มหาลัยปี4 ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ฉันได้มาถึงจุดนี้ ผู้หญิงตัวเล็กๆเพียงคนเดียวไม่มีญาติพี่น้อง พ่อแม่ตายก็เพราะอุบัติเหตุ ตั้งแต่ฉันยังเรียนอยู่ม.ต้น แต่โชคดีที่ยังมีคอนโดและเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตที่ท่านเหลือไว้ให้ พอให้ฉันมีค่าเทอมได้เรียนจนจบชั้นม.ปลาย ถึงจะเรียนไม่ค่อยเก่งแต่ฉันก็ไม่ได้เรียนแย่ขนาดนั้น ด้วยความตั้งใจพยายามเลยสอบชิงทุนจนได้เรียนต่อมหาลัย และสงสัยฉันคงมีบุญเก่าเยอะพอสมควร เลยได้เรียนที่มหาลัยระดับต้นๆของประเทศอีกด้วย^o^
ระว่างที่เรียนฉันเองก็ต้องทำงานหาเงินไปด้วย เพราะค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนฉันต้องเป็นคนจ่ายเอง ทุนที่ได้มาเขาจะช่วยแค่ค่าเทอมเท่านั้น ฟังแล้ว ชีวิตนางเอกชัดๆว่าป่ะ^^
อืม อีกอย่างฉันมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อเฟย์ฟาง บ้านรวย เธอเป็นลูกสาวคนเดียวความเอาแต่ใจเป็นที่สุด แต่ฟางเป็นคนใจดีเธอค่อยช่วยเหลือฉันทุกอย่าง ตั้งแต่เรียนปี1 ยัยเนี้ยชอบพาฉันเที่ยวตลอดแต่ก็นั่นแหละของฟรีมีหรอคนอย่างออนิวจะปฏิเสธ ฮ่า ^-^
@มหาลัย
“จะเอ๋ >•.15.30น…
“มึงวันนี้ไปผับกัน เดียวกูเลี้ยง@เฟย์ฟาง
“แต่กูต้องทำงานมั้ยคร้าาาาา”ฉันมองหน้าฟางแล้วเลิกคิ้วใส่
“ไปที่ ที่มึงทำงานก็ได้ น้าๆๆๆ” ทำหน้าอ้อน เกาะแขนเหมือนเด็กอ้อนแม่ ปกติก็ไม่เคยอ้อนแบบนี้วันนี้มาแปลก ต้องมีอะไรแน่ๆ
“Ok แต่จ่ายค่าเสียเวลาด้วยนะ^^”
ฉันตอบพร้อมยิ้มหวาน ฮ่า ก็คนต้องใช้เงินอ่ะน่ะ ต้องเข้าใจ ยัยฟางทำหน้านิ่ง แต่ก็ฉีกยิ้มเพราะเงินแค่นี้ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งมันร่วงแน่นอน
“2ทุ่มเดียวมารับนะจ้ะ อิหนู”
ฟางบอกหลังจากฉันลงจากรถสปอร์ต ที่มาส่งฉันเกือบทุกวันจนเป็นเรื่องปกติของ รปภ. ที่นี้
…20.45 น. @ผับดัง
“นี้! ถ้าจะแต่งแบบนี้ แกมาคนเดียวก็ได้นะ เเย่งซีนกูหมด @ฟาง ฉันมาในชุดเดรชดำสั้น มีแค่เชือกเส้นเล็กๆคล้องคอ แถมยังเว้าหน้าปาดหลัง เอาดีๆเหมือนปิดแค่หน้าอกกับช่วงล่างที่สั้นแทบจะเห็นกางเกงในตัวจิ๋วแค่นั้น
“แหมมมมม นานๆทีแก ก็ ให้ความสวยของเพื่อนออกมาเฉิดฉายบ้าง โอเค้ ^-^”
เมื่อเราก้าวเข้ามาในผับ ภายในค่อนข้างมืดและมีคนเยอะมากจนไม่รู้ว่ามันจะสนุกตรงไหนวะ เพลงก็ดัง พูดกันก็ไม่รู้เรื่อง ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาและฉันเองก็ทำงานที่นี้ แต่ทำที่หลังร้านงานประเภทล้างจ้านในครัวแล้วก็ออกมาทำความสะอาดหลังผับปิด เลยไม่ค่อยมีโอกาสออกมาเจอบรรยากาศแบบนี้บ่อยๆ
“เอ้า! มึงงงง เดินมา เดียวกูพาไปแอ๋วหนุ่มที่เคาน์เตอร์” ฟางลากแขนฉันมาที่เคาน์เตอร์ มีบาร์เทนเนอหนุ่มหล่อ แบบว่าหล่อมาก ละมุนสุดๆ ฉันตาค้างมองจนยัยฟางกระตุกแขนแรงๆ
“เอ้ย! คนนี้ของกู”
“มึงไปรู้จักเขาตอนไหนวะ” ฉันทำหน้างง เพราะเราอยู่ด้วยกันแทบ24ชม.
“ตอนมึงไม่อยู่ไง” มันทำหน้ากวนตีนสุดๆ
“เอ่อ” ฉันตอบแบบมั่นใส้
“เนี้ยน้องกาย ปี2 คณะไอที มอเรา น่ารัก หล่อลากใส้ไปเลยล่ะ” มันทำน้ำเสียงหวานเยิ้ม สายตาออดอ้อน เห็นแล้วมันน่าหยิกให้เนื้อเขียวจริงๆ เกินงามไปแระยัยเพื่อนคนนี้
“ไหนมึงบอก ผู้(ชาย) อ่ะ ไม่ได้แอ้มมึงไง โฮ้ ขี้โม้วะ”
“ห๊ะ ใคร ไหน ใครพูด ไม่มี้”
“แหม๊ แถ จนถลอกหมดแระย๊ะ”
“ฮ่า ฮ่าาา^-^” พอพูดจบเราสองคนก็ต่างหัวเราะออกมาพร้อมกัน แล้วฟางก็หันไปสนใจน้องกายอีกครั้ง
“ว่าไงคะสุดหล่อ วันนี้ว่างมั้ยคะ ไปต่อที่ห้องพี่ป่ะ @ฟาง ทำตาหวาน ทั้งหยอด ทั้งแซวหนุ่มน้อยที่ชื่อกาย จนไม่เป็นอันสนใจฉัน ส่วนไอ้หมอนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรฟางสักเท่าไหร่ แต่กลับส่งสายตามาทางฉันไม่หยุด แต่อย่างว่า ของๆเพื่อน ฉันไม่ยุ่งค่ะ ถึงจะหล่อก็ตาม^¥^ ฉันยืนมองเพื่อนอย่างยิ้มๆ^-^ แล้วหันกลับมายกแก้วเหล้าดื่มพร้อมกับเต้นโยกย้าย ส่ายสะโพกตามเสียงเพลงที่ดังในผับ
โต๊ะหนุ่มข้างๆ ต่างเดินแวะเวียนมาขอชนแก้วไม่เว้นว่าง แต่แค่ชนนะ เพราะฉันไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นอกจากทำงานหาเงินกับเรียนให้จบเรื่องอื่นก็ไม่เคยอยู่ในหัว สวยมีสมองเลือกได้ก็แบบนี้แระ^^
…01.20น …
อีกไม่ถึงชั่วโมงผับจะปิด สภาพฉันในตอนนี้ แทบจะไม่เหลือสติ ฟางเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ โชคดีที่มีคนขับรถที่บ้านมารับ ส่วนฉันคงต้องนั่งแท็กซี่กลับเอง แต่ตอนนี้ฉันยังนั่งฟุ้บอยู่ที่เดิม ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่แน่ใจพอได้สติก็พยายามพยุงตัวขึ้นจากโต๊ะไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้มีสติกลับคอนโดได้ สังเกตรอบๆก็เห็นว่าคนในผับเริ่มเดินออกไปเกือบหมด เดาได้ว่าผับคงกำลังจะปิด
“ปวดหัวชะมัด ” เสียงบ่นกับตัวเองของร่างที่กำลังเดินเซไปเซมา เบียดพิงกับผนังทางเดินไปห้องน้ำ
“โอ้ย!!” พึ่บ! ว้าย!” ร่างบางของเซไปตามแรงปะทะจนเกือบจะล้ม มือใหญ่ของใครบางคนกระชากแขนเล็กจนเธอรู้สึกเหมือนมันจะหลุดออกจากร่าง แต่พอแหงนหน้ามอง สายตาอันพล่ามัวทำให้การมองเห็นเลือนลางมากขึ้น
“ หึ หึ ว่างายยยสุดหล่อออ กลาบห้องพี่มายจ้ะ รอพี่อยู่ชายมาย เอ้ หน้าคุ้นๆน่ะเรา แต่ .. จำมายได้ ฮ่า~ฮา” @-@
เธอพูดกับใครบางคนตรงหน้าอย่างขาดสติ ใบหน้าหล่อเหลา คมเข้ม ผิวขาวละเอียด ริมฝีปากชมพู ร่างกายสูงใหญ่ ใส่ชุดดำทั้งตัว เขาไม่ตอบอะไร มีเพียงใบหน้าที่นิ่งเรียบ กับความเงียบรอบเท่านั้น มือเล็กกอดคอและเคล้าเคลียแผงอกกว้าง ไม่ได้สนสายตาคู่นั้นที่กำลังจับจ้องเธอไม่วางตา ดวงตากลมมองหน้าเขาสักพัก ก่อนจะค่อยๆยืดตัวขึ้นไปหาใบหน้าหล่อ แล้วจูบที่ริมฝีปากหนา เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรลงไป #.#
“อืม นุ่มจัง ^^ ขอจุ๊บอีกที อ่า นุ่มมาก”
……อุ้บ! อึ้บ อื้อ อื้อ…
ไม่ทันตั้งตัวเสียงอู๋อี้ก็ดังขึ้นในลำคอ
ฉันรู้สึกแสบร้อนที่ริมฝีปาก ลมหายใจติดขัด ลำพังฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็ทำให้ฉันแทบไม่เหลือสติ แถมยังยากต่อการประคองร่าง
ริมฝีบางๆถูกบดขยี้ด้วยปากหนา บี้บดอย่างไม่มีความปรานี มือหนาที่เคยกระชากแขนเล็กของเธอก่อนหน้า ตอนนี้มันเลื่อนมาอยู่ที่เอวของคอดอีกข้างช้อนที่ท้ายทอย ทำให้เธอไม่อาจผละออกได้จนแทบขาดอากาศหายใจ
เหมือนคนตัวโตจะรู้ เขาปล่อยให้อากาศเข้าสู่ปอดของเธออีกครั้ง
“ฮืออออ เฮือกกกก #.#”
“หึ! โทษที่เธอกล้าท้าทายฉัน เธอต้องรับผิดชอบมัน ”
“นี่ หล่อ ขนาดนี้ อึก! อึก! โทษอารายก็ยอม ฮิ้ว~~ #,#”
“เดี๋ยวฉันจะช่วยให้ส่างเมาเองนะสาวน้อย”
เสียงกระซิบข้างหูพร้อมเสียงหัวเราะที่เย็นยะเยือกแล่นผ่านโซนประสาท แต่คนสติเหลือน้อยอย่าง ออนิว มีหรอจะรู้สึกถึงความน่ากลัวนั่น หากแต่สาวน้อยยังใช้สองแขนคล้องคอหนา คลอเคลียจนทุกส่วนในร่างกายของเธอสัมผัสลำตัวหนาและทุกสัมผัสนั้นเขารู้สึกถึงบางอย่างในร่างกายเธอและอยากจะลิ้มรสของมันอย่างหืดกระหาย