เนิ่นนานผ่านไป เปลวเทียนเริ่มอ่อนแสง หากแต่เจ้าบ่าวก็ยังไม่ปรากฏกายเสียที โม๋เอ๋อร์จึงทนมิได้อีกต่อไป “คุณหนู ข้าหิวแล้ว” หยูเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตาโต รีบปรามเสียงเบา “จุ๊ๆ เจ้าต้องเรียกข้าว่าเสี่ยวโม๋ ห้ามเรียกว่าคุณหนูนะ ส่วนข้าก็จะเรียกเจ้าว่าพระชายา อย่าลืมข้อนี้เชียว” หญิงสาวในอาภรณ์สีแดงไม่สนใจอันใดอีกแล้ว นางหิวเหลือเกิน หญิงสาวเอื้อมมือเปิดผ้าออกแล้วเอ่ย “จะให้เรียกอะไรก็ช่างเถิด ข้าจะกินของบนโต๊ะนั่นได้หรือไม่” นางวาดนิ้วเรียวขาวชี้ไปทางอาหารมงคลบนโต๊ะสีแดง หยูเสวี่ยรีบยกมือปราม “ไม่ได้เด็ดขาด” “โอว...” โม๋เอ๋อร์เริ่มโอดครวญเสียงดัง “จะให้ข้าทำสิ่งใดก็ได้ ข้ายอมทั้งนั้น แต่เรื่องกินสำคัญกว่านะ” ครานี้หยูเสวี่ยใช้สายตาจับจ้องสตรีบนเตียงอย่างจริงจัง แล้วเอ่ยเสียงดุดัน “ชิ้นเดียวนะ” โม๋เอ๋อร์ได้ยินพลันยกยิ้มกว้างพยักหน้ารัวเร็ว “อื้ม” คุณหนูในคราบสาวใช้จึงจับจูงมือเจ