกายของเขาถูกปกปิดไว้ด้วยขนอีกาที่ถักทอเป็นเสื้อคลุม แต่ภาพก่อนหน้านั้นเธอได้เห็นทุกอย่างจนหมดสิ้น ไม่เสียใจเลยที่รอคอยเขามานานกว่าสองพันปี เธอปักอกปักใจรักเขามานาน รักเขาตั้งแต่ที่ได้เห็นเขาครั้งแรกเมื่อสองพันปีก่อน
ฟลู่ววววว...เสียงลมและควันสีขาวเกิดขึ้นทันทีที่อาเธอร์ยื่นมือมาสัมผัส และเพียงเสี้ยวชั่วพริบตา ทุกอย่าง ณ ภูเขาไฟเอเรอตาเล ก็ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต
ที่นี่คือที่ไหน เขามาปรากฎตัวหน้ากระโจมที่ทำจากพันธ์ุไม้ที่เรียงร้อยกันเป็นสิ่งปลูกสร้าง ทวิชาชาติคือเทพีแห่งนก ที่พำนักของเธอก็จะคล้ายๆรังนก แต่ขนาดของมันใหญ่กว่ามากและตั้งอยู่บนดิน อาเธอร์มองไปด้านบน ต้นไม้ใหญ่มากมายที่เป็นที่ตั้งบ้านหลังเล็กๆ
“ท่านไม่เคยมาที่นี่ แต่ที่นี่เป็นที่ที่พวกเราอยู่กันมาโดยตลอดหลายพันปี” อาเธอร์พยักหน้า เขาไม่เคยสนใจที่จะเสพสมกับเทพหรือปีศาจ เมื่อก่อนไม่ ตอนนี้เขาก็ยังคงรู้สึกแบบเดิม
ทวิชาพาอาเธอร์เข้าไปด้านในกระโจม ข้างในกว้างใหญ่กว่าที่เห็นจากด้านนอกมาก สองข้างทางเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ดอกหลากสีสองข้างทาง “ข้าต้องจัดการกลิ่นไอ” แม้ไม่ชอบใจนัก แต่ก็จริงอย่างที่นางว่าไว้ เขาไม่อาจต่อสู้กับเทพกำจัดมารได้ ตราบใดที่พลังของเขายังไม่ฟื้นคืนมา
ฟลู่ววววว ทวิชาโบกมือร่ายมนต์ ม่านสีขาวก็เปิดทาง สุดปลายทางคือหญิงสาว พวกเธอเป็นมนุษย์ “กลิ่นไอมนุษย์สาวบริสุทธิ์จะได้ผลเป็นอย่างดี และถ้าเป็นหญิงสาวที่พึ่งผ่านวัยสาวมาเพียงครั้งเดียว” คำว่าผ่านวัยสาวมาเพียงครั้งเดียว สมัยนี้ก็คือหญิงสาวที่พึ่งมีประจำเดือนครั้งแรก
“พวกเธอยินยอมด้วยหรือไม่”
“แน่นอนว่าพวกเธอต้องกลัว พวกเธอยังอ่อนวัยนัก แต่ด้วยเสน่ห์ของท่าน...” อาเธอร์ยกยิ้มมุมปาก เขาหลงใหลในมนุษย์ และมนุษย์นี้แหละที่ทำให้เขาต้องทนทรมานฝังแน่นความโกรธแค้นมานานกว่าสองพันปี แล้วใยเขาต้องอาทรพวกหล่อนด้วย
“ใยข้าต้องสน มนุษย์สองนางนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นการแก้แค้น” อาเธอร์าร่ายเวทย์ เขาก็ไปปรากฎตัวต่อหน้าหญิงสาวสองคน ที่ถูกมนต์สะกดของทวิชาไว้ พวกเธอนั่งนิ่งๆ ดวงตาปิดสนิท
“ถอดเสื้อผ้าพวกนางออกไป” คำสั่งของอาเธอร์ ทวิชาสะบัดแขนเพียงครั้งเดียว หญิงสาวสองคนก็เปลือยเปล่า อาเธอร์พึงพอใจอย่างยิ่ง นางสองคนนี้พึ่งจะผ่านวัยสาวมาเพียงครั้งเดียว แต่รูปร่างหน้าอกอวบอึ๋ม เขาจึงรู้โดยทันทีว่าหญิงสาวสองนางนี้น่าจะได้รับการอุปการะเลี้ยงดูโดยตรงจากทวิชา
“เจ้าเลี้ยงได้ดี” ทวิชายิ้มน้อยๆ เธออยากจะเป็นหญิงสาวที่กลบกลิ่นไอเองเสียด้วยซ้ำ แต่เธอไม่ใช่มนุษย์ และเธอก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว
“เชิญท่านอาเธอร์” อาเธอร์เดินเข้าไปใกล้พวกเธอ ทวิชายังคงยืนอยู่และขยับเข้ามาใกล้ ภาพและเหตุการณ์ต่อจากนี้ เธอเห็นมาบ่อยครั้ง เมื่อก่อนเธอได้แต่แอบดูและอยากเป็นหญิงสาวที่ร้องครางใต้ร่างเขา ยามที่ท่านอาเธอร์เสพสม เวลาผ่านไปนานแค่ไหน เธอก็ยังคงหวัง...
พรึ่บ! อาเธอร์ไม่ได้สนใจว่าจะมีผู้ชม เสื้อคลุมขนอีกาผืนใหญ่ ล่วงลงสู่พื้น พิธีการอำพรางกลิ่นไอปีศาจพ่อมดในตัวเขาก็คือน้ำกามของสาวพรหมจรรย์ ยิ่งเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องมากแค่ไหน กลิ่นไอในตัวเขาก็จะเหมือนกับมนุษย์ทั่วไปจนเทพกำจัดมารไม่มีทางแยกออกได้แม้จะเดินสวนกัน
การจะขับน้ำกามของหญิงสาวเหล่านี้ก็มีหนทางเดียวคือเขาต้องเสพสม ดูดกินกลืนน้ำกามของพวกเธอเข้าไปทั้งทางปากและปลายแก่นเนื้อขนาดใหญ่ยามที่พวกหล่อนปลดปล่อยยามถึงจึงสุดยอดของอารมณ์ และยิ่งผสมเลือดพรหมจรรย์ด้วยแล้ว มันจะอยู่คงทนยาวนานนับเดือน
ทวิชาชาติรู้เรื่องนี้เธอรู้ได้อย่างไร เป็นที่น่าสงสัยของเขา แต่ไม่ใช่เวลานี้ที่เขาจะมาเค้นหาความเป็นมาในภูมิความรู้ของเธอ
อาเธอร์เดินไปนั่งตรงกลางระหว่างเธอ เขากดศีรษะพวกเธอให้พวกเธอจุมพิตดาวห้าแฉกที่มันปรากฎขึ้นบนกลางอกซ้าย “พวกเจ้าเลียมันสิ” เสียงคำสั่ง หญิงสาวทั้งสองแลบลิ้นโลมเลียกลางอกซ้ายสัมผัสผิวเนื้อบริเวณดาวห้าแฉก