หมอเวิงอันกลับมาจากจวนสกุลจิ่งได้หนึ่งชั่วยามก็เริ่มปวดท้องอยากถ่ายอุจจาระ จากนั้นเขาก็เดินเข้าเดินออกส้วมจนขาแทบลากกว่าจะได้หยุด ชายหนุ่มขาสั่นพั่บๆ หยิบถ้วยยาหยุดถ่ายดื่มเข้าไปสองถ้วย
“รอบที่แปดแล้วท่านหมอ”
“ข้าอยากจะกินยาหยุดถ่ายเข้าไปสักหม้อด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำแบบนั้น จะกลายเป็นว่าหลังจากหยุดถ่ายท้องแล้ว ข้าอาจจะถ่ายอุจจาระไม่ออกไปอีกหลายวัน คงไม่หายได้ตายก่อนแน่”
ผู้ช่วยสองคนหันไปยิ้มให้กัน พวกเขาไม่กล้าหัวเราะเยาะท่านหมอเวิง
“อย่ายิ้ม! รีบมาพยุงข้าไปที่เตียงเร็วเข้า” ชายหนุ่มขาสั่นพั่บๆ จนเดินไม่ไหว เขาทรุดลงเลยหน้าห้องส้วมได้สี่ห้าก้าว
หลังจากที่นอนหายใจเบาๆ ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ เขาพลันนึกขึ้นได้ว่าอาจจะถูกแม่สาวน้อยตระกูลจิ่งแก้แค้นเข้าให้แล้ว
“ต้องเป็นนาง! ต้องเป็นนางแน่ๆ” ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก บอกกับตัวเองว่างานนี้จะไม่ปล่อยนางให้ลอยนวล
‘จิ่งช่าน เจ้าตัวแสบ ข้าจะต้องหาทางสั่งสอนแม่สาวน้อยอย่างเจ้าให้รู้สำนึกสักหน่อยแล้ว’
ชายหนุ่มใคร่ครวญหาวิธีจะไปจัดการกับนางขั้นเด็ดขาด!
เช้าวันต่อมา คุณหนูจิ่งก็มาเยือนโรงหมอของท่านหมอเหวยเพื่อเยี่ยมอาการของท่านหมอเวิง
“ที่แท้ก็เป็นเจ้า!”
“หือ! หมอเวิง เจ้าอย่าคิดใส่ร้ายข้า! ข้าแค่รู้ข่าวจึงมาเยี่ยม”
“หึ! หากไม่เป็นเจ้าแล้วจะเป็นผู้ใด? เมื่อวานข้าก็แค่ดื่มน้ำชาที่เรือนของเจ้าทีเดียว พอกลับมาก็มีอาการเยี่ยงนี้”
“เอ๋? พี่ชายของข้าก็ดื่มชาหลงจิ่งเหมือนเจ้าแต่เขาไม่เป็นอะไรนะ?”
ชายหนุ่มแสยะยิ้ม “ก็ได้! ถือว่าแผนเจ้าดี! อย่าให้ถึงทีข้าก็แล้วกัน”
จิ่งช่านหันไปบอกให้สาวใช้ของนางเอาของเยี่ยมคนป่วยมาวางลงบนโต๊ะ “นี่เป็นยาบำรุงชั้นดีที่ข้าให้สาวใช้เคี่ยวอยู่นับชั่วยาม เชิญท่านหมอดื่มเสียเถิดจะได้บำรุงกำลัง ข้าไปล่ะ! ฮ่าๆๆ”
ชายหนุ่มเขม่นเข่นเขี้ยวมองตามหลังนาง แม่นางน้อยจิ่งเดินลิ่วไม่แลหลัง ไม่รู้ว่านางเองก็กลัวเขาหรือว่ากำลังร่าเริงใจที่ได้กลั่นแกล้งเขากันแน่
“เจ้าเองก็ระวังตัวให้ดีล่ะคุณหนูจิ่ง!”
จิ่งช่านฝึกวิทยายุทธ์อย่างแข็งขัน ระยะนี้นางเกรงว่าตนเองอาจจะได้เจอกับฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าสตรีตายไปหลายคนจำต้องมีกำลังกายและวรยุทธ์ที่ก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม เมื่อนางฝึกเสร็จก็เดินกลับมาหาบิดาที่นั่งจิบชาชมอยู่ม้านั่งหินไม่ไกลนัก
“เจ้าขยันฝึกซ้อมเช่นนี้ไม่ไปสมัครเป็นมือปราบหญิงไปเลยเล่า?”
“ท่านพ่อเจ้าคะ อนุญาตข้าแล้วหรือ?”
ใต้เท้าจิ่งส่ายหน้าช้าๆ “ข้าก็พูดไปอย่างนั้น หากเจ้าไปทำอาชีพเช่นนั้นจริงก็อันตรายมิใช่น้อย ข้าให้เจ้าฝึกวิทยายุทธ์ก็เพื่อป้องกันตนเองและคนในครอบครัว ไม่ได้อยากให้ไปเสี่ยงอันตรายสักหน่อย”
“ข้าว่าเป็นมือปราบก็ดีออกนะท่านพ่อ ได้ดูแลทุกข์สุขให้ปวงประชา”
ใต้เท้าจิ่งยกมือขึ้นโบกไปมา “ไม่ๆ ข้าไม่เห็นด้วยเด็ดขาด ตัวเจ้าก็ควรจะเตรียมตัวหาคุณชายตระกูลดีๆ มาดูตัว เห็นทีพ่อคงต้องให้แม่เจ้ารีบไปเร่งรัด แม่สื่อให้หาบุรุษมาให้เลือกได้แล้ว”
“ท่านพ่อ! ข้ายังไม่ได้คิดจะออกเรือนนะเจ้าคะ”
“เจ้าควรคิดได้แล้ว เป็นสตรีมีหน้าที่สำคัญคือการเป็นภรรยาที่ดีและเป็นมารดาที่ดี อาการเจ็บป่วยของเจ้า พ่อก็อยากจะเร่งให้หมอเวิงรีบมาช่วยรักษาให้หาย ประเดี๋ยวแต่งงานไปเกิดมีบุตรยากขึ้นมาจะกลายเป็นปัญหาให้สามีขอแต่งอนุเข้ามาในเรือนอีก”
จิ่งช่านทำหน้าปั้นยาก นางยังอยากใช้ชีวิตสนุกอยู่ในจวนกับจิ่งเฉิงพี่ชาย
“ท่านพ่อไปเร่งรัดพี่เฉิงให้แต่งงานก่อนข้าเถอะเจ้าค่ะ หากพี่เฉิงยังไม่แต่งข้าก็จะไม่แต่ง”
จิ่งเฉิงเพิ่งเดินมาถึง ได้ยินบิดาและน้องสาวเอ่ยชื่อตนเองก็พลันหูผึ่ง
“ท่านพ่อตำหนิข้าหรือขอรับ?”
ใต้เท้าจิ่งหันไปยิ้มให้บุตรชาย “ไม่ได้ตำหนิ แค่คิดจะหาเจ้าสาวให้เจ้าเท่านั้น จะว่าไปคราวก่อนแม่เจ้าก็บ่นน่าดูที่เจ้าไม่ยอมหมั้นหมายกับคุณหนู แปดฉง”
จิ่งเฉิงส่ายหน้า “ไม่เอาขอรับ! นางดูเล่ห์เหลี่ยมเยอะไปข้าไม่ชอบ”
“เอ่อ...แล้วแต่เจ้า! ว่าแต่รีบเลือกหน่อยก็แล้วกัน เจ้าต่อรองไว้ถึงสิ้นปีนี้นะ หากเลยกำหนดแล้วแม่เจ้าเลือกผู้ใดให้ก็ต้องแต่งตามนั้น”
“ขอรับ! ข้าจะรีบย่องเบาเข้าไปดูคุณหนูทั้งหลายให้หมดจะได้ตัดสินใจได้เสียที”
ใต้เท้าจิ่งส่ายหน้าเอือมระอาบุตรชายที่ยังคงใช้คารมโต้ตอบโดยไม่คิดจะมองหาสตรีมาครองเรือนอย่างจริงจัง จิ่งเฉิงหันไปชวนน้องสาวออกไปเดินเที่ยวที่ถนนคนโฉด ใต้เท้าจิ่งได้ยินก็บอกให้สองพี่น้องพาคนในเรือนไปด้วยหลายคนสักหน่อยจะได้ดูแลความปลอดภัย
เวิงอันที่ออกมาเดินเตร็ดเตร่บนถนนคนโฉดเพราะคิดจะไปสอบถามยายเฒ่าเยาว์วัยถึงเรื่องของผีไร้หลุมหมอฝ่ายมารผู้มีวิชาแพทย์เป็นเลิศแต่ปรุงยาเลวร้ายสารพัดชนิดออกมาจำหน่าย เขาได้ยินชื่อเสียงของคนผู้นี้จากอาจารย์ที่สอนวิชาแพทย์ในแคว้นเว่ยหลายคน ทว่ากลับไม่เคยเจอตัว
มีข่าวลือในยุทธภพกล่าวกันว่าผีไร้หลุมมีสตรีที่สนิทสนมอยู่ผู้หนึ่งอยู่ในแคว้นหมิง หมอเวิงอันหมายมั่นปั้นมือจะตามหาผีไร้หลุมเพื่อจะฝากตัวเป็นศิษย์ ขอวิชาแพทย์เพื่อมาใช้ช่วยเหลือผู้คน
‘อ๊ะ! จิ่งช่านตัวแสบก็มาด้วยหรือนี่? สวรรค์ช่างให้โอกาสข้า’
สายตาของชายหนุ่มหันไปเห็นสองหนุ่มสาวตระกูลจิ่งเดินเคียงคู่นำหน้าบ่าวและสาวใช้หลายคนอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงรีบหลบในทันทีและเริ่มทำการสะกดรอยสองพี่น้องไป
“นั่นเพื่อนของข้านี่ เดี๋ยวข้าจะแวะโรงน้ำชาเป่าฟู่ พวกเขาก็ไปเดินเล่นแถวนี้ก็แล้วกันนะ”
“คุณหนูเจ้าคะ พวกเราไม่กล้าปล่อยคุณหนูไว้”
“กลัวอะไรล่ะ? เงินพวกเจ้าก็ถืออยู่ เดินอยู่ใกล้ๆ ก็แล้วกันจะได้หากันง่าย”
“เจ้าค่ะ”
แท้จริงบ่าวและสาวใช้ล้วนลิงโลด พวกเขาออกไปเดินเล่นในถนนคนโฉด ดูร้านรวงและข้าวของกันอย่างเพลิดเพลินใจ
********************