ตอนที่ 7 ถ้าต้องเลือก

1436 คำ
เด็กหญิงตัวเล็กจับมือบิดาของตนแน่นทว่าสายตายังคงเหลือบมองมารดาอยู่เป็นระยะ น้องควีนไม่อยากคลาดสายตาจากมารดา ด้วยกลัวว่าถูกทอดทิ้งไว้เช่นเคย จากความทรงจำมารดาไม่เคยสนใจให้ความสำคัญ แต่น้องควีนก็ยังรักผู้ให้กำเนิดมากกว่าใคร แม้หลายครั้งจะต้องร้องไห้เพราะถูกปฏิเสธ แต่น้องควีนไม่เคยเกลียดมารดาเลยสักครั้งเดียว สิบหมื่นเห็นอาการตื่นเต้นของลูกสาวก็อดสงสารไม่ได้ ท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ นั้นมองให้ขบขันก็เป็นได้ แต่หากมองลึกลงไปกว่านั้นคือความบกพร่องของคนเป็นบิดามารดา ทั้งสามเข้ามานั่งในร้านไอศกรีมเจ้าดัง ฮันนี่นั่งตรงข้ามกับสองพ่อลูก เธอลอบมองเด็กน้อยเป็นระยะ ทุกครั้งจะพบรอยยิ้มหวานกับแววตาใสซื่อส่งมาให้เสมอ “นั่งตรงนี้ไหมคะ” เธอชี้ตรงที่นั่งข้างตัวเอง ร่างเล็กรีบลงจากที่นั่งวิ่งอ้อมมานั่งข้าง ๆ มารดา เด็กน้อยขยับตัวเบียดชิดจนฮันนี่ต้องยกมือขึ้นโอบตัวของน้องควีนไว้ระหว่างเปิดเมนู พนักงานที่ยืนรอแอบยิ้มกับภาพครอบครัวที่น่ารัก คุณแม่กับลูกสาวหน้าตาสวยจนต้องเหลียวหลัง ส่วนคุณพ่อก็ดูเคร่งขรึมดุดัน “พี่ฮันนี่ขา น้องควีนกินไอติมถ้วยใหญ่สุดเลยได้ไหมคะ” เด็กหญิงชี้ไปที่ป้ายเมนู เอนตัวซบมารดาราวกับไร้กระดูก สิบหมื่นเตรียมจะห้ามแต่ถูกฮันนี่ส่งสายตาปรามเสียก่อน “น้องควีนกินหมดไหมคะ ถ้วยใหญ่เยอะมากเลย” เธอดูจากภาพแล้วคงใหญ่มาก เด็กตัวนิดเดียวทานไม่ไหวแน่นอน “เอาอันที่เคยสั่งประจำก็ได้ คุณอยากกินอันไหนก็สั่งแยกแล้วกัน ส่วนฉันไม่ชอบกินไอติม” สิบหมื่นชอบการนั่งมองลูกสาวทานมากกว่า “แต่ถ้ากินอันเล็กก็หมดเร็ว น้องควีนอยากอยู่กับพี่ฮันนี่นาน ๆ เรากินถ้วยใหญ่ไม่ได้เหรอคะ” ใบหน้านั้นก้มลงมองมือพร้อมกับสารภาพความคิดตัวเองออกมา คำนวณเวลาแล้วว่าการกินไอศกรีมถ้วยใหญ่ย่อมใช้เวลาในการทานนานที่สุด หญิงสาวเผลอเงยหน้าสบตากับสิบหมื่น เธอสงสารเด็กคนนี้ขึ้นมาจับใจ ยัยนางร้ายทิ้งเด็กคนนี้ลงได้อย่างไรกันนะ ลูกสาวตัวเองแท้ ๆ นิสัยเสียแบบนี้เองถึงไม่มีใครรัก “ขอโทษนะคะที่ไม่มีเวลาให้หนู ต่อไปนี้หม่ามี๊จะอยู่กับน้องควีนบ่อย ๆ” ถ้าหาที่พักใหม่เป็นหลักแหล่งได้เร็ว เธอก็จะรับน้องควีนมานอนด้วยในช่วงวันหยุด คำตอบนั้นทำให้สองพ่อลูกตกตะลึง คำต้องห้ามนี้เรียกได้ด้วยเหรอ ฮันนี่คนเดิมจากไปแล้วจริง ๆ สินะ สิบหมื่นเริ่มคิดตามที่หญิงสาวเล่า ซึ่งหลายสิ่งบ่งบอกว่าเธอต่างจากผู้หญิงนิสัยเสียในอดีต “หม่ามี๊! น้องควีนเรียกได้เหรอคะ จะไม่ตีน้องควีนใช่ไหม” น้องควีนนึกว่าตัวเองฝันไป “ก็หนูเป็นลูกสาวหม่ามี๊นี่คะ อยากเรียกแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น คุณแม่ มี๊ ม๊า มัม ได้หมดเลย เอาที่หนูชอบ” ก็แค่คำเรียกจะหวงไปทำไมกัน “คุณมี๊ใจดี น้องควีนชอบคุณมี๊ตอนนี้ค่ะ” เด็กน้อยกอดมารดาอย่างตื่นเต้น ต่อไปนี้ก็จะไม่มีใครกล้ามาล้อน้องควีนว่าไม่มีแม่อีก “ขอมี๊จัดการธุระเสร็จ วันหยุดนี้เราไปเที่ยวทะเลกันคุณหมื่นอนุญาตไหมคะ” เธอพูดกับลูกสาวแล้ว จากนั้นขออนุญาตชายหนุ่มที่เป็นผู้ปกครองของน้องควีน “คุณป๊าขาอนุญาตนะคะ น้องควีนอยากไปเที่ยวกับคุณมี๊” เด็กน้อยขยับตัวออกจากฮันนี่ยื่นตัวข้ามโต๊ะไปหาบิดา สิบหมื่นพยักหน้ารับ ไม่ได้ขัดขวางการพบกันของสองแม่ลูก เขามองว่านี่เป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างฮันนี่กับลูกสาว “เราสั่งกันเถอะ น้องคะเอาเซตนี้ค่ะ ลูกสาวพี่ชอบ อ๋อ เพิ่มไอศกรีมดาร์กช็อกโกแลตอีกลูกนึงให้คุณป๊าด้วยค่ะ” หญิงสาวสั่งไอศกรีมเซตใหญ่กับพนักงาน โดยมีน้องควีนกับสิบหมื่นนั่งฟังด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ จนพนักงานเดินจากไปสองพ่อลูกก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติง การถูกใส่ใจแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่คนรับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่หญิงสาวแผ่ออกมา น้องควีนชอบที่มารดากล้าเรียกเธอว่าลูกต่อหน้าคนอื่น ส่วนชายหนุ่มรู้สึกใจเต้นแปลก ๆ ที่เธอเลือกไอศกรีมเผื่อ กระทั่งไอศกรีมถูกนำมาเสิร์ฟเสียงเจื้อยแจ้วถึงดังขึ้นอีกรอบและอ้อนให้มารดาป้อน ฮันนี่ยอมทำตามอย่างว่าง่าย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ ทั้งสามนั่งกินด้วยกันจนหมดถ้วย โดยคนที่ต้องรับผิดชอบมากสุดคือสิบหมื่น เพราะสองคนแม่ลูกช่วยกันขอร้อง สุดท้ายอาหารเย็นจึงจบลงที่บ้าน ฮันนี่เป็นคนสั่งทุกอย่างมาเพราะเห็นว่าทานข้างนอกไม่ไหว พวกเธออิ่มจากไอศกรีมกันจนไม่นึกอยากทานอะไร การมาทานที่บ้านจึงเป็นทางออก หิวเมื่อไหร่ก็ค่อยสั่งมาทาน ฮันนี่อยู่ทานข้าวจนกระทั่งพาลูกสาวเข้านอน ยอมรับเลยว่าเหนื่อยมาก สิบหมื่นทำได้อย่างไรกัน เขาเป็นผู้ชายแท้ ๆ แต่กลับดูแลลูกสาวได้เป็นอย่างดี หญิงสาวยืนคิดขณะยืนมองลูกสาวหลับใหล ภายในห้องนอนสีขาวเหลืองดูน่ารัก ที่นอนลายเป็ดน้อยดูเสริมให้ห้องดูน่านอน ทุกอย่างตกแต่งอย่างลงตัว สิบหมื่นดูแลลูกได้ดีมากจริง ๆ “คืนนี้ไม่ต้องกลับ” เสียงทุ้มดังกระซิบข้างหลังส่งผลให้ฮันนี่สะดุ้ง “คุณหมื่น!” เธอตกใจเสียงไม่พอยังตกใจมือที่ดึงเอวทั้งสองข้างเข้าหาตัวเขา “ลูกหลับแล้ว” เขาก้มลงจูบแก้มเนียนใส จมูกโด่งเคล้าเคลียวนอยู่อย่างนั้นไม่ยอมห่าง “อยากเป็นชู้เหรอ ฮันนี่แต่งงานแล้วเผื่อคุณลืม” เธอเบี่ยงหน้าหลบพร้อมทั้งผลักร่างหนาให้ถอยห่าง สิบหมื่นยอมถอยทว่าแววตาเจ้าเล่ห์ยังคงมองใบหน้าเย้ายวนด้วยความหลงใหลไปชั่วขณะ “มันสิชู้ไม่ใช่ฉัน เราก็ทำเรื่องแบบนี้กันเป็นปกติ” สิบหมื่นยิ้มมุมปากที่ตัวเองต้องอยู่ในสถานะไร้ค่านั่น “เมื่อก่อนไม่นับ ตอนนี้ฮันนี่ไม่ใช่เมียใครทั้งนั้นแหละ ฮันนี่คือฮันนี่ ไม่ใช่อีบ้าเจ้าของร่างตัวจริง” นางร้ายอย่างเธอห้ามรักใครทั้งนั้น ทุกคนในเรื่องอันตรายหมด คำตอบจากหญิงสาวส่งผลให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองก่อนจะกลับมาแสดงสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม “ฉันไม่รู้จะเชื่อเธอยังไง เอาจริง ๆ มันฟังดูประหลาด” สลับร่างเหรอ ถ้าทำได้เขาจะขอสลับไปเป็นคนที่อื่นดูบ้าง ไม่ต้องมาทำงานงก ๆ อย่างนี้ “เอาเถอะ ๆ ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร รู้ไว้แค่ฮันนี่จะช่วยคุณเลี้ยงน้องควีนก็พอ ไว้ค่อยมาตกลงกันทีหลังนะคะ วันนี้ต้องกลับแล้ว” หญิงสาวหยิบกระเป๋ามาสะพายขณะคุยกับเจ้าของบ้าน ทำความเข้าใจได้ว่าเรื่องที่ตัวเองเล่านั้นเหลือเชื่อเกินจริง “ถ้าต้องเลือก คุณคงเลือกมันสินะ น่าขำที่ไม่ว่าคุณในอดีตหรือตอนนี้ยังเลือกทางเดิมทุกครั้ง” เลือกผู้ชายคนนั้นที่ไม่เคยรักเธอ รอยยิ้มจากฮันนี่คือคำตอบ สิบหมื่นพยักหน้าเข้าใจ เรื่องความรักมันยากจะอธิบาย เหมือนกับตัวเขาที่มีคนเข้ามามากมาย แต่ก็ยอมเป็นทาสรับใช้คนตรงหน้า ถึงจะเพื่อลูกสาวก็เถอะ “ไม่เหมือนหรอกค่ะ เพราะครั้งนี้ฮันนี่เลือกน้องควีน ฮันนี่ไม่มีใครแล้วนอกจากลูก ไปนะคะ” ฮันนี่ไม่ได้อยากมีความรัก เธออยู่คนเดียวได้สบาย ยุคนี้การเป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ใช่เรื่องน่าอายและยินดีอยู่ในตำแหน่งนี้ เธอโบกมือลาก่อนจะจากไป ทิ้งเจ้าของบ้านให้จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ไม่รู้เขาเสียสติหรือเปล่า แต่เขากำลังคล้อยตามและเชื่อในสิ่งที่หญิงสาวบอกเล่า ถ้าเป็นฮันนี่คนนี้ตลอดไปก็คงดี….
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม