02

1277 คำ
“เป็นอะไรยัยเม ยิ้มอะไร ตอนมานี่ทำหน้าซังกะตาย” มุกดาเพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยถาม ขึ้นเมื่อเมรินทร์นั่งยิ้มบาง ๆ “อ๋อเปล่า” เมรินทร์ตอบปฏิเสธ แต่ยังมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าอยู่ พร้อมกับเอามือลูบแขนไปมา เพราะมีอาการเจ็บเล็กน้อยเนื่องจากว่าชนแรงจนทำให้เกือบล้ม ถ้าไม่ติดว่าเขาคว้าเอวเอาไว้มีหวังหงายหลังล้มตึง และต้องอายกว่านี้แน่ ๆ “ยัยเม แขนเป็นอะไร” ชลลีเพื่อนอีกคน แทรกถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะเมรินทร์เอาแต่จับแขนตัวเอง “คือ เอ่อ เดินชนกับแขกในร้านน่ะ ชนแรงไปหน่อย เจ็บ” เมรินทร์บอกตามตรง “อ้าวเหรอ แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า เห็นลูบๆ อยู่อย่างนั้น” มุกดาถามขึ้น “เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรหรอก” พอบอกว่าไม่เป็นไร เมรินทร์ก็หันไปมองทางที่เดินจากมา นั่นคือห้องน้ำ ไม่รู้เพราะอะไรจึงได้มอง และแอบคิดว่าเขาจะออกมาเมื่อไหร่ ซึ่งในจังหวะเดียวกันนั้นชายหนุ่มรูปงามที่เธอชน ก็เดินออกมาพอดี เขาหล่อเหลา สูงสง่า แต่ลักษณะออกจะแบดบอยนิด ๆ ทำไมเธอต้องมองเขาด้วยนะเนี่ย เธอคิดก่อนจะหลบสายตา เมื่อเขากำลังกวาดตามองมาทางนี้พอดี ซึ่งทำให้ไม่ทันได้เห็นว่าเขากระตุกยิ้มมุมปาก เหมือนมีความพอใจอยู่ในนั้น เป็นโอกาสดีที่เขาจะเข้าไปทำความรู้จักกับเธอ สานต่อความสัมพันธ์เพื่อให้ตัวเองได้พ้นจากบ่วงที่กำลังจะคล้องคอในอีกไม่นานนี้ “อุ๊ย! ใครอ่ะ หล่อจังเลย” รฐาเพื่อนอีกถามขึ้นด้วยความตื่นเต้นเพราะเห็นคนหล่อ เมื่อเซดริกเดินอยู่ท่ามกลางแสงไฟ แม้จะสลัวแต่ก็เห็นความหล่อระดับพระเอกฮอลลีวูดทะลุออกมาเลยทีเดียว “ก็คนนี้แหละที่เดินชนฉัน” เมรินทร์หันมาพูด แล้วก็ไม่ได้หันไปมองเซดริกเลย “อะไรนะ! คนนี้เหรอ ว๊าย! หล่อมาก มากับเพื่อน ๆ เหรอ” มุกดาก็แทรกขึ้น พร้อมกับเอ่ยปากชมชายหนุ่มอย่างออกนอกหน้า ทำให้เมรินทร์มองตาม แต่ก็ต้องหลบสายตาเมื่อเขามองมาอีกรอบ คิดอีกทีเหมือนเขาจะอ่อยอย่างไรก็ไม่รู้ “ดูท่าทางเหมือนเขาจะสนใจเธอไหมยัยเม ฉันว่าต้องใช่แน่” ชลลีให้ความเห็นและตื่นเต้นเหลือเกิน “อันนี้ไม่รู้ ไม่หรอก ก็มองตามประสาผู้ชายแหละ” เมรินทร์ตอบคล้ายกับไม่ใส่ใจนัก “ดีเลย” รฐาบอกยิ้ม ๆ เหมือนมีแผนเสียอย่างนั้น “ดีอะไร” เมรินทร์ถามด้วยความสงสัยทันที “ก็ถ้าเขาสนใจ เธอก็ลองเปิดโอกาสเลยไง ถ้าได้ลงเอ่ยกันนะแม่เธอก็จะได้ไม่มายุ่งกับชีวิตคู่เธอไงยัยเม อีตาเสี่ยบ้ากามแต่ละคนที่แห่แหนมาจีบน่ะ ก็จะได้ถอยห่างออกไป” รฐาให้ความเห็น “มันไม่ง่ายขนาดนั้น อีกอย่างถ้าคิดแบบนี้ เขาเรียกว่าเอาไปเป็นไม้กันหมามากกว่า” เมรินทร์ตอบกลับเสียงเศร้า “เธอไม่สนใจเขาเหรอ เขาหล่อนะ หล่อมากด้วย ถ้าไม่อ่อย ฉันอ่อยนะจะบอกให้” มุกดาแทรกขึ้น “ก็เชิญอ่อยไปสิ อีกอย่างคนเราน่ะ ไม่ใช่อะไรก็ง่ายไปหมด เขาเองก็ไม่ได้ชอบเราง่ายขนาดนั้นหรอก” เมรินทร์พูดความจริง “ถ้าฉันสวยเท่าเธอ เสร็จฉันแล้วล่ะจ้ะ ไม่มานั่งยุอย่างนี้หรอก ฉันจะวิ่งเข้าใส่ เดินไปอ่อยใกล้ ๆ” มุกดากล่าวพลางเชิดหน้าขึ้น “เอาสิเมเอาเลย ถ้าเขามาจีบก็ลองคุย” ชลลีก็ยุส่งเหลือเกิน “แบบนั้นเขาเรียกว่า ทำตัวราคาถูก อยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ ให้ตัวเองดูแพงจะดีกว่า ฉันไม่วิ่งเข้าหาผู้ชายหรอกน่า” พูดแบบนี้ตีแสกหน้าเพื่อนชัดๆ เลยเชียว เพื่อนๆ คิด “เหมือนโดนตบหน้ากลางสี่แยกยังไงก็ไม่รู้ เธอนี่ปากร้าย” มุกดาว่าแต่ไม่ได้โกรธเพื่อนหรอก “ฉันก็ไม่ได้อยากได้ผู้ชายขนาดนั้นนี่ ไม่งั้นจะหนีมาแบบนี้เหรอ จะบ้าหรือเปล่าพ่อแม่ก็สอนมา ถึงแม้ว่าจะ... หาผู้ชายมาให้ก็เถอะ แต่ทำแบบนี้มันก็ไม่เหมาะ” เมรินทร์ว่าให้อีกครั้ง “ก็แค่ให้แกล้งยั่วเท่านั้นเอง” มุกดาทำเสียงอ่อนลงเชียว “ไม่ล่ะ ไม่เอา” เมรินทร์ปฏิเสธอีกครั้งพร้อมกับน้ำเสียงหม่นลง และไม่ได้สะดวกใจนักหรอก หากเธอไม่ได้ชอบชายหนุ่มจริง ๆ แล้วแกล้งยั่วเพื่อให้เขามาจีบ หวังจะเอามากันท่าผู้ชายอีกคนให้ออกไปจากชีวิต เหมือนหลอกใช้ “มันจะดีแน่ อย่างน้อย ๆ ก็ได้ฟิน ๆ กันสักคืน” มุกดากล่าวอีกครั้ง แต่ให้ตายสิ ทำไมเพื่อนถึงได้คิดเรื่องใต้สะดือได้เนี่ย “ยัยบ้า! พูดบ้าอะไรเนี่ย ฉันยังไม่เคย อย่ามาพูดแบบนี้ แล้วใครจะไปกับผู้ชายแปลกหน้าแบบนั้นเล่า ที่มาเนี่ย มาดื่ม มาเที่ยวให้หายเครียดเท่านั้นแหละ ไม่ได้มาจับผู้ชายกิน” เมรินทร์รีบแก้ตัว ทั้งที่เวลาพูดถึงหนุ่มหน้าฝรั่งคนนั้นแล้วใจมันสั่นชอบกล “แหมมมม อยากจะแหมไปถึงดาวอังคาร จะบอกว่าไม่ชอบเหรอ งั้นฉันเอาเอง” มุกดานี่ก็ก๋ากั้นยิ่งกว่าใครแต่ไม่มีพิษภัยที่น่ากลัว เพียงแต่เธอใจกล้าเดินชนเท่านั้นเอง “เชิญตามสบายจ้ะ” เมรินทร์บอกพร้อมกับยกไวน์ขึ้นดื่มจนหมดแล้ว แล้วแสร้งเป็นไม่สนใจต่อสิ่งรอบข้าง แต่ในใจลึก ๆ นึกอยากจะหันไปมองเหมือนกัน ว่าชายหนุ่มแอบมองอยู่หรือเปล่า อดสงสัยไม่ได้ว่าตัวเองกำลังให้ท่าเขาอยู่ไหม ส่วนคนที่ถูกสาว ๆ นินทาก็แทบจะสร่างเมาโดยอัตโนมัติ เพราะตอนที่เดินชนกับหญิงสาวแปลกหน้านั้นปะทะแรงพอสมควร อีกทั้งความสวยใต้เงามืดมันทำให้ชวนตะลึง หลังจากนั้นก็ได้น้ำเย็นลูบหน้าเสียหน่อย ตอนนี้ดื่มต่อได้แล้วและกำลังคิดว่าอยากจะทำอะไรสักอย่าง “เป็นไงบ้างวะ ดื่มต่อได้ไหม” ภาษิตเอ่ยถามขึ้น “อืมได้ สร่างเมาแล้ว น้อง ๆ มานี่ซิ” เซดริกตอบพลางยกมือขึ้นเรียกพนักงานเสิร์ฟให้มารับออร์เดอร์ “ครับผม” พนักงานรีบเดินเข้ามาหาพร้อมกับค้อมศีรษะเล็กน้อย “เอาไวน์ที่ดีที่สุดของร้าน ไปให้โต๊ะนั้นที” เซดริกบอกพลางบุ้ยหน้าไปทางโต๊ะของหญิงสาวคนนั้น “ห๊า! ไวน์ที่ดีที่สุดเลยเหรอเพื่อน สายเปย์ว่ะ” คิมหันต์เพื่อนอีกคนถามด้วยความตกใจแต่ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ไปเอามา บอกว่าจากฉัน” เซดริกบอกเสียงเข้มอีกครั้ง แต่ไม่ได้บอกให้แจ้งชื่อ “ได้ครับ” ว่าแล้วพนักงานจึงรีบไปนำไวน์ที่ดีที่สุดของร้าน เพื่อไปเสิร์ฟตามที่บอกทันที “แกรู้จักโต๊ะนั้นเหรอวะเซด” นิลพัฒน์ถามด้วยความสงสัยอีกคน “ไม่รู้จัก ฉันแค่อยากเลี้ยงสาว ๆ ไม่ได้เหรอ” เซดริกตอบพลางยักไหล่ยักคิ้ว ก่อนจะยกเหล้าขึ้นจิบ ขณะเดียวกันพนักงานก็ได้เครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้โต๊ะของเมรินทร์ โดยที่เซดริกมองตามไม่วาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม