บทที่ 1 ข้าไม่มีวันแต่งกับนาง

1398 คำ
  เสียงพูดคุยที่เริ่มดังเอะอะโวยวายแทบจะกลบดนตรีที่อึกทึกในหอจันทร์ฉาย  ขณะที่บนเวทียกระดับเตี้ยๆ มีสาวงามนับสิบนางร่ายรำในชุดหลากสีตระการตา หอนางโลมแห่งนี้เลื่องชื่อที่สุดในเมืองหลวงแคว้นหมิง ในหมู่บุรุษไม่ว่าระดับใดต่างปรารถนาจะมาเยี่ยมเยือนสักครั้ง แต่ค่าบริการที่สูงลิ่วทำให้มีเพียงเหล่าคุณชายเงินหนากระเป๋าหนักเท่านั้นจะมาเยือนได้  คืนนี้จวิ้นอ๋อง หมิงจิ้นเหอ แม่ทัพภาคเหนือผู้เกรียงไกร ฉายาปีศาจภูเขา เหมาหอจันทร์ฉายเพื่อเลี้ยงฉลองให้กับแม่ทัพนายกองคนสำคัญที่ร่วมขับไล่ชนเผ่าที่รุกรานชายแดนออกไปได้สำเร็จ “ข้าขอคารวะท่านแม่ทัพอีกหนึ่งจอก” มู่หลี่เจียง สหายคนสนิทและรองแม่ทัพฝ่ายซ้ายคู่ใจ ยกจอกเหล้าขึ้น นายทหารทั้งหมดพร้อมใจกันลุกขึ้นพูดพร้อมกัน “พวกเราขอคารวะท่านแม่ทัพ” “ดี ข้าขอขอบใจพวกเจ้าอีกครั้งที่พร้อมใจกันสู้ศึกครั้งนี้แบบยอมตายถวายหัว จนเราได้ชัยชนะ” หมิงจิ้นเหอลุกขึ้นชูจอกเหล้าเหนือศีรษะ “ดื่ม!” ฟ่านซิ่วอิงแอบมองชายหนุ่มร่างสูงสง่าที่ยืนนำดื่มด้วยอาการตะลึง ‘เขาคือ หมิงจิ้นเหอ จวิ้นอ๋องคนนั้นหรอกรึนี่? ไหนว่าเป็นปีศาจภูเขารูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว หนวดเครารุงรัง ชอบแบกดาบใหญ่ ฆ่าคนราวผักปลา ตาไม่กระพริบ’   นางนึกถึงเพลงพื้นบ้านที่นางเคยชาวยินชาวบ้านร้องขู่เด็ก เมื่อท่านพ่อส่งจดหมายมาบอกข่าวให้นางเตรียมตัวหมั้นหมายกับเขาตามพระประสงค์ของฮองไทเฮา นางถึงกับตบอกด้วยความขัดเคือง คิดแผนอยู่นานเพื่อให้เขาปฏิเสธตนเอง ฟ้าเริ่มมืดตอนที่นางในชุดเสี่ยวเอ้อ เดินมาถึงตรอกใกล้ๆ นักเลงสองคนขวางนางไว้เพราะอยากได้เงินไปดื่มสักเล็กน้อย นางกลับโต้เถียงทำให้ฝ่ายนั้นคิดจะลงมือทำร้าย เป็นเขาที่ปรากฏตัวช่วยเหลือไว้ มุมที่นางยืนอยู่ค่อนข้างสลัว เขาจึงไม่ได้สังเกตใบหน้านางชัดเจน เพียงพยักหน้ารับเมื่อนางกล่าวขอบคุณ แล้วเดินมาทางหอจันทร์ฉาย นางยิ้มเยาะ แม้จะพอใจในรูปโฉมที่สง่างาม ใบหน้าราวเทพสลักและความเก่งกาจ แต่เมื่อเห็นเขาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ กลับลบล้างความประทับใจที่มีไปเสียสิ้น ‘เสียดายที่เป็นแม่ทัพผู้เก่งกาจ ผดุงคุณธรรม แต่หากชมชอบการมาหอนางโลมคงจะไม่อาจเป็นสามีที่ดีนัก’ “เจ้าจะแอบอยู่ทำไม? รีบเอาเหล้าไปส่งที่โต๊ะจวิ้นอ๋องสิ ไม่เห็นรึว่า เหล้าหมดกาแล้ว” หัวหน้าเสี่ยวเอ้อ รีบไล่นางที่แต่งกายในชุดบุรุษไปทำหน้าที่ คุณหนูฟ่านรีบยกกาเหล้าไปส่งที่โต๊ะ นางพยายามก้มหน้าเพื่อไม่ให้ใครจับพิรุธได้ แต่ในเมื่อทุกคนล้วนดื่มเหล้า ชมโฉมนางรำบนเวที ใครเล่าจะมาสนใจสังเกตเสี่ยวเอ้อชายที่แต่งกายซอมซ่อ “ท่านแม่ทัพ ข้าได้ยินว่า ที่ท่านเข้าวังเพราะฮองไทเฮามีพระประสงค์ให้ท่านหมั้นกับบุตรีท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายใช่หรือไม่?” รองแม่ทัพฝ่ายขวายิ้มเย้า “ฉินอี๋นั่ว การข่าวของเจ้าดีเกินไป” ท่านอ๋องหน้าเคร่ง “แม่ทัพหมิงไม่มีทางแต่งงานกับนางหรอก รูปร่างหน้าตานางสู้นางรำบนเวทีไม่ได้ สักคน แถมยังเติบโตที่บ้านนอกอีก ข่าวว่า นางเป็นคนไม่รู้กริยาแบบคุณหนู ซ้ำยังไม่รู้หนังสืออีกด้วย” มู่หลี่เฉียงหันไปตอบแทนนาย ปัง! เขาทุบโต๊ะดังลั่นจนทุกคนสะดุ้ง “ข้าไม่มีวันแต่งกับนาง” หมิงจิ้นเหอที่เริ่มมึนเมาประกาศกร้าว องค์ชายผู้เย่อหยิ่งรู้สึกโมโหยิ่งนัก เขารู้ว่าที่ฮองไทเฮาต้องการยัดเยียดหลานสาวให้เพราะอยากจะเกี่ยวดองอำนาจทางการทหารไว้กับตัว ในฐานะที่เขาเป็นแม่ทัพใหญ่ภาคเหนือ มีทหารในสังกัดมากที่สุดในแคว้น หากมีเขาเป็นหลานเขย ย่อมจะทำให้เหล่าข้าราชสำนักยำเกรงนางยิ่งขึ้น ฮองไทเฮาไม่ใช่มารดาที่แท้จริงของฮ่องเต้ นางจึงต้องรักษาฐานอำนาจอย่างเข้มแข็ง ฟ่านซิ่วอิงตกใจที่เขาทำราวกับจงเกลียดจงชังนางนักหนา นางแอบเหลือบมองเขาก่อนถอยหลังไปเล็กน้อยรอฟังเรื่องราวต่อ “ท่านเคยพบนางแล้วหรือ ข้าได้ยินมาว่า คุณหนูฟ่านร่างกายอ่อนแอต้องไปอยู่    หัวเมืองเพื่อรักษาตัวตั้งแต่ยังเล็ก คุณชายใหญ่ตระกูลฟ่านหล่อเหลาปานเทพบุตรแล้วน้องสาวจะขี้เหร่ได้ยังไงกัน?” ฉินอี๋นั่วยังเคลือบแคลงใจ ข่าวที่เขาได้ยินมากับสิ่งที่มู่หลี่เฉียงกล่าวช่างสวนทางกัน หมิงจิ้นเหอส่ายหน้า ตั้งแต่มีคนส่งข่าวลือเกี่ยวกับตัวนาง เขาก็ไม่สนใจจะดูภาพที่จวนเสนาบดีฝ่ายซ้ายส่งมาให้ เขาสั่งให้มู่หลี่เฉียงดูแล้วเอาไปทิ้ง “ข้าดูแล้ว ภาพวาดของนาง หาความงดงามมิได้ ไม่คู่ควรกับแม่ทัพของเราแม้สักนิด” บุรุษรอบโต๊ะส่งเสียงฮือฮา เห็นด้วยที่ท่านอ๋องปฏิเสธการหมั้นหมาย “แต่ท่านเสนาบดีฟ่านน่ะสิ มาคอยดักท่านอ๋อง ขอให้พิจารณาบุตรีของตนครั้งแล้วครั้งเล่าจนข้ารำคาญแทน”                 “แบบนี้ก็เท่ากับข่าวลือที่เกี่ยวกับนางมีมูลความจริงน่ะสิ บุตรสาวตนเองแย่ขนาดนี้ยังจะกล้ายัดเยียดให้ท่านอีก” ฉินอี๋นั่วส่ายหน้า คนที่เหลือต่างวิจารณ์ไปทำนองเดียวกัน                 คุณหนูฟ่านที่ยืนก้มหน้ารอรับใช้อยู่ด้านหลังได้ยินทุกถ้อยคำ หน้าถึงกับหน้าร้อนผ่าวด้วยความโกรธ ท่านพ่อของนางทำไมถึงต้องพยายามให้จวิ้นอ๋องรับนางเป็นพระชายาเอกจนถึงกับต้องคอยไปตามตื้อหลายครั้ง ทำราวกับนางดูแย่เสียเต็มประดา                 “ช่างเถอะ! ถึงอย่างไรข้า หมิงจิ้นเหอก็ไม่มีวันจะหมั้นหรือแต่งคุณหนูตระกูลฟ่านเด็ดขาด” แม้จะเริ่มยืนเซ แต่จวิ้นอ๋องผู้มีรูปหน้าคมสันเหยียดร่างเต็มความสูง ชูจอกเหล้าขึ้นประกาศต่อหน้าเหล่าทหาร จนสร้างเสียงเฮรับดังสนั่น สะท้านสะเทือนใจฟ่านซิ่วอิง นางไม่คิดฝันว่า ความดีใจที่ทำให้ท่านอ๋องปฏิเสธการหมั้นกับนางได้ กลายเป็นความอัปยศให้ผู้คนเหยียดหยันทั้งตัวนางและบิดา                 “ในเมื่อท่านแม่ทัพปฏิเสธนางแบบนี้แล้ว คงไม่มีคุณชายตระกูลใดกล้ามาสู่ขอนางเป็นภรรยาแน่”                 “พวกเจ้าเลิกพูดถึงนางได้แล้ว โน่นแน่ะแม่นางหลี่ใกล้จะออกมาให้ยลโฉมแล้ว” บุรุษทั้งหมดเริ่มยุติการถกเถียงเมื่อนางรำเริ่มถอยเข้าหลังฉาก ไม่นานนักแม่นางหลี่ที่เป็นดาวเด่นหอจันทร์ฉายก็ปรากฏตัวในชุดสีชมพูสดสวย ที่ผ่านมานางขายเพียงฝีมือการเล่นพิณ   อันโดดเด่น แต่ไม่ยอมขายเรือนร่าง จวบจนสองวันที่ผ่านมามีประกาศว่าหอจันทร์ฉายจะเปิดการประมูลตัวนาง                 “ท่านแม่ทัพ ท่านน่าจะประมูลนะ แม้แต่สาวใช้อุ่นเตียงก็ยังไม่มี ข้าว่าถือโอกาสเชยชมสาวงามบริสุทธิ์ผุดผ่องก่อนจะเดินทางกลับพยัคฆ์เหินเถอะ” มู่หลี่เฉียงกระเซ้า เขาเป็นคนเดียวที่กล้าหยอกล้อท่านอ๋องผู้มีใบหน้าเคร่งขรึม หากไม่เติบโตมาด้วยกัน รักกันดุจพี่น้องคงถูกสั่งโบยจนไม่มีหลังจะให้ขาด                 “ก็ดี ข้าสนใจ” หมิงจิ้นเหอที่หงุดหงิดกับการปะทะคารมกับฮองไทเฮา เมื่อเห็นสหายยุยงส่งเสริมก็นึกครึ้มใจ นานทีเขาจึงจะหลับนอนกับนางโลม แต่เพราะความถือตัว จึงเน้นเฉพาะรายที่เปิดประมูลครั้งแรกเท่านั้น                 ‘หึ! นินทาข้าจบแล้ว คิดจะประมูลหญิงคณิกาหรอกรึ อย่าหวังเลยว่า คืนนี้ท่านจะได้เสวยสุข’   *******************  ไรท์แนะนำ...นิยายเรื่องนี้เป็นปฐมบทค่ะ ปัจจุบัน(ตุลาคม 2564) ไรท์เขียนไป 7 เรื่องแล้วนะคะ (นิยายรักจีนโบราณ) ภาคต่อของเรื่องนี้ชื่อเรื่อง "ท่านอ๋องเป็นของข้า" ค่ะ   
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม