บทที่ 5 ในที่สุดก็พบหน้า

1634 คำ
                            ระหว่างการก่อสร้างร้านอาหารใหม่ แม่ทัพหมิงแวะเวียนไปดูความก้าวหน้าของกิจการทุกวัน ลูกค้าของร้านยังคงเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ร้านของนางปิดเร็วขึ้นกว่าเดิม นางจึงเปลี่ยนเวลาเปิดร้านโดยเริ่มจากยามซื่อ (09.00-10.59) ไปถึงเที่ยงวันเท่านั้น จวิ้นอ๋อง หมิงจิ้นเหอต้องส่งทหารออกมาจองโต๊ะตั้งแต่ต้นยามซื่อ เพราะเถ้าแก่เหออ้างว่า ลูกค้ามาตลอดเวลาเขาไม่สามารถห้ามลูกค้าไม่ให้นั่งโต๊ะที่บอกว่า ท่านแม่ทัพจองได้                 จวิ้นอ๋องรู้สึกแปลกใจที่ระยะหลังเขาได้พบคุณชายคหบดีหลายตระกูลมารับประทานอาหารที่เพิงแห่งนี้ “หลี่เฉียง เจ้าดูสิ ทำไมคุณชายพวกนั้นระเห็จออกมาถึงที่นี่ได้”                 “ชื่อเสียงของร้านนี้เป็นที่รู้จักของคนในเมืองแล้วท่าน บรรดาคุณชายเอาไปสนทนากันจนต้องอยากลิ้มลอง เมื่อมาแล้วก็อดจะชื่นชมไม่ได้ ทำให้ชวนกันมาจนเต็มร้านแบบนี้” รองแม่ทัพมู่สอบถามมาจากเหล่าพลทหาร                 “อีกไม่นานที่นี่คงกลายเป็นแหล่งนัดพบของเหล่าผู้มีฐานะแห่งใหม่เป็นแน่ ยิ่งร้านใหม่ใหญ่โตแบบนี้” รองแม่ทัพฉิน หันไปมองคนงานที่กำลังก่อสร้างอย่างแข็งขัน                 “หากสร้างร้านใหญ่ เงินที่ข้าให้ยืมไปคงไม่พอ” หมิงจิ้นเหอคำนวณในใจคร่าวๆ เงินที่เถ้าแก่เหอหยิบยืมเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะพอสำหรับการก่อสร้างครั้งนี้ ‘หรือว่า     เถ้าแก่เหอยืมเงินของหนึ่งในเหล่าคุณชายด้วย’                 ค่ายทหารอยู่นอกตัวเมืองพยัคฆ์เหินพอประมาณ  โดยปกติเหล่าคุณชายมักจะนิยมปรากฏตัวตามภัตตาคารหรือโรงเตี๊ยมซึ่งมีไม่กี่แห่งในเมือง เมื่อเห็นพวกเขาเวียนหน้ามาถึงร้านเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้ผู้คนล้วนแตกตื่น                 รถม้าหรูหราหลายคันตรงเข้ามาจอดก่อนเวลาร้านเปิด แม่นางเหอแม่ครัวที่  ไม่เคยออกมาปรากฏตัวฝากเถ้าแก่ออกมาแจ้งว่า นางจะทำอาหารเท่าจำนวนโต๊ะที่มีอยู่เท่านั้นจนกว่าร้านใหม่จะสร้างเสร็จ ผู้ที่คิดจะเอาโต๊ะและเก้าอี้มาเองจึงต้องระงับความตั้งใจนั้นเสีย                  สิบวันต่อจากนั้น แม่ทัพหมิงต้องเตรียมการฝึกทหารระลอกใหม่เขาจึงไม่ได้ออกมาที่ร้านอาหารของเถ้าแก่เหอ ได้แต่สั่งให้ทหารมารับอาหารเข้าไปในค่าย แต่กลับได้ยินทหารรายงานให้รองแม่ทัพมู่ทราบเรื่องที่น่าตื่นเต้น                 “รองแม่ทัพมู่ ช่วงนี้มีข่าวว่า เหล่าคุณชายมาเฝ้าแม่ครัวร้านเถ้าแก่เหอ เพราะเสียงเล่าลือกันว่า นางรูปโฉมงดงามมาก” มู่หลี่เฉียงถึงกับขมวดคิ้ว หันไปมองแม่ทัพหมิง                 “ทำไมข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน?” รองแม่ทัพมู่  “เห็นทีจะต้องออกไปดูให้เห็นด้วยตาตนเองเสียแล้ว” ความชื่นชอบในตัวสาวงามทำให้หนุ่มวัยฉกรรจ์ผู้เอะอะโผงผาง และยังไม่ได้ตบแต่งภรรยามีความคึกคัก “ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยขออนุญาตออกไป  สืบข่าวได้หรือไม่?”                 หมิงจิ้นเหอพยักหน้า “ลองไปดูสิว่า เป็นความจริงหรือไม่?”                 ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม มู่หลี่เจียงก็กลับมาด้วยสีหน้าแตกตื่น รองแม่ทัพบรรยายให้ให้หมิงจิ้นเหอฟังถึงรูปร่างหน้าตาของนางที่สวยงามโดดเด่น ใบหน้างดงามแช่มช้อย ผิวพรรณสะอาดสะอ้านผุดผาดตา “ข้าแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เห็นเถ้าแก่เหอแบบนั้น กลับมีลูกสาวสวยเหมือนนางฟ้า ภรรยาที่อยู่หลังครัวก็งามราวกับฮูหยินตระกูลใหญ่ในเมือง ท่านแม่ทัพ เราพลาดไปแล้วจริงๆ ที่ไม่ได้เห็นนางตั้งแต่ทีแรก”                 “ทำไมนางถึงยอมออกจากครัวมาได้?”                 “ตอนนี้นางรับคนครัวมาเพิ่ม และสอนแม่ครัวใหม่ทำอาหาร ทำให้มีเวลาออกมาพูดคุยกับลูกค้า ขนาดคุณชายกังจอมเจ้าชู้ก็ยังมานั่งเฝ้านางจนร้านปิด”                 จวิ้นอ๋องได้ยินมู่หลี่เจียงพรรณาความงามของนางถึงเพียงนั้นนึกอยากจะเห็นหน้านางขึ้นมาทันใด “พรุ่งนี้ข้าจะออกไปดูด้วยตาข้าเอง”                                 คุณหนูฟ่านหรือชื่อปลอม เหอเจียอี ถึงกับกลั้นหัวเราะจนตัวโยนเมื่อเห็นรองแม่ทัพมู่ควบม้ากลับค่ายจนฝุ่นตลบ ‘ถ้าท่านไม่มา ข้าก็ต้องบีบจนได้ หมิงจิ้นเหอได้เวลามาตามตื้อข้าแล้ว’                 เหอจางลี่เถ้าแก่เนี้ยเดินชดช้อยมายืนยิ้มอยู่ด้านหลัง “เป็นอย่างไรบ้าง?”                 “เป็นจริงดังคาดท่านแม่ รองแม่ทัพมู่มาดูตัวข้าแล้ว”                 “ถ้าเช่นนั้น พรุ่งนี้เตรียมอาหารพิเศษไว้ให้ท่านแม่ทัพเถิด”                 นางอุตส่าห์ส่งคนไปปล่อยข่าวหน้าบ้านคหบดีหนุ่ม แล้วแต่งกายสวยงามออกมาต้อนรับ ทำเอาข่าวลือเรื่องรูปโฉมลามเร็วยิ่งกว่าฝีมือการทำอาหาร ความงามของสองแม่ลูกร้านตระกูลเหอ ดึงดูดผู้คนได้ดียิ่ง คุณชายทั้งหลายต่างหมายมั่นปั้นมืออยากได้เหอเจียอีมาเป็นภรรยา ต่างอาสาส่งคนงานมาช่วยก่อสร้างร้านอาหาร                 “ทั้งคุณชายกัง คุณชายหวัง คุณชายเถียน ต่างส่งคนงานมาช่วย อีกไม่นานร้านของท่านพี่ก็จะเสร็จเรียบร้อย” เหอหงเซ่อยิ้มหวานให้พี่สาวจอมปลอม                 “ในเมื่อข้าสร้างข่าวลือปลอมได้ ข่าวลือจริงนั้นยิ่งไม่ยาก คราวนี้หมิงจิ้นเหอจะได้รู้ว่า การต้องไปตื้อคนอื่นเป็นเรื่องคับข้องใจเพียงใด”                                 จวิ้นอ๋อง มองดูภัตตาคารแห่งใหม่ที่สร้างเสร็จแล้วอย่างงุนงง ขนาดของร้านใหญ่กว่าเพิงเดิมหลายเท่า ดูสวยงามและโอ่อ่าพอสมควร ถ้าจะว่าไปน่าจะใช้เวลาอีกสักเดือนถึงจะเสร็จ                 “หลี่เจียง ข้าว่า ที่นี่สร้างเสร็จเร็วเหนือกว่าคาดไว้มาก”                 มู่หลี่เจียงที่คันปากอยากจะเล่า รีบบรรยายความกระตือรือร้นของเหล่าคุณชายที่ส่งคนงานมาเอาอกเอาใจแม่นางเหอจนทำให้การก่อสร้างเสร็จอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้จวิ้นอ๋อง หมิงจิ้นเหอรู้สึกร้อนรุ่มอยากจะเห็นหน้านางทันที รองแม่ทัพมู่เดินนำเขาไปยังโต๊ะด้านในของร้านใหม่ แม่ทัพหนุ่มรูปงามพยายามรักษากริยาไม่ให้ใครจับสังเกตว่า เขาพยายามมองหานาง                 เถ้าแก่เนี้ยเหอจางลี่แต่งกายสวยงามออกมาต้อนรับท่านแม่ทัพด้วยกริยาแช่มช้อย ใบหน้ามีเค้าความงามในวัยสาวฉายชัด “คารวะท่านแม่ทัพ ข้าน้อยเหอจางลี่ภรรยาเถ้าแก่เหอ ท่านแม่ทัพอยากรับประทานอันใดบ้างเจ้าคะ?” นางหันไปรับกาน้ำชาจากเสี่ยวเอ้อที่ยืนรอด้านหลัง หันมาวางตรงหน้าจวิ้นอ๋อง                 “ขออาหารที่ท่านคิดว่ารสชาติดี และที่ข้าไม่เคยชิมมาสักสองอย่าง เจ้าล่ะหลี่เจียงอยากกินอันใด?”                 มู่หลี่เจียงอยากกินเป็ดอบที่เล่าลือกันว่า เป็นเมนูใหม่ รสชาติอร่อย                 “ได้ เจ้าค่ะ” นางหันมายิ้มหวานให้กับรองแม่ทัพมู่                 “เถ้าแก่เนี้ย ท่านสวยสมคำร่ำลือจริงๆ” คราก่อนที่เขามาชมโฉมแม่นางเหอ ไม่มีโอกาสได้สนทนากับสองแม่ลูกเพราะบรรดาคุณชายคอยล้อมหน้าล้อมหลัง                 “ขอบคุณนายท่าน” นางย่อตัวค้อมศีรษะน้อมรับคำชมด้วยท่าทีอ่อนหวานยิ่ง ทำให้จวิ้นอ๋องประหลาดใจ ‘หญิงหัวเมือง นางรู้กริยามารยาทผู้ดีเช่นนี้ด้วย’                 เสียงคุยกันของชายหลายคนดังขึ้น “ท่านแม่ทัพ นั่นมันคุณชายกังจอมเจ้าชู้นี่”                 จวิ้นอ๋องเหลือบแลไปยังกลุ่มคนมาใหม่ คุณชายกังที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่เดินนำหน้าชายฉกรรจ์อีกสามคนมาจับจองโต๊ะ                 อาหารถูกลำเลียงมาวางต่อหน้าจวิ้นอ๋อง เป็ดอบน้ำผึ้งส่งกลิ่นยั่วยวนชวนน้ำลายสอ เขาหยิบตะเกียบขึ้นเตรียมตัวจะชิม ทันใดเสียงหวานใสพลันดัง                 “รอสักครู่สิเจ้าคะ ท่านแม่ทัพ”                 เหอเจียอีในชุดสีแดง ใบหน้าสวยหวานจิ้มลิ้มเดินถือผัดผักตรงเข้ามา หมิงจิ้นเหอเงยหน้าขึ้นสบตาหวานคู่นั้น หัวใจเขาสั่นระริก รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นหยุดในระยะประชิด “ท่านต้องรอผัดผักจานโปรดเสียก่อน”                 จวิ้นอ๋องรู้สึกคล้ายลมหายใจขาดห้วงไปชั่วขณะ แม้จะเจอหญิงคณิกาและบรรดาคุณหนูผู้เลอโฉมมามาก กลับไม่เคยรู้สึกสั่นไหวรุนแรงเช่นนี้    **************************. นิยายชุดนี้เขียนขึ้นทั้งหมด 7 ภาคด้วยกัน (ข้อมูลถึงตุลาคม 2564) ภาค 1 “ท่านอ๋องอย่าคิดหนี”  ภาค 2 “ท่านอ๋องเป็นของข้า” ภาค 3 “ท่านอ๋องกับชายาหมี” ภาค 4 “ท่านหญิงจีจอมพลัง” ภาค 5 “ซือซือฮองเฮาพันโฉม” ภาค 6 “สายลับจับอ๋องใหญ่” ภาค 7 “เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย” ส่วนที่หนึ่ง---พระเอกจากภาค 1 คือ ชินอ๋อง มีน้องชายคือ จวิ้นอ๋อง (พระเอกภาค2 ท่านอ๋องเป็นของข้า) ได้เดินไปแต่งงานกับองค์หญิงจินเฟิ่งที่แคว้นจิน องค์หญิงผู้นี้มีพี่ชายคือ ท่านอ๋องใหญ่ (พระเอกภาค 6 สายลับจับอ๋องใหญ่) ส่วนที่สอง—ชินอ๋องมีน้องชายอีกคนคือท่านอ๋องเก้า (พระเอกภาค 3 ท่านอ๋องกับชายาหมี) และมีพี่ชายเป็นฮ่องเต้ (พระเอกภาค 5 ซือซือฮองเฮาพันโฉม) ตระกูลของฮ่องเต้จะมีองค์ชายสิบห้า (พระเอกภาค 7 เกิดอีกคราเป็นชายา   ตัวร้าย) เป็นเรื่องเกิดต่อจากภาค 5 นะคะ ส่วนที่สาม---นางเอกจากภาค 1 คือ พระชายาฟ่านซิ่วอิง มีพี่ชายเป็นขุนนางชื่อ ฟ่านหลี่เจี๋ย (พระเอกภาค 4 ท่านหญิงจีจอมพลัง)   สำหรับซีรี่ย์แนวเกิดใหม่คือ “เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย” เกิดในยุคต่อจากภาค 5 ซือซือฮองเฮาพันโฉม นับเป็นภาค 7 นะคะ+++
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม