เท้าเรียวยืนนิ่งอยู่กับที่ ร่างทั้งร่างแข็งค้าง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง เพราะไม่รู้ว่าอันตรายจะเข้ามาประชิดตัวตอนไหน ความมืดที่โรยตัวลงมาทำให้มองอะไรไม่ถนัด สิตาลมองเห็นแต่เงามืด และได้ยินเสียงใบไม้ปลิวไหวตามแรงลมกับเสียงสัตว์กลางคืนที่เริ่มออกหากิน
ร่างสวยค่อยๆ ขยับเท้าไปข้างหลังอย่างช้าๆ เพราะไม่อยากเป็นเป้านิ่ง เคยได้ยินมาว่าพวกสัตว์ป่าที่ออกหากินกลางคืนสายตาของมันดีมาก คิดแล้วก็อดกลัวไม่ได้ คนที่วิ่งไวกว่าเต่าไม่เท่าไหร่อย่างเธอจะวิ่งหนีมันได้ทันไหม ทว่ายังไม่ทันคิดจบ เสียงสวบสาบคล้ายมีฝีเท้าหนักๆ ย่ำลงบนใบไม้ก็ทำให้ใจดวงน้อยของสิตาลตกไปอยู่ตาตุ่ม
‘เสียงอะไร’
ความหวาดกลัวทำให้สิตาลขาดสติรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต และเจ้าสัตว์ร้ายก็เหมือนจะรู้ว่าเหยื่อรู้ตัวแล้ว เพราะเธอได้ยินเสียงมันไล่ตามหลังมาติดๆ
เท่านี้ สาวเจ้าก็แทบสติแตกส่งเสียงร้องขึ้นอย่างลืมตัว “ช่วยด้วย!! ช่วยด้วยค่ะ!!”
แต่เพราะมองไม่เห็นทาง มีแต่ความมืดเลยทำให้วิ่งได้ช้า ใบหน้าสวยหวานเกี่ยวกับกิ่งไม้จนได้ลิ้มรสเลือด แต่สิตาลไม่รู้สึกเจ็บสักนิด เพราะความหวาดกลัวพุ่งเข้าจู่โจม หญิงสาวไม่รู้ว่าวิ่งไปนานเท่าไร กระทั่งถูกสัตว์ร้ายกระโจนเข้าใส่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ด”
สิตาลหวีดร้องเสียงหลง แล้วเกือบจะเป็นลมแน่นิ่งไปเสียก่อน คิดว่ากำลังถูกขย้ำหากไม่ได้ยินเสียงแข็งกระด้างเหมือนโกรธใครมาพูดตะโกนใส่ด้านหลัง
“อย่าร้อง จะร้องทำไม หรืออยากถูกลากไปกิน”
สิตาลอ้าปากค้างเมื่อหันมาเผชิญหน้ากับเขา
‘คนนี่ ไม่ใช่เสือ’
ทว่าใบหน้าสวยถูกมือหนาหยาบกร้านบีบแก้มไว้ ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี เธอเจอมนุษย์ ไม่ใช่สัตว์ร้าย แต่มนุษย์ประเภทไหน เจอหน้ากันก็จับบีบปากแบบนี้ จนเธอเจ็บบริเวณโหนกแก้มและสันกรามไปหมด ช่างป่าเถื่อน ใจร้าย
สิตาลหยุดร้อง พยายามเพ่งมองคนตรงหน้า แต่ยังไม่เห็นชัดนัก กระทั่งไฟฉายถูกส่องไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง ทำให้มองเห็นใบหน้าของคนที่กำลังคร่อมทับเธออยู่รางๆ แต่จมูกของเขานั้นโด่งจนแทบจะพุ่งชนใส่หน้า
“คุณเป็นใคร”
สิตาลร้องถามออกไป ใบหน้าที่ลอยอยู่เหนือร่างนั้นหล่อเหลา ดิบเถื่อน ดวงตาคมปลาบที่จ้องมองลงมาทำให้หัวใจดวงน้อยเผลอเต้นระรัวอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน หญิงสาวกำลังคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นนายแบบที่หลงป่าเข้ามาหรือเปล่า แม้ว่าใบหน้าเขาจะหล่อจัด แต่สายตากลับไม่เป็นมิตรกับเธอนัก
“ผมเป็นคนที่ถูกส่งเข้ามาตามหาตัวยุ่งอย่างคุณไง”
ชายหนุ่มยังหงุดหงิดไม่หายที่ถูกรบกวนให้เข้ามาตามหานักท่องเที่ยวที่ไม่ยอมอ่านป้าย ฝ่าฝืนกฎ หรืออะไรก็ไม่รู้ละ จนเจ้าหล่อนเตลิดเข้ามาในป่าลึก ทำให้เขาต้องเดือดร้อนดั้นด้นเข้ามาในเส้นทางคับแคบลำบาก และเสี่ยงอันตรายมาลากตัวเธอออกไปก่อนจะกลายเป็นเหยื่อสัตว์ร้าย
“ตัวยุ่ง ฉันเหรอ” สิตาลยังงงๆ อยู่ ใครกันจะอยากหลงป่า เธอกลัวแทบตาย
“เออน่ะสิ” เสียงทุ้มบอกอย่างติดรำคาญ เพราะเขาวิ่งตามเจ้าหล่อนมาไกลมาก
สิตาลโอดครวญ “มาช่วยฉันหรือมาซ้ำเติมกันแน่เนี่ย”
สิตาลเห็นสีหน้า น้ำเสียง และท่าทางที่บ่งบอกว่าคนตัวสูงไม่ได้เต็มใจเข้ามาตามหาเธอเลย พอได้สติแล้วก็รีบยกมือปาดน้ำหูน้ำตาที่ไม่รู้ว่าไหลมาตั้งแต่ตอนไหน อาจจะเป็นเพราะตกใจเมื่อครู่ที่นึกว่าถูกสัตว์ร้ายตามมา
“คุณปราบส่งคุณมาช่วยฉันใช่ไหมคะ คุณคงเป็นพนักงานของที่นี่” เธอเหลือบเห็นเสื้อที่มีโลโก้ของ PP Monster Advance ถึงแม้จะไม่พอใจกับน้ำเสียงและสายตาของเขา แต่เธอก็ไม่อยากหลงอยู่ในป่านี้นานจึงพยายามใจเย็นคุยด้วย
เขาไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับว่าเป็นคนของ PP Monster Advance แค่บอกว่า
“ใช่ คุณปราบส่งผมมาเอาตัวคุณออกไปก่อนที่จะถูกสัตว์ร้ายลากไปกิน”
ราเมศตอบห้วนๆ แล้วส่องไฟฉายไปรอบๆ เพื่อดูว่ามีสัตว์ย่องเข้ามาหรือไม่ ทว่าก็ต้องตกตะลึงเมื่อแสงไฟฉายผ่านหน้าเธอ จึงกวาดมองสำรวจเครื่องหน้าสวยของคนใต้ร่างชัดๆ ใบหน้าสวยหวาน คิ้ว คาง จมูก และปากรับกันอย่างดี ผิวหน้าหมดจดไร้ที่ติ แม้จะซีดขาว เพราะคงหวาดกลัวจากอันตรายเมื่อครู่ แต่ว่าก็ยังดูสวยตรึงตรา ถึงแม้ว่าคู่นอนที่ผ่านมาของเขาล้วนแต่เป็นสาวสวย แต่ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างชวนมองมาก จะเรียกว่าหน้าตาตรงสเปกก็ว่าได้ ทำให้เขาเผลอมองอยู่นาน
นายหัวหนุ่มชะงักเมื่อได้ยินเสียง “ฉันหนัก”
สิตาลหน้าแดงซ่านไปถึงใบหู เพราะร่างที่กำลังบดเบียดกับเธอมีเพียงเนื้อผ้ากั้นกลาง แต่ก็สามารถสัมผัสถึงความกำยำของกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนของเขาได้ มันทั้งตึงแน่นและแข็ง จนต้องผลักเขาออกห่าง
เมื่อราเมศได้สติก็รีบพลิกกายลุกขึ้น ก่อนยื่นมือให้เธอจับเพื่อพยุงตัว แต่ว่าข้อเท้าคนตัวเล็กคงพลิกไป ร่างทั้งร่างจึงเซเข้าปะทะอกแกร่ง
“ว้าย”
ปากอิ่มปะทะเข้ากับปลายคางบึกบึนอย่างจังยังกับละครที่จงใจเขียนบทให้พระนางได้มีฉากฟิน แต่เอาจริงๆ เธอไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้สักนิด สิตาลเบิกตากว้างด้วยความตกใจแกมประหม่า
“ขอ...โทษค่ะ” น้ำเสียงสั่นพร่าประหม่าไปหมด
ส่วนนายหัวราเมศก็มือไวใช้ได้ เขารีบโอบเอวเธอไว้แน่น แล้วดึงเข้าไปแนบอก ก่อนจะย่อรับตัวเธอที่ทรุดลง คราวนี้ปากเลยประกบกันพอดี แม้ชายหนุ่มจะเคยถูกผู้หญิงแอบฉกจูบบ่อยๆ แต่ช็อตเมื่อครู่ยอมรับว่า ถ้านี่ไม่ใช่กลางป่า แล้วหล่อนเป็นผู้หญิงที่ยินยอมพร้อมขึ้นเตียงกับเขา มันคงจะไม่จบแค่การจูบแน่ แม่สาวคนนี้เป็นแม่มดหรือไง เธอทำให้ร่างกายของเขาแสดงปฏิกิริยาบางอย่าง จนเวลานี้ภายใต้กางเกงยีนที่ดูธรรมดาแต่ราคาโคตรแพง มันปวดเกร็งไปหมด
“จะร้องดังทำไมเนี่ย แค่ปากชนกัน อย่างอื่นชนกันก็ว่าไปอย่าง หรืออยากเรียกเพื่อนคุณให้มาหาหรือไง” ราเมศดุเสียงเขียว
“เพื่อนอะไร มีเพื่อนฉันหลงป่าด้วยเหรอคะ” เธอเข้าใจแบบนั้นจริงๆ
เขาเลิกคิ้วในความมืด ผู้ชายคนนี้อยู่ใกล้แล้วร้อนมาก สิตาลรีบดึงสติตัวเอง จากนั้นก็รีบกระถดตัวออก ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอาย และยังดีที่มืดมากจนทำให้ไม่เห็นสีหน้าของกันและกัน
“ฉันตกใจนี่คะ แล้วอีกอย่าง คุณว่าฉันเรียกเพื่อน เพื่อนอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
“ก็เพื่อนสี่ขา มีเขี้ยว มีลายพาดกลอนที่ตัวไงล่ะ ใช่เพื่อนคุณไหม เพื่อนตัวนี้แหละ มันคงอยากหาคุณให้เจอ จะได้ชวนไปเล่นซ่อนหาในท้องมัน” เขายักคิ้วถามกวนๆ พลางอดคิดถึงสัมผัสนุ่มละมุนมือเมื่อกี้ไม่ได้
ผู้หญิงบ้าอะไรตัวนุ่ม แถมหอมกรุ่นไปทั้งตัวอีก น่ากดลงบนเตียงเป็นบ้า
‘ห่าเอ๊ย นี่เรากำลังคิดอะไรอยู่วะ’ คนตัวโตโมโหความคิดตัวเอง
“บ้าสิคุณ ใครจะมีเพื่อนเป็นเสือ ฉันไม่อยากไปเล่นซ่อนหาในท้องมันหรอก”
“งั้นก็เงียบๆ ไว้ อย่าส่งเสียงดังอีก”
“ฉันเข้าใจแล้ว” สิตาลตอบรับเสียงแผ่วเบา ก่อนจะมองไปรอบๆ นอกจากเขาแล้วเธอก็ไม่เห็นใคร “แล้วนี่คุณเข้ามาคนเดียวเหรอคะ แล้วเราจะออกไปได้ไหม ฉันกลัว”