ทันทีที่เครื่องบินลงจอดยังสนามบินในเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เอเรนอสก็รีบขึ้นรถตรงดิ่งมาที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนใจเพราะไม่รู้ว่าน้องชายคนเดียวอาการเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้
“สวัสดีครับ คุณเอริค” แรนดอลพี่ชายฝาแฝดของเรนเดลโค้งคำนับให้กับเจ้านายที่ไม่ได้เจอกันนานนับเดือนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“เอนาสเป็นยังไงบ้าง” ชายหนุ่มเดินมาที่ห้องพักของน้องชายจากการนำทางของเรนเดลแล้วถามอาการของคนป่วยจากคนที่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วง
“คือ คุณเอริคเข้าไปดูเองดีกว่าครับ” บอดี้การ์ดของน้องชายเริ่มหน้าซีดขึ้นมาเมื่อรู้ว่าไม่กี่นาทีข้างหน้าต้องมีระเบิดลงแน่
“อาการหนักมากเลยเหรอ” ชายหนุ่มไม่รอช้า รีบผลักประตูเข้ามาในห้องพักฟื้นระดับวีไอพีที่มีการแบ่งทุกอย่างไว้อย่างชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งขนาดของห้องใหญ่เท่าคอนโดก็ว่าได้
“อ้าว มาถึงแล้วเหรอพี่ชายสุดที่รักของเอนาส” เอเรนาสทักทายพี่ชายด้วยรอยยิ้มละไม แล้วหยิบผลไม้เข้าปากอย่างอารมณ์ดีที่สามารถทำให้พี่ชายเดินทางกลับมาหาตนเองได้ในเวลาอันรวดเร็วแบบนี้
“หมายความว่ายังไง ไหนบอกว่าเกิดอุบัติเหตุ” เอเรนอสพยายามระงับอารมณ์โกรธของตนเองเมื่อเห็นน้องชายไม่ได้เป็นอะไรมากมายอย่างที่คิด แสดงว่าเขาโดนหลอกสินะ
“รถชนมาจริง ๆ แต่หัวแตกนิดหน่อยเท่านั้นเอง” เอเรนาสตอบพี่ชายแบบสบาย ๆ ไม่ได้สนใจความโกรธของเอเรนอสเลยสักนิด เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าพี่ชายโกรธตนเองได้ไม่นานเดี๋ยวก็หาย
“แค่นี้! แค่หัวแตกทำไมต้องบอกอยู่ในห้องไอซียูด้วยไอ้นาส”
เอเรนอสระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างหัวเสียที่โดนน้องชายกลั่นแกล้ง เขาอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาด้วยความเป็นห่วง
“โธ่ พี่เอริค ก็พี่ปล่อยให้ผมทำงานอยู่คนเดียว ถ้าไม่บอกแบบนี้พี่จะกลับมาไหม ไหน ๆ พี่ก็กลับมาแล้ว ช่วยอยู่ทำงานให้หน่อยสิ”
“ก็ได้ แต่ช่วงนี้เท่านั้นเพราะฉันต้องรีบกลับเมืองไทย”
“ทำไมต้องรีบไป มีอะไรดี ๆ อยู่ที่นั่นเหรอ”
“หึหึ ดีสิดีมากด้วย” เอเรนอสตอบน้องชายด้วยรอยยิ้มเมื่อคิดถึงคนที่อยู่อีกประเทศแล้วนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้โทร. หาเธอเลยจึงรีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเธอทันที
เอเรนอสนั่งคุยกับนัดดาอยู่บนโซฟาเป็นชั่วโมง ๆ ทำให้เอเรนาสที่นอนอยู่บนเตียงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าพี่ชายของตนเองกำลังมีความรักแน่ ๆ คุยไปยิ้มไปแบบนี้ เห็นทีเขาต้องโทร.บอกเรื่องนี้ให้บิดามารดารู้ พวกท่านจะได้ดีใจที่กำลังจะมีลูกสะใภ้ จะได้มีหลานมาวิ่งเต็มบ้านอย่างที่ต้องการเสียที
หลังจากที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจนหายดี เอเรนาสก็เดินทางกลับมายังคฤหาสน์ของตนเองเพื่อรอคอยบิดามารดากลับมาจากการไปเที่ยวรอบโลก
เขาได้โทร.บอกพวกท่านเกี่ยวกับเรื่องของพี่ชายแล้ว ซึ่งคุณอิรินัสกับมาดามแมรี่ก็ดีใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายคนโตกำลังมีความรัก จึงนัดแนะกันว่าจะไปหาชายหนุ่มที่เมืองไทย เพราะตอนนี้เอเรนอสกลับประเทศไทยไปแล้ว พวกเขาจะไปโดยไม่บอกล่วงหน้าแบบเซอร์ไพรส์เพื่อไปดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่คิดนั้นเป็นความจริง
“สวัสดีครับมัม คิดถึงจังเลย”
เมื่อมาดามแมรี่เดินทางกลับมาถึงคฤหาสน์ลูกชายคนเล็กจอมกะล่อนก็รีบวิ่งมากอดพูดจาประจบประแจงออดอ้อนอย่างเช่นทุกครั้ง
“จ้า ๆ มัมก็คิดถึงลูกชายคนเล็กของมัมเหมือนกัน” มาดามแมรี่กอดตอบลูกชายที่ชอบทำตัวเหมือนเด็กด้วยความเอ็นดู ต่างจากคุณอิรินัสที่ยืนมองการกระทำของเอเรนาสด้วยความหมั่นไส้
“พอแล้วเอนาส แด๊ดว่าเราเข้าไปนั่งคุยถึงเรื่องเอริคดีกว่า”
“หวงเมียจริง ๆ เลยแด๊ด”
“หึหึ เอาไว้แกมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วแกจะรู้”
“ฮ่า ๆ ๆ ไม่มีทาง ผมบอกแล้วไงชีวิตนี้จะไม่แต่งงานจะอยู่โสด ๆ แบบนี้ ดีที่สุด”
“จ้า แล้วมัมจะคอยดูนะลูก เข้าไปข้างในเถอะจ้ะทุกคน”
มาดามแมรี่ส่ายหัวให้ลูกชายคนเล็กที่มั่นอกมั่นใจมากว่าตนเองจะไม่แต่งงาน จากนั้นก็เดินนำทุกคนไปห้องนั่งเล่นเพื่อปรึกษาเรื่องที่จะเดินทางไปเซอร์ไพรส์ลูกชายคนโต
ทั้งสามคนสรุปว่าจะโทร. ไปสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ กับเรนเดล
ก่อนแล้วค่อยเดินทางไปหาเอเรนอส
“ขอบใจมากนะจ๊ะ เรนเดล” มาดามแมรี่ยิ้มจนหน้าบานเมื่อสามารถบังคับให้ลูกน้องคนสนิทของลูกชายคายความจริงออกมาจากปากได้ทั้งหมด
“ครับมาดาม แต่อย่าบอกคุณเอริคนะครับว่าผมเป็นคนพูดเรื่องของคุณนัดดา” เรนเดลพูดออกมาด้วยความกังวลกลัวเอเรนอสจะรู้ว่าตนเองเป็นคนแพร่งพรายเรื่องของนัดดา
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ถ้ามีอะไรฉันรับผิดชอบเอง”
“ครับ มาดาม”
เมื่อวางสายการสนทนาเรียบร้อย มาดามแมรี่ก็รีบเล่าเรื่องที่รู้มาให้สามีกับลูกชายคนเล็กฟัง ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจแล้วสั่งให้แรนดอลจัดการเรื่องเครื่องบินโดยด่วน เพราะพวกเขาจะเดินทางไปหาเอเรนอสเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ประเทศไทย
สามคนพ่อแม่ลูกนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วเดินทางต่อด้วยรถตู้เพื่อไปยังเพนต์เฮาส์ของเอเรนอส โดยไม่ได้โทร. มาแจ้งกับชายหนุ่มตามที่ตั้งใจเอาไว้
ทางด้านเอเรนอสหลังจากที่ตื่นขึ้นมาอาบน้ำเพื่อไปเที่ยวทะเลตามความต้องการของเมียสาว แต่ยังแต่งตัวไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงกริ่ง หน้าห้องดังเสียก่อน ทั้ง ๆ ที่ชั้นนี้ไม่มีใครขึ้นมานอกจากเรนเดลกับพวกบอดี้การ์ด
ชายหนุ่มจึงเดินออกมาเปิดประตูห้องด้วยความสงสัย อยากรู้จริง ๆ ว่าใครกันที่กล้ามากวนเวลาของเขากับนัดดาตั้งแต่เช้า แล้วทำไมพวกบอดี้การ์ดถึงปล่อยให้ขึ้นมาบนนี้ได้
“เซอร์ไพรส์!”
“มัม แด๊ด ไอ้นาส!” ทันทีที่ชายหนุ่มเปิดประตูเหล่าคนที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ร้องเฮเซอร์ไพรส์ขึ้นมา เอเรนอสตกใจไม่น้อยที่เห็นครอบครัวของตนเองมายืนอยู่หน้าห้องครบทีมแบบนี้ เขายังไม่ได้บอกใครเลยว่ากำลังคบหากับนัดดา และอีกอย่างเมียสาวก็อยู่ในห้องนอนด้วย กลัวคนในครอบครัวจะไม่ยอมรับเธอ
“เซอร์ไพรส์ ลูกรัก มัมคิดถึงลูกชายคนโตจังเลย”
มาดามแมรี่เดินเข้ามากอดลูกชายคนโตด้วยความคิดถึงพร้อมกับใช้สายตากวาดไปมองรอบ ๆ ห้องของลูกชายอย่างจับผิด
“ผมก็คิดถึงมัมครับ”
เอเรนอสสวมกอดมารดาแล้วส่งสายตาพิฆาตไปให้น้องชายที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ข้าง ๆ บิดา ชายหนุ่มคิดว่าต้องเป็นฝีมือน้องชายแน่นอน
“ไม่คิดถึงแด๊ดบ้างเหรอ ลูกชาย” คุณพ่อยังหล่ออย่างคุณอิรินัส เอรีสัน เอ่ยขึ้นมาบ้างหลังจากที่เห็นแม่ลูกกอดกันกลม
“โธ่ คิดถึงครับ ผมคิดถึงทุกคนแหละ” เอเรนอสเดินไปกอดบิดาบ้างเพื่อไม่ให้ท่านงอนตนเอง
“เข้าห้องกันดีกว่านะจ๊ะทุกคน” มาดามแมรี่เรียกลูกกับสามีให้เดินเข้าไปในห้องรับแขก แต่ก็ไม่วายหันไปมองรอบห้องด้วยความสนใจเผื่อจะเจออะไรที่ผิดสังเกต
“พี่เอริค ใครมาหรือคะ” หญิงสาวส่งเสียงถามชายหนุ่มจากห้องนอนทำให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกหันไปมองหน้าเอเรนอสเป็นตาเดียว
“ใครอยู่ในห้องของลูก เอริค” มาดามแมรี่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ถามลูกชายคนโตเสียงเขียว ทั้ง ๆ ที่เธอกับทุกคนรู้เรื่องของนัดดาหมดแล้วจากคำบอกเล่าของเรนเดลที่ถูกเอเรนาสบังคับให้พูดออกมา
“นั่นสิ พี่ซ่อนใครไว้ในห้อง บอกมานะ” เอเรนาสหันไปสบตามารดาจึงร่วมเล่นละครตบตาพี่ชายด้วยอีกคนจนคุณพ่อยังหล่ออย่างคุณอิรินัสแทบจะกลั้นขำไม่ไหวเมื่อเห็นลูกชายคนโตหน้าซีดเผือด ทำอะไรไม่ถูก
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ” นัดดาเห็นชายหนุ่มเงียบไปจึงเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อมาตามเอเรนอสให้กลับไปแต่งตัว จะได้ไปรับนิสาแล้วไปเที่ยวเกาะกันเสียที แต่เธอก็ต้องตกใจแทบผงะเมื่อเห็นใครไม่รู้มาอยู่ในห้องรับแขกจึงยกมือขึ้นมาขอโทษขอโพยที่เสียมารยาท
“หนูเป็นใคร มาอยู่ในห้องลูกชายฉันได้ยังไง”
มาดามแมรี่ถามนัดดาเสียงเขียว มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความพึงพอใจ แต่ไม่ได้แสดงออกเพราะต้องการแกล้งเอเรนอส
“คือหนูเป็น เอ่อ / เป็นเมียผมเอง” คนตัวเล็กหลุบตามองพื้นจับมือกันแน่นไม่กล้าจะพูดออกมาจนเอเรนอสต้องเป็นคนบอกเอง
“เมีย! / เมีย! / เมีย!”
คำตอบที่ถูกเปล่งออกมาจากลำคอแกร่งทำเอาทุกคนตกใจไปตาม ๆ กันเพราะไม่คิดว่าเอเรนอสจะยอมรับง่าย ๆ ว่าหญิงสาวแสนน่ารักคนนี้คือเมียของเขา
“ครับ ผู้หญิงคนนี้คือนัดดาเมียของผมเอง” เขาพยักหน้าให้กับทุกคนแล้วเดินเข้าไปโอบเอวเมียสาวที่ยืนทำหน้าไม่ถูก มือไม้เย็นเฉียบเข้ามาแนบชิดตนเอง
“มัมอยากได้คำอธิบายมากกว่านี้ แต่มัมว่าตอนนี้ลูกต้องไปแต่งตัวดี ๆ ก่อน” มาดามแมรี่ไล่ให้ลูกชายคนโตไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเพราะเขายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แต่ใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวปกปิดช่วงล่างเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่เท่านั้น
“ครับ มัม” เอเรนอสเห็นสายตาของมารดาจึงยอมทำตามแต่โดยดี แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากให้เมียสาวอยู่กับพ่อแม่แล้วก็น้องชายของตนเองตามลำพัง
ทางด้านนัดดาเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้าคนเดียวก็เกิดอาการเกร็งขึ้นมา ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร
“ไม่ต้องกลัวพวกเราหรอกหนู มานั่งใกล้ ๆ มัมตรงนี้”
มาดามแมรี่เห็นเอเรนอสหายไปในห้องเรียบร้อยจึงเปลี่ยนโหมดทันที เรียกว่าที่ลูกสะใภ้เข้ามานั่งกับตนเองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้มาก
“ตะ แต่ว่าพี่เอริค / ไม่ต้องสนใจพี่เขาหรอกลูก มัมอยากคุยด้วย มานั่งมา”
“ค่ะ” นัดดาค่อย ๆ เดินเข้าไปหามาดามแมรี่แล้วนั่งลงข้าง ๆ ท่านด้วยความกลัว เพราะได้ยินเอเรนอสเรียกผู้หญิงคนนี้ว่ามัม แสดงว่าเธอก็คือแม่ของเขา
นัดดากลัวมาดามแมรี่ไม่ชอบตนเองที่หอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่กับลูกชายของท่านราวกับเป็นผู้หญิงใจง่าย จึงทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มคุยกับท่านอย่างไร
ทางด้านเอเรนอสรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเพราะกลัวเมียสาวจะกลัวครอบครัวของตนเองแล้วเดินออกมาหาทุกคนทันที แต่สิ่งที่เขาคิดกับสิ่งที่เขาเห็นมันสวนทางกันหมดเลย
“คิกคิก จริงเหรอลูก พี่เขาทำแบบนั้นเหรอ”
“ค่ะมัม พี่เอริคเขาช่วยหนูเอาไว้แล้วให้มาทำงานที่นี่ค่ะ”
“ร้ายจริง ๆ นะลูกชาย เจ้าเล่ห์เหมือนคุณเลยคุณแมรี่”
“ก็ลูกชายคุณเหมือนกันนะคะ คุณอิรินัส”
“ไม่ต้องเถียงกันหรอกครับ ลูกชายของทั้งสองคนนั่นแหละ ทั้งมัม ทั้งแด๊ด ใช่ไหมน้องนัด”
“คิกคิก จริงค่ะพี่เอนาส” เอเรนอสมึนกับภาพตรงหน้าอย่างมากไม่คิดว่าเมียสาวกับครอบครัวของเขาจะเข้ากันได้ เพราะตอนแรกดูท่าทางบิดามารดา และน้องชายเหมือนจะไม่พอใจในตัวหญิงสาว แล้วทำไมตอนนี้ถึงคุยกันอย่างสนิทสนม โดยเฉพาะแม่กับเมียที่ดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
“อะแฮ่ม ผมอยากรู้แล้วครับว่าทุกคนมากันได้ยังไง” เอเรนอสเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ เมียสาวแล้วหันไปถามน้องชายที่กำลังทำหน้าเลิ่กลั่กไม่รู้จะบอกอย่างไรดี
“ก็พวกเราคิดถึงลูก ถึงได้มาหาไงจ๊ะ” มาดามแมรี่เป็นคนตอบคำถามแทนทุก ๆ คน
“เอาความจริงครับ มัม”
“คือว่าเจ้านาสบอกมัมกับแด๊ดว่า ลูกต้องมีแฟนแน่ ๆ ถึงมาเมืองไทยนาน ๆ มัมกับแด๊ดก็เลยชวนเจ้านาสมาดูด้วยตาของตัวเองเลย เรื่องมันก็แค่นี้”
“ทำไมมาไม่บอกผมก่อน”
“อ้าว ถ้าบอกก่อนจะได้เจอว่าที่ลูกสะใภ้ของแด๊ดไหมล่ะ”
“นั่นสิครับ พวกเราก็เลยต้องมาเซอร์ไพรส์แบบนี้”
“เฮ้อ สัมภาษณ์เมียผมกันหมดเปลือกแล้วใช่ไหม”
“แน่นอนจ้า เนอะลูกหนูนัด”
“ค่ะ มัม”
แม่ผัวกับลูกสะใภ้เข้ากันได้ดีมากจนเอเรนอสเริ่มหวั่น ๆ กลัวมารดาจะทำตัวติดกับเมียสาวเกินไป และอาจจะทำให้เขาไม่ได้อยู่กับเธอสองคน เพราะมารดาของเขานั้นอยากได้ลูกสาวมาก แต่ติดที่ไม่มี พอมาเจอนัดดาซึ่งเป็นผู้หญิงน่ารัก มีหวังมาดามแมรี่ไม่ปล่อยให้ห่างตัวแน่นอน
“สนิทกันไวจังเลยนะครับ” เอเรนอสหน้าบึ้งขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นเมียสาวไม่สนใจตนเอง มัวแต่คุยกับแม่ของเขาอย่างเดียว
“ก็แน่สิ ไม่ดีใจหรือไงที่มัมชอบเมียแก หรือจะให้มัมขัดขวางความรักของแก” มาดามแมรี่ทำเสียงไม่พอใจที่ลูกชายขัดการสนทนาของตนเองกับลูกสะใภ้
“เปล่าครับมัม ผมแค่เห็นสองคนคุยกันถูกคอ ก็เลยสงสัยเท่านั้นเอง” เอเรนอสยิ้มเจื่อนเมื่อเห็นสายตาดุ ๆ ของสองสาว
“ว่าแต่อีกนานไหมถึงจะมีหลานให้มัมกับแด๊ด”
มาดามแมรี่เอ่ยทีเล่นทีจริงถามลูกชาย
“หึหึ อีกไม่นานครับ กำลังเร่งผลิตให้มัมกับแด๊ดเลี้ยงอยู่ อีกไม่นานเกินรอ” เอเรนอสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า มองเมียสาวด้วยสายตาวิบวับจนทำให้เธอเกิดอาการเขินอาย แก้มแดงเปล่งปลั่งเหมือนลูกตำลึงสุก
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ดีมากเจ้าลูกชาย แบบนี้สิถึงจะเหมาะกับเป็นลูกของแด๊ด” คุณอิรินัสหัวเราะอย่างชอบใจที่ลูกชายคนโตพูดได้ถูกใจเขามาก
“ผมขอแฝดนะพี่ ผมจะขอเลี้ยงหนึ่งคน” เอเรนาสหันมาบอกพี่ชายอย่างจริงจังเพราะเขาขออยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต ไม่ขอมีคนรักอีกหลังจากที่เลิกกับแฟนสาวอาชีพนางแบบเนื่องจากจับได้ว่าเธอไปนอนกับคนอื่นซึ่งเขารับไม่ได้
“ไม่ได้โว้ย แกก็หาเมียผลิตลูกเองสิ”
“งกอะ ทำไมพี่งกแบบนี้วะ”
“พอแล้วทั้งสองคน พูดอะไรเกรงใจหนูนัดบ้างดูสิ หน้าแดงหมดแล้ว เขินใช่ไหมลูก”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ มัมมาถามเมียผมแบบนี้ นัดก็เขินมากขึ้นน่ะสิ”
“พี่เอริค!”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ / ฮ่า ๆ ๆ ๆ / ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
บิดามารดาแล้วก็น้องชายของเอเรนอสหัวเราะออกมาอย่างหนักเมื่อเห็นนัดดาเสียงดังใส่ลูกชายคนโตของตระกูลเอรีสันอย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน จนชายหนุ่มต้องสงบปากสงบคำไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย
เมื่อทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ นัดดาก็ชวนทุกคนไปเที่ยวเกาะด้วยกัน ไหน ๆ ก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว
จากนั้นทั้งหมดก็ออกจากเพนต์เฮาส์ของชายหนุ่มด้วยรถตู้คันใหญ่เพื่อไปเที่ยวเกาะล้านตามแผนของนัดดา และได้แวะรับนิสาที่หน้าหอพักของเธอก่อน ทำให้เอเรนาสผู้ซึ่งปฏิญาณตนว่าจะอยู่เป็นโสดตลอดชีวิตต้องเปลี่ยนความคิดทันที