หนึ่งชั่วโมงต่อมา ดารินก้าวเข้ามาในคฤหาสน์หรูซึ่งมีชลทิศโอบเอวไว้หลวมๆ เมื่อทั้งสองก้าวเข้ามาถึงในห้องโถงกว้างก็พบว่าทุกคนพร้อมรอรับประทานอาหารค่ำอยู่ก่อนแล้ว ทุกคนมารวมตัวกันราวกับเป็นวันนัดรวมญาติ เพราะมีตั้งแต่หัวดำยันหัวหงอก
โต๊ะอาหารขนาดใหญ่และยาวถูกจัดวางกลางห้อง เก้าอี้ราวสิบตัวถูกจับจองมีเจ้าของก่อนแล้ว เหลือไว้สองตัวพอดีราวกับรู้ว่ายังจะมีผู้มาใหม่อีกสองคน
ทุกคนหันมามองผู้มาใหม่เป็นตาเดียว ชลทิศพาหญิงสาวเดินเข้ามาหาทุกคนด้วยท่าทางสบายๆต่างจากหญิงสาวที่รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
“สวัสดีครับทุกคน”
ชลทิศกล่าวสวัสดีทุกคนก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่งจากนั้นก็เลือนของตัวเองนั่งลงข้างๆโดยไม่สนใจหัวดำหัวหงอกที่กำลังนั่งรอฟังคำอธิบายจากเขาอยู่
เมื่อทนสงสัยไม่ไหว อารองผู้เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องจับเขาแต่งงานก็อดไม่ไหวที่จะเอ่ยถาม
“ตาชล ไม่คิดจะแนะนำสาวข้างกายให้พวกเรารู้จักกันเลยเหรอ?”
“อ่าวผมนึกว่าอารู้แล้วซะอีก…ทั้งชื่อจริงนามสกุลจริง อีกทั้งเรื่องในครอบครัวของเธอด้วย”
ประชดนิดๆ เพราะรู้จักนิสัยชอบสืบเรื่องชาวบ้านของอาสาวดี มีเรื่องไหนถึงหูอาแล้วโลกต้องรู้ ซึ่งทุกคนต่างยกให้เธอเป็นแหล่งข่าวประจำตระกูลเลยทีเดียว
“ตาชลนี่ดูพูดเข้า”
“โอเคครับงั้นผมจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักเธออย่างเป็นทางการแล้วกัน นี่ดาริน แฟนของผมครับ”เอ่ยพร้อมหันมาทางหญิงสาว จากนั้นก็หันไปแนะนำคนอื่นตามลำดับ “ส่วนนั่นคุณปู่คุณย่า และนี่คุณอารอง อาเล็ก คนอื่นๆก็เป็นหลานคุณปู่ แนะนำไปคุณก็จำได้ไม่หมดหรอก”
“สวัสดีค่ะ”
ดารินยกมือขึ้นไหว้ทุกคนด้วยท่าทางเกรงใจ
“ผู้หญิงคนนี้สินะที่ทำให้แกปฏิเสธหนูแพรลูกสาวท่านนายก เธอคงมีดีกว่าความสวยมากไม่งั้นตาชลคงไม่มอง”
อารองเอ่ยพร้อมมองดารินด้วยหางตา แสดงท่าทีต่อต้านเธออย่างชัดเจน
“ครับดีกว่าแน่นอน เอาเป็นว่าเธอเป็นคนที่ผมรักมาก แล้วทุกคนก็เลิกคิดคลุมถุงชนให้ผมสักที เพราะผมมีแฟนที่สวยและน่ารักอยู่ข้างๆแล้ว”
เอ่ยพลางหันมามองเธอด้วยสายตาหวานเชื่อม ท่ามกลางความรู้สึกหมั่นไส้ของอารอง
“แล้วนี่คบกันมานานเท่าไหร่แล้ว?”
“ก็สักพักใหญ่ๆครับ”
“แล้วเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันล่ะ?”
คำถามจากอารองเริ่มมาเป็นชุดราวกับเป็นพนักงานสอบสวน จนดารินรู้สึกร้อนๆหนาวๆ ทั้งสายตาที่ดูจะไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไหร่ ทำให้รู้สึกอึดอัดจนแทบอยากจะเดินหนีออกจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องอดทนนั่งอย่างใจเย็นเมื่อมือใหญ่ของแฟนกำมาลอเอื้อมมากุมมือเธอไว้บีบให้กำลังใจ
“ดิฉันเป็นเพียงลูกชาวบ้านธรรมดา ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร อันที่จริงดิฉันกับคุณชล เราไม่ได้คู่ควรกันหรอกค่ะ เพราะเราต่างกันมากทั้งอายุและฐานะ”
ดารินเอ่ยอย่างเจียมตัว แม้จะไม่ใช่แฟนจริงๆแต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้ว เธอก็ควรทำตัวให้คุ้มกับค่าจ้าง
“อายุเหรอ…แล้วเธออายุเท่าไหร่?”
“ยี่สิบเก้าปีค่ะ”
อารองจ้องใบหน้างามไม่อยากจะเชื่อ เพราะใบหน้าเนียนสวยตรงหน้าดูราวกับสาววัยรุ่นไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำ คิดพลางแอบอิจฉาในความอ่อนเยาว์ของเธอ แต่ก็ยังคงวางฟอร์มเชิดหน้าตามแบบฉบับของเธอ
“ตาชลนี่ก็แปลก ยังเด็กอยู่แท้ๆชอบคนอายุเยอะ ทีกับหนูแพรทั้งสาวทั้งสวยทำเป็นเมินเฉย”
“อาพูดอย่างกับแฟนผมไม่สวยงั้นแหละ”ชลทิศเอ่ยพลางดึงมือบางมาจุ๊บโชว์ต่อหน้าทุกคน “เรื่องหัวใจมันบังคับกันได้ที่ไหนละครับ ผมชอบและรักของผมแบบนี้ทำไงได้”
ท่าทางกวนประสาทของชลทิศทำให้อารองต้องเมินไปอีกทางอย่างขัดใจ ดารินรู้สึกอึดอัดดึงมือตัวเองกลับมาด้วยความเกรงใจปนเอียงอายทุกคน ต่างจากชลทิศที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้หันมาให้ความสนใจกับอาหารบนโต๊ะตักอาหารเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยไม่สนสายตาใคร
“ถ้าทุกคนไม่เห็นด้วยกับความรักเรา ดิฉันขอเดินออกจากชีวิตคุณชลเองค่ะ”
ชลทิศพ่นอาหารพรวดทันทีที่หญิงสาวเอ่ยจบ หันมามองเธอด้วยสายตาเอาเรื่อง นี่เธอคิดจะชิงหนีไปดื้อๆแบบนี้เลยหรือ เขาจ่ายไปตั้งแพงทำไมเธอถึงทำงานไม่เป็นมืออาชีพแบบนี้นะ
“ว๊าย!ตาชลทำบ้าอะไรน่าเกลียด!”
อารองโว้ยวายเมื่อหลานชายพ่นข้าวใส่เลาะโต๊ะตรงหน้าที่เธอนั่งพอดี
“โทษที พอดีผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับดาริน ขอตัวก่อน”
เอ่ยพลางฉุดแขนเล็กให้ลุกขึ้น แต่เสียงประมุขเอกของบ้านปรามไว้ก่อน เขาก็เลยต้องนั่งลงที่เดิม
“เดี๋ยวก่อนชล ใจเย็นๆ…ยายรองก็เหมือนกันพูดอะไรไม่คิด ทำคนรักเขาผิดใจกันเปล่าๆ”
ตอนท้ายหันมาต่อว่าลูกสาวคนรอง จากนั้นก็หันมาทางดาริน
“หนูอย่าไปคิดมากเลยนะ คุณค่าของคนมันไม่ได้วัดกันที่เงินทองหรอกนะ แต่มันวัดกันที่หัวใจ ยายรองเขาก็แค่อยากรู้ตามประสาอาที่เป็นห่วงหลานเท่านั้น ไม่มีอะไรหรอก”
ชายชราท่าทางใจดีเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มเอ็นดูหญิงสาว ดารินเริ่มคลายกังวลใจลงได้บ้าง
“อันที่จริงตาชลนี่ก็ตาถึงเหมือนผมเลยนะ ชอบคนอายุมากกว่า คุณว่าไหม?”
เอ่ยทำลายความอึดอัดที่กำลังก่อตัว ตอนท้ายหันมาทางหญิงสูงวัยข้างกาย
“คุณก็…”
“หมายความว่าไงครับคุณปู่?”
“ก็ย่าแกน่าอายุมากกว่าฉันตั้งห้าปี”
“นี่คุณจะพูดทำไม อายคนอื่นเขา”
“ก็มันจริงนี่นาฮ่าๆๆๆ”
“สงสัยจะเป็นจริงที่เขาว่ากันว่า กินเด็กแล้วอายุยืน นี่ฉันอายุ 82 แล้วยังดูมีแรงกว่าปู่แกเยอะเลย”
ได้ทีย่าก็เป็นฝ่ายเอาบ้าง บรรยากาศที่ดูเหมือนจะตึงเครียดในตอนแรกค่อยๆคลี่คลาย เมื่อเสียงหัวเราะเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหารหลังจากที่
หญิงชรากล่าวจบ
การรับประทานอาหารกับตระกูลใหญ่ของแฟนกำมาลอผ่านพ้นไปด้วยดี ดารินรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่ก้าวขึ้นมานั่งบนรถหรู พลางมองคนข้างๆด้วยความรู้สึกขอบคุณ เพราะตลอดเวลาที่เธอถูกโจมตีจากคำถามมากมายของอารอง เขาก็มีส่วนมากในการช่วยตอบคำถามแทนในยามที่เธอตกอยู่ในสถานการคับขัน
“อันที่จริงคุณไม่ต้องไปส่งฉันก็ได้ ฉันกลับแท็กซี่เองได้”
“อันที่จริงก็สมควรให้กลับเองอยู่หรอกเพราะคุณทำแผนผมเกือบพัง แต่ก็เอาเถอะไหนๆก็ผ่านมาได้แล้วผมจะลืมๆมันไป นี่ก็ดึกมากแล้วผมไปส่งเอง”
“ฉันขอโทษค่ะที่ทำแผนคุณเกือบพัง แต่ฉันกลัวถูกจับได้นี่คะ ฉันโกหกไม่เก่งเหมือนคุณนี่!”
“โกหกไม่เก่ง แต่ทำงานหลอกคน? ถ้าเดาไม่ผิดก็คงทำงานครั้งแรกสินะ”
ดารินไม่ตอบแต่เมินไปทางอื่น เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มจับได้ว่าเธอยังไม่เคยรับงานแบบนี้มาก่อน เพราะหากขาดประสบการณ์อาจจะมีผลต่อค่าจ้างที่เขาต้องจ่ายเธอ
ดารินก้าวลงจากรถเมื่อถึงหน้าบ้านโดยมีชลทิศที่เดินตามลงมาส่ง เขาดึงร่างบางมาสวมกอดก่อนจะหอมแก้มฟอดใหญ่แล้วปล่อยเธอเป็นอิสระท่ามกลางความตกใจของหญิงสาวเพราะเธอไม่ทันตั้งตัว
“ขอบคุณสำหรับวันนี้ คืนนี้ฝันดีครับ”
เอ่ยก่อนจะขึ้นรถไป ปล่อยให้หญิงสาวมองตามรถที่เล่นออกไปพร้อมยกมือลูบแก้มเบาๆ ราวกับเป็นความฝัน แม้จะรู้ว่าเป็นชายเทียมแต่
ก็อดหวั่นไหวไม่ได้อยู่ดี
ดารินสลัดความคิดฟุ้งซ่านก่อนจะเดินเข้าบ้าน เมื่อภารกิจรับจ้างเป็นแฟนหลอกๆครั้งแรกของเธอจบลงด้วยดี เงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีคงมีมากพอที่จะใช้ชำระค่าเทอมให้กับน้องชายแฝดสองของเธอแล้ว