พระเอกงี่เง่า

2107 คำ
“ออกไปให้พ้น!! ออกไป!!!!” เสียงตวาดดังขึ้นพร้อมปัดป่ายมือของตนไปมาอย่างบ้าคลั่ง กระทั่งไปปัดโดนชามข้าวที่หญิงสาวถือเข้ามาให้ เสียง เพล้ง! ดังเส้นความอดทนขาดผึง แม้จะเข้าใจว่ามู่เหวินจิ้งป่วยทั้งยังเสียใจที่ตนเองกลายเป็นชายพิการตาบอด แต่อารมณ์โมโหร้ายของเขาก็ยากเกินจะรับมือไหว หญิงสาวไม่อยากสนใจชายผู้นี้อีกแล้ว จึงหมุนตัวและรีบเดินออกมาจากเรือนโดยเร็ว เขาทำนางอารมณ์เสียถึงขีดสุด ไม่แม้อยากจะหันกลับไปมองหน้าเสียด้วยซ้ำ แค่ทะลุมิติมาอยู่ในหนังสือนิยายก็แย่พออยู่แล้ว ไหนเลยยังเป็นเรื่องรันทดชีวิตเช่นนี้อีก เมื่อคิดว่าในภายหน้าตนเองจะมีจุดจบเช่นไรก็ทำหญิงสาวรู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วร่าง อวี่เยียน... คือชื่อของข้าสินะ นางยังจำวันแรกที่ตื่นขึ้นมาที่โลกนี้ได้ดี สตรีแปลกหน้าหลายคนร่ำไห้ปานขาดใจ ยืนส่งนางอยู่หน้าประตูพระราชวัง บ้างเข้ามากอด บ้างเข้ามาอวยพร รักษาเนื้อรักษาตัว ดูแลพระวรกายด้วยนะเพคะ ขอให้ทวยเทพอวยพร คุ้มครองพระองค์ด้วย หากสวรรค์มีฟ้า สักวันองค์หญิงจะต้องได้กลับมาแน่นอนเพคะ พวกหม่อมฉันน้อมส่งเสด็จองค์หญิงอวี่เยียน ชัดเลย...ฉากนี้เป็นฉากในนิยายเรื่อง อวี่เยียน โฉมสะคราญล่มบัลลังก์ไม่ผิดแน่ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจก่อนดี ได้ทะลุมิติมาเป็นนางเอก สตรีโฉมสะคราญงามล่มเมือง บุตรีเพียงคนเดียวขององค์จักรพรรดิ ได้สามีเป็นถึงขุนนางใหญ่อนาคตไกล ใบหน้าหล่อเหลาเกินบรรยาย ชีวิตแสนสุขเสียเหลือเกิน ถ้าไม่นับรวมเรื่องราวดรามาที่ถูกแต่งเติมจนไม่เหลือซึ่งความสุขใด หญิงสาวปล่อยใจไปกับความคิดฟุ้งซ่าน ขณะแบกตะกร้าผ้าไปที่ลำธารและเหม่อมองเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ในน้ำ ใบหน้านิ่งเฉยราวกับแฝงไปด้วยอดีตอันขมขื่น หากแต่บริสุทธิ์งดงามชวนมองให้หลงใหล ผิวขาวผุดผ่องราวหิมะแรกของฤดูหนาว ดวงตากลมโต หางตาเรียวยาวตวัดขึ้นดุจกลีบดอกท้อชวนฝัน ริมฝีปากบางชมพูเรื่อดูน่าทะนุถนอมไร้เดียงสายิ่ง ถ้าเอาตามที่บรรยายไว้นิยาย คนแต่งเปรียบความงามนี้เป็นดั่งดอกหมู่ตานที่ผลิบานในช่วงฤดูร้อน หวาน หอม บริสุทธิ์และสูงค่า เทียบกับร่างของตัวเองในภพที่จากมาก หญิงสาวทั้งเฉิ่มทั้งเชย วันๆ คิดแต่อยากจะรีบเรียนให้จบเพื่อจะได้ออกมาทำงานหาเลี้ยงตัว แม้จะไม่มีเงินให้จ่ายมากนักแต่ก็มีความฝันอยากจะเดินทางไปเที่ยวรอบโลก สุดท้ายหลังจากเรียนจบ ก็ขอทำตามความฝันเล็กๆ ล่องเรือไปอยู่กลางมหาสมุทร ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ด้วยความที่งบมีจำกัด จึงมีเลือกตัวเลือกไม่มากนัก ครั้นจะฉายเดี่ยวก็น่ากลัวเกิน หวยเลยไปลงกับทัวร์นรกแตก ทัวร์ติดสปีดที่ทุกอย่างเร่งรีบและขาดการรัดกุม ไม่มีการรักษาความปลอดภัยหรือบริการที่ดี ให้อารมณ์เหมือนพาสุนัขไปเดินเล่นมากกว่า ปล่อยให้วิ่งครู่หนึ่ง เป่านกหวีดและใส่สายจูงลากไปลากมา ไม่รู้ป่านนี้หัวหน้ากลุ่มทัวร์จะสังเกตเห็นหรือไม่ว่ามีใครคนหนึ่งหายไป หรือต้องรอให้ศพของหญิงสาวผู้โชคร้ายขึ้นอืดก่อนจึงจะนึกออก คงเป็นข่าวดังในโลกอินเทอร์เน็ตเป็นแน่ พบสาวนิรนามขึ้นอืดกลางมหาสมุทร ไร้คนเหลียวแลหรือญาติที่จะมาติดต่อรับศพ... น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าพลันร่วงหล่น ความรู้สึกอ้างว้างถาโถมเข้าใส่ทำใจดวงน้อยสั่นไหวรุนแรง คิดถึงบ้านเหลือเกิน...แต่ว่า คงไม่มีโอกาสได้กลับไปอีกแล้ว เวลาผ่านไปนานจวบจนตะวันใกล้จะลาลับขอบฟ้า หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาของตัวเองพลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามทำใจให้สงบและยอมรับกับโชคชะตาที่เกิดขึ้นให้ได้ สองมือยกตะกร้าผ้าที่ซักเสร็จแล้วขึ้นมา แล้วเดินตรงกลับไปยังเรือนที่พักของตน เนื่องจากเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางป่าเขา เรือนที่เช่าอยู่จึงค่อนข้างเก่าและทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ทว่าอวี่เยียนก็พยายามซ่อมแซมจนข้างในตัวเรือนสะอาดสะอ้านเรียบร้อยน่าอยู่ขึ้น หลังจากผลักประตูบานใหญ่เข้าไปในลานเรือน ฝั่งซ้ายจะเป็นเรือนนอนแบ่งเป็นห้องใหญ่หนึ่งห้องซึ่งอวี่เยียนใช้รับประทานอาหารและนั่งเล่น ห้องเล็กสองห้องสำหรับห้องนอนและห้องเก็บของ ห้องครัวยื่นออกมาจากตัวเรือนเล็กน้อย ถัดออกไปทางด้านหลังของเรือน มีที่ดินแปลงเล็กเหลืออยู่ อวี่เยียนจึงนำไว้ใช้ปลูกผักเพื่อกินประทังชีวิตและอีกส่วนเก็บไว้ขาย โชคดีที่ก่อนออกจากวัง แม่นมที่เลี้ยงดูอวี่เยียนมาตั้งแต่เกิดแอบซ่อนเงินจำนวนหนึ่งไว้ในห่อผ้าของนาง อวี่เยียนจึงพอมีเงินที่จะตั้งหลักได้บ้าง “ใคร!!” หญิงสาวที่ผลักบานประตูเข้ามาได้แต่ถอนหายใจอย่างเอือมระอา “เจ้าหิวหรือไม่ ให้ข้าไปต้ม...” “ไม่!! ออกไป!!” หญิงสาวทำเป็นหูทวนลม ก่อนนั่งลงที่โต๊ะกลางห้อง ยกกาน้ำชารินใส่ถ้วยและจิบให้พอชุ่มคอ “ที่นี่คือบ้านของข้า เจ้าจะให้ข้าไปที่ไหน...อีกอย่างตอนนี้ฟ้าก็ใกล้จะมืดแล้วด้วย” แม้จะยังไม่คุ้นชินกับวิถีชีวิตและคำพูดของคนที่นี่ แต่ด้วยความเป็นแฟนพันธุ์แท้นิยายจีนโบราณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปจึงไม่ใช่เรื่องยาก “กล้าต่อปากต่อคำกับข้าเชียวหรือ เจ้าไม่รู้หรือไงว่าข้าเป็นใคร!!” “แล้วเจ้าเล่า รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร” หญิงสาวยอกย้อนทันควัน ทำบุรุษนิ่งงันไปชั่วขณะ นึกสงสัยว่าสตรีผู้นี้เป็นใคร ไยกล้าต่อปากต่อคำกับเขาเยี่ยงนี้ “ข้ามีนามว่าอวี่เยียน บังเอิญไปพบเจ้านอนหายใจพะงาบๆ อยู่กลางป่า นึกสงสารจึงพามาดูแลรักษา ไม่นึกว่าจะทำคุณบูชาโทษ ฟื้นคืนสติก็ตวาดด่าไม่หยุดปากเช่นนี้ มันน่าปล่อยให้นอนตายอยู่ตรงนั้นเสียจริง” หากเป็นอวี่เยียนตามต้นฉบับคงจะอ่อนโยนและพูดจานุ่มละมุนหูกว่านี้ แต่กับอวี่เยียนคนนี้... หึ! คนนิสัยเสียดุร้ายเช่นนี้มันต้องสาดด้วยน้ำร้อนให้หายบ้าถึงจะถูก และก็เป็นจริงดังคาด บุรุษนั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ แม้ดวงตาจะจ้องเขม็งมาทางนาง ทว่ากับหม่นหมองไร้ซึ่งจิตวิญญาณ อวี่เยียนลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมาอยู่สองสามทีก่อนจะลุกขึ้นออกจากห้องและตรงไปเตรียมอาหารในครัว อวี่เยียนไม่ใช่คนที่ชำนาญในการทำอาหารมากนัก ส่วนใหญ่ที่ทำก็จะเป็นจำพวกอาหารง่ายๆ อาหารจานด่วน หรือแค่เข้าไมโครเวฟหรือใส่น้ำร้อนก็กินได้เลย ฉะนั้นการต้องมาก่อไฟทำอาหารราวกำลังเข้าค่ายลูกเสือจึงสร้างความลำบากแก่อวี่เยียนผู้นี้ไม่น้อย โชคดีที่บุรุษตาบอด ไม่งั้นเขาคงคิดว่าหญิงสาวจงใจจะฆ่าตนด้วยอาหารหน้าตาพิลึกพิลั่นเป็นแน่ อวี่เยียนตักข้าวต้มใส่ถ้วยให้มู่เหวินจิ้งโดยเลือกเฉพาะส่วนที่สุกเพื่อไม่ให้เขาท้องร่วงหรือเกิดท้องอืดจนล้มป่วยหนักกว่าเดิม “พรุ่งนี้จะเป็นวันที่พ่อค้าปลาจะผ่านมาทางนี้ ข้ามักจะนำผักที่ปลูกเองไปแลกกับปลาของเขาอยู่บ่อยๆ วันนี้เจ้าก็ทนกินผักกับผลไม้ไปก่อนก็แล้วกัน” “ข้าไม่หิว” “ไม่หิวก็ต้องกิน ไม่เช่นนั้นเมื่อไรเจ้าจะฟื้นตัวเล่า ข้าแบกเจ้าไปหาหมอในเมืองไม่ไหวหรอกนะ เจ้าต้องไป...” “ไปหาแล้วจะมีประโยชน์อันใด! ข้าจะกลับมามองเห็นได้อย่างนั้นหรือ” อวี่เยียนเม้มปาก นางรู้ว่าในภายหน้ามู่เหวินจิ้งจะต้องกลับมามองเห็นแน่ และเป็นนางที่สามารถช่วยเขาได้ “ต้องมีทางแน่ หากเจ้ายังไม่หมดหวัง อย่างไรก็ต้องมีทาง” มู่เหวินจิ้งนิ่งเงียบ ก่อนจะเอื้อมมือออกมาเพื่อรับชามข้าวต้มจากอวี่เยียน หญิงสาวยกยิ้มอย่างยินดี นางคีบผักต้มใส่ลงจำนวนหนึ่ง เป่าสองสามทีก่อนยื่นให้เขากิน แต่ครั้นตักข้าวเข้าปากก็เปรอะเปื้อนไปเสียหมด อวี่เยียนที่เห็นก็อาสาจะป้อนเขาแทน แต่บุรุษที่เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีไม่ยอมง่ายๆ ยังคงดื้อตักข้าวเข้าปากไม่หยุด อวี่เยียนลอบหัวเราะ นางรอจนมู่เหวินจิ้งกินเสร็จจึงเก็บถ้วยชามไปล้างทำความสะอาด พลางต้มน้ำร้อนใส่ถังใบใหญ่และผสมน้ำเย็นลงไปครึ่งหนึ่ง จากนั้นค่อยยกเข้ามาในห้อง นำผ้าสะอาดมาจุ่มพร้อมมิดให้พอหมาด “เจ้าจะทำอะไร!!” มู่เหวินจิ้งสะดุ้งตัวโหยงทันทีที่รู้สึกว่ามีบางอย่างมาสัมผัสโดนใบหน้า เขารีบปัดมือของอวี่เยียนออกและตะโกนด่านางเสียงดัง “เจ้าจะโวยวายอะไรหนักหนา ข้าเพียงจะเช็ดตัวให้” “ไม่ต้อง!! อย่ามาแตะต้องตัวข้า” “อย่าเยอะได้หรือไม่ แค่เช็ดตัวเอง” อวี่เยียนเดินเข้าไปใกล้ พยายามจะถอดเสื้อตัวนอกของมู่เหวินจิ้งออก แต่แล้วกลับถูกฝ่ามือใหญ่ผลักออกจนแทบจะกระเด็นไปติดผนังอีกข้าง “สตรีไร้ยางอาย!!” อวี่เยียนพ่นลมหายใจ เหลือบตามองมู่เหวินจิ้งด้วยความโมโห “นี่!! เป็นอะไรของเจ้า ข้าเพียงจะเช็ดตัว ไยต้องกระทำรุนแรงเช่นนี้ด้วย” “เจ้าเป็นหญิง ข้าเป็นชาย ไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวหรือใกล้ชิดกัน” โอ๊ยยยย อยากจะบ้า สภาพเป็นอย่างนี้แล้วยังจะห่วงค่านิยมหญิงชายอีก “จะบอกให้นะ ตอนเจ้าหมดสติข้าก็เช็ดให้เจ้าทุกซอกทุกมุม เห็นทุกสิ่งอย่างหมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด” มู่เหวินจิ้งนิ่งอึ้งในทันที ใบแดงแดงเรื่อด้วยความอับอาย อะไรคือไม่มีอะไรน่าสนใจ... นี่นางกำลังหยามข้าอยู่ใช่หรือไม่! หรือสตรีผู้นี้จะเป็นหญิงสูงอายุที่ออกเรือนแล้ว แต่คงไม่ใช่ เพราะสุ้มเสียงนั่นฟังดูอ่อนเยาว์ราวเพิ่งผ่านวัยปักปิ่นมาได้ไม่นาน “ตามใจเจ้า งั้นก็จัดการตัวเองแล้วกัน” อวี่เยียนยัดผ้าเปียกใส่มือของมู่เหวินจิ้งก่อนจะหมุนตัวเดินเชิดหน้าออกไป เมื่อได้ยินเสียงปิดประตู สีหน้าที่เคร่งขรึมของมู่เหวินจิ้งก็เริ่มคลายลง โดยนิสัยส่วนตัวเขาไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัวหรือกระทั่งสัมผัสของใช้ส่วนตัวของเขา กระทั่งบ่าวรับใช้ที่จวนยังต้องเว้นระยะห่างและไม่เข้าใกล้เขาหากไม่ได้รับอนุญาต แล้วสตรีผู้นี้กล้าดีอย่างไรมาสำรวจร่างกายของเขาตามใจชอบ!! มู่เหวินจิ้งค่อยถอดเสื้อของตนออก มือคว้านหาถังน้ำที่อวี่เยียนเอามาวางไว้ให้ ก่อนจุ่มผ้าและยกขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดร่างกายตน แต่เพราะมองไม่เห็นและลงน้ำหนักมือมากเกินไป ทุกครั้งที่เช็ดถูกแผลจึงรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก รอยยิ้มกรุ้มกริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอวี่เยียน ที่ซึ่งตอนนี้นั่งเท้าคางมองมัดกล้ามบนร่างกายของชายหนุ่มอย่างอารมณ์ดี แม่นางจิ้งจอกสาวแสร้งว่าเดินออกไปนอกห้อง ทว่าอันที่จริงกลับนั่งยิ้มตาเป็นประกายอยู่ที่โต๊ะต่างหากเล่า สมแล้วที่เป็นพระเอกของเรื่อง ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ดูน่ากินไปเสียหมด ยามนี้ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มแดงก่ำ ฟันซี่สวยขบเข้าหากันแน่น อกแกร่งไหวกระเพื่อมก่อนเขาจะเงยหน้าขึ้นหอบหายใจ พลางกลืนน้ำลายลงคอด้วยสีหน้าทุกข์ทรมาน ลูกกระเดือกที่เห็นเด่นชัดกำลังเคลื่อนที่ขึ้นลงช้าๆ ให้ตายสิ! ดูเซ็กซี่เกินไปแล้ว!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม