“ไว้ข้านึกออก เมื่อไหร่ ตำแหน่งของนาง ในวังแห่งนี้ คงต้องอยู่ที่ความพึงใจ ของข้า”
จบป่าว จบ ใครจะกล้าเถียงฮ่องเต้
“ระหว่างนี้เจ้าเองก็คงต้องอาศัยอยู่ภายในตำหนักของข้าไปก่อน” พูดเองสรุปเอง มันคงจะจริงที่ฮ่องเต้มักจะเอาแต่ใจ
“เสี่ยวโอ พานางไปที่พัก จัดนางกำนัลคอยดูแล” ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วง “เชิญแม่นางทางนี้” ขันทีน้อยโค้งตัวก่อนจะผายมือให้แพรวา แพรวาเดินตามไปอย่างรวดเร็ว สายตาคมมองตามจนสุดสายตา
“เสี่ยวโอ เจ้าอายุเท่าไหร่” ก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตาเวลาพูด คนขี้อาย
“ข้าน้อย....อายุ17ปี แม่นาง” ยังเด็กอยู่เลย “แล้วอยู่ที่นี่นานหรือยัง”
“ข้าน้อยเข้าวังมายังไม่ครบขวบปี เลยแม่นาง”
“ข้าเบื่อคำว่าข้าน้อยกับแม่นางคราวหลังเจ้าเรียกข้าว่า เจี่ยเจีย (พี่สาว) ก็แล้วกัน”
“ข้าน้อย...”
“ยังอีกอย่าพูดคำว่าไม่กล้าข้าไม่ชอบ”
“ข้าน้อยรับบัญชา” แนะยังจะอีก
“ฮ่องเต้ของเจ้ามีเมียกี่คน”
“ได้โปรดอย่าคาดคั้นเลยแม่...เจี่ยเจีย เรื่องนี้ไม่เหมาะจะพูดคุย” “เอะ ถ้าเจ้าไม่บอกพี่สาวไม่พูดใครจะรู้ว่าเจ้าเล่าให้พี่สาวฟัง” เสี่ยวโอนิ่งไปแหงนหน้ามองเพดานก่อนจะทำท่าครุ่นคิด
“30 รวมทั้งหมด30 ทั้งสนม ทั้งกุ้ยเหรินกุ้ยเฟย”
“โอ้มายก๊อด” เสี่ยวโอตกใจกับคำอุทาน ของแพรวา
“ไมเยอะอย่างนี้แล้ว....เปลี่ยนเวร เฮ้ยไม่ใช่ แบ่งเวลาการปรนนิบัติฮ่องเต้ของเจ้าอย่างไรไม่ตีกันตายเหรอ”
“ไม่แย่งกัน เพราะฮ่องเต้จะเรียกพวกนางแค่คนล่ะคืน ครั้งเดียวเมื่อแรกเข้าวังเท่านั้น”
“แล้วตำแหน่งอะไรทำไมล่ะ”
“ก็แล้วแต่ผลงานของคืนแรก ข้าน้อยพูดมากไปแล้ว เจี่ยเจีย อย่าบีบคั้น”
“ก็ได้ก็ได้ ไม่บีบคั้น” เฮ้อสงสัยฮ่องเต้คงโหดชะมัดเจ้าเสี่ยวโอถึงไม่กล้าพูด พาแพรวาเดินมาจนสุดทางเดินในตำหนัก หน้าห้องมีหญิงสาวนางหนึ่งยืนอยู่
“ลี่มี่ เจ้าคอยรับใช้แม่นางเฟยลี่”
“น้อมบัญชาไต้เท้า” ลี่มี่สาวน้อยใสซื่อคงเพิ่งเข้าวังเหมือนกัน “ฮ่องเต้เสด็จ” มาอีกแล้วตามมาทำไมนะ
“พวกเจ้าออกไปก่อนข้ามีเรื่องหารือกับแม่นางเฟยลี่” สายตาดุแกมบังคับทำเอาสองคนเดินตัวลีบออกไปทันที เข้าห้องปิดประตู ...@_@หรืออารมณ์ค้างจากเมื่อเช้าหว่า เดินเข้ามาหา แพรวาเดินถอยหลัง ไปเรื่อยๆ จน ชนเข้ากับขอบเตียงแววตาดุมีอาการขบขัน “กลัวหรืออย่างไร ข้าไม่ อาจ ฝืนใจหญิงใด แต่โดยมากแล้วมีแต่หญิงงาม ร้องขอการได้เข้ามาปรนนิบัติ” หลงตัวเองก็บังคับชาวบ้านเขาสะขนาดนั้น
“ข้ามีข้อเสนอให้เจ้า ข้าเลือกเจ้าเพราะคิดว่าอย่างไรเสียสวรรค์คงส่งเจ้ามาในยามคับขัน”
“ฝ่าบาท จะให้ทำอะไร”
“เจ้าแค่ยอมเสียสละอิสรภาพตัวเจ้า เข้ามาอาศัยอยู่ในตำหนัก สวมบทบาทว่าเจ้าเป็น คนโปรด”
“ทำไมต้องเป็นแบบนั้น”
“ข้าไม่อาจขัดบัญชาไทฮองไทเฮา เรื่องการเลือกป้ายรายชื่อสนมให้มาคอยปรนนิบัติในแต่ละคืน” อ๋ออย่างนี้นี่เอง
“ถ้าเจ้าสามารถทำให้พวกนาง ออกไปจากตำหนักได้ยิ่งเป็นการดี” “แล้วข้าพระองค์จะไม่ไปลำเส้นใครในนี้รึฝ่าบาท”
“เจ้ายังกลัวใครอีกในเมื่อข้าคือ ฮ่องเต้ และเป็นผู้ที่ คอยปกป้องการกระทำของเจ้า” งานง่ายๆ แค่เขี่ยพวกผู้หญิงของฮ่องเต้ให้กระเด็น
“ข้าพระองค์จะได้อะไรเป็นรางวัล” ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากได้ และ ป้ายหยกนี้ ข้ามอบให้เจ้าเห็นป้ายหยกเสมือนเห็นตัวข้า” ว้าวๆ ๆ ๆ อำนาจในมือแพรวาตาวาว
“ข้าจะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นข้าหลวงหญิง และระหว่างนี้ไม่ว่ากับใคร เจ้าต้องแสดง ท่าทีว่าเป็น...คนสนิท...และเป็นที่โปรดปรานของข้า” ตลกล่ะเพิ่งจะอกหักมาจะมีอารมณ์ทำเรื่องแบบนี้ไหม แล้วทางกลับบ้านของเธอเล่า ฮ่องเต้เหมือนจะจับสังเกตได้เมื่อแพรวาท่าทางเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
“เจ้ามีครอบครัวหรือใครที่ต้องห่วงอยู่ที่ไหนหรือไม่ข้าจะให้คนของข้าไปแจ้งข่าวว่าเจ้าสบายดี” แพรวาส่ายหน้าน้ำตาร่วงกราวป่านนี่ที่นู้นจะเป็นอย่างไรคงตามหาเธอให้วุ่นไปหมด หรือไม่เธออาจจมน้ำตายไปแล้ว
“เป็นอะไรไปเจ้า”
น้ำเสียงอ่อนโยน ยิ่งทำให้แพรวาสะอื้นหนักกว่าเดิม ฮ่องเต้ไม่รู้จะทำอย่างไรกับน้ำตาผู้หญิงนั่งลงข้างๆ กดหัวแพรวาให้ซบอกตัวเอง “หยุดร้อง ได้แล้ว” แพรวายิ่งร้องหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นว่ามีคนคอยเอาใจใส่ เรื่องราวต่างๆ ไหลเข้ามาในสมองทั้งภาพความช้ำใจที่ได้พบมาก่อนที่จะมาที่นี่ ฮ่องเต้ยิ่งสับสนงุนงงทำตัวไม่ถูก
“หยุดร้องได้แล้วข้าบอกให้หยุดร้อง นี่เป็นบัญชาจากข้าเจ้ายังกล้าขัดคำสั่ง”
เสียงตวาดดังลั่น แพรวาหยุดร้องโดยฉับพลันแล้วเมื่อเวลาพลบค่ำก็เวียนมาถึงเสี่ยวโอ เดินนำขบวนเข้ามาในห้อง
“แม่นางเฟยลี่รับราชโองการ” แพรวายืนตัวแข็งและลี่มี่กระตุกชาเสื้อเบาๆ ให้คุกเข่าลงพร้อมกัน
“แม่นางเฟยลี่เป็นที่โปรดปรานขององค์ฮ่องเต้จึงมีพระราชโองการแต่งตั้งเป็นขุนนางหญิงผู้ดูแลขันทีนางใน ของตำหนักแห่งนี้รับราชโองการ” เสี่ยวโอรับถาดที่มีป้ายรายชื่อ ของเหล่าสนม เดินเข้าไปในห้องทรงหนังสือของฮ่องเต้
“ฝ่าบาท ถึงเวลาที่ต้องเลือกป้ายแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เสียถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย “เรียกตัว เฟยลี่เข้ามาวันนี้เราหารือเรื่องราชการกับเฟยลี่ ก่อน” ไม่มองป้ายคว้าขึ้นมาหนึ่งอันก่อนจะโยนลงพื้น เสี่ยวโอ รนลานเก็บขึ้นมาดูชื่อ
“ลู่เอินกุ้ยเหริน”
“ข้าไม่ไปหานางให้นางเดินทางมานี่”
“ข้าน้อยรับบัญชา” เสี่ยวโอถอยห่างออกมา
ลู่เอินประทินโฉมสวยงามเกณฑ์เหล่าเด็กรับใช้มาช่วยกันอาบน้ำให้นางทั้งน้ำหอมน้ำปรุงชวนเวียนหัวแป้งอบแป้งร่ำทั้งชาดทาปากสีแดง น่ากลัว แต่งไปแต่งมา หน้าเหมือนนางเอกงิ้ว ผิดกับแพรว่าชุดข้าหลวงหญิงเหมาะกับเธอยิ่งนัก ไม่มีการแช่น้ำหอมน้ำปรุงมีเพียงลี่มี่ที่แต่งตัวเกล้าผมให้เรียบร้อยกระนั้นใบหน้ากับสวยไร้ที่ติเมื่อยามที่ต้องแสงสว่างจากโคมไฟขับผิวสีน้ำผึ้งให้นวลผ่อง
สาวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังตำหนักเลี้ยวตรงหัวมุมตำหนักคนละฝั่งกับกุ้ยเหริน
“นั่นใครลี่มี่”
“กุ้ยเหรินลู่เอินค่ะนายหญิง”
“เป็นใคร”
“คงเป็น ผู้ที่ได้รับเลือกในค่ำคืนนี้” ไม่เท่าไหร่ไม่เท่าไหร่ดูจาดกิริยาเยื้องย่างพวกนางคงมีคนฝึกสอนคนเดียวกัน อาการไม่ต่างจากสนมฮุ่ยแม้แต่นิดเดียวก้มลงมองตัวเองไม่เลวสวยสง่าน่ามอง เข้าข้างตัวเองหรือเปล่าวะ