บทที่ 8 คืนนี้เจ้าต้องค้างที่นี่

1323 คำ
                เหอเจียอีอาบน้ำชำระกายอยู่ในเรือนเล็กใกล้ครัวที่ท่านอ๋องทรงจัดไว้ให้นาง เสร็จภารกิจแล้ว หญิงสาวจึงเดินออกไปหน้าประตูใหญ่เพื่อกลับบ้าน                 “แม่นางเหอ หยุดก่อน!” พ่อบ้านเกาเดินตามหลังมา รีบร้องเรียก “มีอันใดหรือท่านพ่อบ้าน” “ท่านอ๋องให้ท่านไปเข้าเฝ้าที่ห้องทรงพระอักษร” “อืม” นางคิดอยู่ครู่หนึ่ง พ่อบ้านเกาทำทีจะเกลี้ยกล่อมนางต่อ เพราะรู้ว่าท่านอ๋องมีท่าทีชมชอบนางอย่างเห็นได้ชัด “ถ้าเช่นนั้น นำทางข้าไปเถิด” พ่อบ้านเกานึกแปลกใจที่นางไม่มีท่าทางประหม่าหรือตื่นเต้นกับการเข้ามาในจวนแม่ทัพครั้งแรก นางเพียงพยักหน้ารับทราบในสิ่งที่พ่อบ้านเกาบอกถึงการปฏิบัติตัวต่อท่านอ๋องในจวนแห่งนี้ ทั้งการใช้คำราชาศัพท์ และการไม่เดินเพ่นพ่านไปในเรือนต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเฉพาะเรือนบรรทมและเรือนทรงพระอักษรของท่านอ๋อง รูปร่างหน้าตาของนางดูราวกับไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป พ่อบ้านเกาอยู่รับใช้ท่านอ๋องมาแต่เล็ก ได้แต่คิดว่า หากบอกว่านางเป็นองค์หญิงหรือคุณหนูสูงศักดิ์สักตระกูลเขาก็พร้อมจะเชื่อ สมควรแล้วที่ท่านอ๋องจะมีท่าทีเฉกเช่นชายหนุ่มยามพบหญิงพึงใจเมื่อมาบอกเขาว่า ต่อไปแม่นางเหอจะเข้ามาทำอาหารที่จวนทุกเย็น พ่อบ้านเกาเดินนำนางไปยังเรือนทรงพระอักษรที่อยู่ถัดจากโถงใหญ่ด้านหน้า    ร่างสูงใหญ่ที่นั่งอ่านเอกสารมากมายบนโต๊ะ เงยขึ้นมาดูนาง “ดึกดื่นป่านนี้แล้ว เจ้ายังคิดจะกลับเรือนอีกหรือ?” “ข้าน้อยเสร็จงานตามที่รับปากท่านอ๋องแล้วนี่ เพคะ” เขาเลิกคิ้ว เมื่อเห็นนางใช้คำราชาศัพท์ ‘ดูท่า พ่อบ้านเกาคงอบรมนางแล้ว’ “ข้าต้องการให้เจ้าค้างที่นี่” เหอเจียอีทำตัวเกร็งแข็งทื่อจนจวิ้นอ๋องอมยิ้ม “เปิ่นหวางหมายถึง ให้เจ้านอนพักที่เรือนเล็ก พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ ค่ำมืดเช่นนี้ข้าไม่อยากให้เจ้าออกไป เขตชายแดนไม่รู้จะมีเหตุอันตรายใด” หญิงสาวค่อยผ่อนลมหายใจ ในอกคล้ายมีกวางน้อยวิ่งพล่านไปทั่ว ‘ท่านเป็นห่วงข้าหรอกหรือนี่?’ “เผื่อเปิ่นหวางหิวตอนดึก เจ้าจะได้มาทำอาหารให้กิน” ประโยคต่อมา ทำเอาเหอเจียอีหน้าบึ้งขึ้นทันใด ที่แท้เขาก็หวังให้นางทำอาหารในยามดึก “ถ้าเช่นนั้น ข้าน้อยไปพักผ่อนได้ใช่ไหมเพคะ?” “ไม่ เจ้าต้องเฝ้าเปิ่นหวางอยู่ที่นี่ จนกว่าจะเข้านอน หากเปิ่นหวางหิวเจ้าก็ต้องไปทำอาหาร หากเปิ่นหวางไม่หิวเจ้าก็นั่งเฝ้าเฉยๆ” หน้าตาเคร่งขรึมเป็นนิจดูจริงจัง น้ำเสียงราบเรียบที่เปล่งออกมา ทำเอาคุณหนูฟ่านแทบจะเอาศีรษะโขกพื้น ‘ท่านอ๋องจอมหื่น ยังจะให้ข้ามานั่งเฝ้าท่านอีก เกินไปแล้วนะ’ นางต้องไปเตรียมตัวทำอาหารที่ร้านแต่เช้า ตกบ่ายก็กลับมางีบหลับเล็กน้อยแล้วเตรียมทำอาหารรอบเย็น นี่ค่ำมาต้องมานั่งเฝ้าท่านอ๋องอีกหรือ? “หรือว่าเจ้าจะเปลี่ยนใจ ชดใช้เรื่องนั้นให้เปิ่นหวาง” เห็นนางเงียบไป แถมยังแอบทำหน้าบึ้ง จวิ้นอ๋องจึงต้องทบทวนความจำให้นางสักหน่อย เหอเจียอีสะดุ้ง “มะ ไม่ เพคะ เฝ้าก็เฝ้า” นางไปหยิบเอาพรมมานั่งอยู่ไกลออกไป พิงหลังกับเสาคอยเฝ้าเขาอ่านหนังสือราชการกองใหญ่ “เปิ่นหวางอยากได้ชาร้อนๆ” เขาเสียงดังกว่าปกติ เมื่อเห็นนางนั่งพิงเสาสัปหงก หญิงสาวรีบลุกออกไปหาชาร้อนมายื่นให้ถึงมือ คล้อยหลังนางเขานั่งอมยิ้ม  พออกพอใจ ความรู้สึกอิ่มเอมที่มีนางมาเฝ้าอยู่ใกล้ๆ “ท่านอ๋องทรงหิวไหมเพคะ?” “ไม่ เจ้าไปนั่งรอก่อน” “เพคะ” นางเดินกลับไปนั่งรอที่มุมเดิม หากแต่คราวนี้กลับง่วงจนทนไม่ไหว ล้มตัวลงนอนตัวงอที่พื้นพรม อ๋องหมิงจิ้นเหอ มองดูนางด้วยสายตาเอ็นดู ‘เจ้าคงเหนื่อยมากล่ะสิท่า แต่ข้าก็ไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆ หรอกนะ’ ท่านอ๋องเดินไปช้อนร่างของนางมานอนที่พรมหนานุ่มใกล้ๆ หยิบหมอนอิงมาสอดรองศีรษะและผ้าห่มมาคลุมร่าง ฤดูนี้อากาศกำลังเย็นสบาย นางพลิกตัวใบหน้าหันมาทางจวิ้นอ๋อง ชายหนุ่มเผลอไผลมองดูใบหน้าของนาง แล้วยื่นใบหน้าไปใกล้ๆ แสงเทียนสะท้อนใบหน้าอ่อนเยาว์งดงาม ท่านอ๋องลืมตัวไปชั่วครู่ โน้มใบหน้าประทับจุมพิตที่แก้มของนาง ‘นุ่มและหอมเหลือเกิน’ พลันนึกขึ้นได้ว่า หากนางตื่นขึ้นแล้วมองว่าเขาเป็นโจรหื่นกามเล่า? จวิ้นอ๋องแข็งใจถอยห่างออกมานั่งมองนางเงียบๆ เขาอยากให้นางเต็มใจมีความสุขด้วยกัน เหอเจียอีนอนตัวแข็ง เมื่อรับรู้ว่าจมูกโด่งของท่านอ๋องฝังลงบนแก้มของนาง ลมหายใจของเขาร้อนผ่าว ตอนที่เขาอุ้มนางมานอนตรงนี้ นางก็ระทึกใจ ไม่รู้เขาคิดจะทำอันใด แม่บ้านเหอสอนนางเรื่องความสัมพันธ์ชายหญิงตั้งแต่นางเข้าพิธีปักปิ่น เรื่องอารมณ์รักใคร่ ไปจนถึงเรื่องบนเตียง กระทั่งแอบเอาหนังสือภาพวังวสันต์ให้นางดูเพื่อนางรู้จักระมัดระวังและหลบหลีกเรื่องเหล่านี้อย่างเหมาะสม เหอจางลี่สอนนางเสมอว่า เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของชายหญิง แต่ต้องอยู่บนกรอบขนบธรรมเนียมด้วย หากท่านอ๋องอยากมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับนาง นางคงต้องดิ้นรนปฏิเสธก่อน นางรู้ว่า การมาที่นี่ต้องใช้เรื่องนี้เป็นเดิมพัน ‘ข้าขอเตรียมตัวเตรียมใจก่อนเถอะนะ หมิงจิ้นเหอ’ จวนจะรุ่งสาง จวิ้นอ๋องเพิ่งออกจากห้องทรงพระอักษรกลับเรือนบรรทม พ่อบ้านเกายิ้มกริ่มเมื่อเดินเข้าไปเห็นแม่นางเหอยังนอนหลับอยู่ในผ้าห่มบนพรมผืนใหญ่ที่ใกล้โต๊ะทำงาน เมื่อคืนท่านอ๋องสั่งให้เขาและบ่าวทั้งหลายไม่ต้องรอรับใช้ ‘อีก  ไม่นานคงจะมีชายาในจวนเป็นแน่’ นางช่างโชคดีนัก เขาที่รับใช้พระองค์มาแต่เล็กแต่น้อยไม่เคยเห็นจะทรงสนพระทัยหญิงใดเป็นพิเศษ “แม่นางเหอ ท่านตื่นแล้วหรือ?” นางงัวเงียลุกขึ้น มองซ้ายมองขวา ขมวดคิ้ว “ท่านอ๋องเพิ่งเสด็จกลับห้องบรรทมไปเมื่อหนึ่งเค่อนี่เอง” “อืม...ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะล้างหน้าตาล้างกลับบ้านก่อนนะ ท่านพ่อบ้าน”                 พ่อบ้านเกาค้อมศีรษะ “เชิญแม่นางตามสบาย” รอยยิ้มที่พ่อบ้านส่งให้นางดูมีเลศนัยจนผิดสังเกต                 ‘ดูท่าท่านพ่อบ้านคงรู้เรื่องดีๆ เยอะเชียวล่ะ ตอนนี้ขอข้ากลับไปจัดการธุระก่อน’                 นางรีบออกไปอาบน้ำที่เรือนเล็ก ดีที่ท่านอ๋องสั่งให้นางกำนัลนางหนึ่งคอยปรนนิบัตินางในฐานะแม่ครัวคนสำคัญ จึงไม่ต้องเตรียมน้ำอาบเอง หญิงสาวได้แช่น้ำอุ่นสบายตัวก่อนออกไปทำงานที่ร้าน                 พ่อบ้านเกาเดินมากำชับนางกำนัล “เจ้าดูแลว่าที่ชายารองให้ดี” ได้ยินเช่นนั้นนางกำนัลถึงกับยิ้มกว้าง การได้ติดตามชายารองย่อมมีโอกาสจะได้รางวัลมากกว่าการดูแลอยู่หลังครัวเช่นนี้ เพราะท่านอ๋องไม่ทรงโปรดให้มีนางกำนัลรับใช้ หญิงสาวที่ทำงานในจวนจึงมีเพียงส่วนที่ดูแลครัวเท่านั้น ที่เหลือล้วนเป็นบ่าวผู้ชาย เมื่อท่านพ่อบ้านรับรองเช่นนี้ โอกาสที่แม่นางเหอจะกลายเป็นชายารองของท่านอ๋องย่อมอยู่ไม่ไกล    ***********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม