“ฉันหึงแรงนะ คุณยังจะชอบเหรอ” แม่นางร้ายนิลอรลองเชิง เธอร้ายแค่ไหนเขารู้ดีนี่นา ถ้าบอกว่าชอบละก็ ชาตินี้ห้ามเปลี่ยนใจนะ
“ชอบที่สุดเลย ฉันดีใจที่ได้เป็นคนที่เธอหึง เพราะหมายความว่าเธอรักฉันเกินกว่าจะแบ่งปันฉันให้ใคร ฉันชอบ...ที่...ที่ได้เป็นคนสำคัญของเธอ”
นิลอรจ้องหน้าสามีอย่างค้นคว้า เขาไม่ได้โป้ปดกันใช่ไหม
“คุณกับลูกๆ สำคัญต่อฉันเสมอโจนาธาน เพียงแต่ว่าฉันมารู้ตัวก็เมื่อวันที่ฉันจากคุณไปไกลแล้ว และที่สำคัญกว่านั้น คุณไม่ได้คิดตามหาฉันเลย”
เมื่อหวนคิดถึงอดีตที่เป็นเหมือนหนามตำใจ อารมณ์พิศวาสหวามไหวในเรือนกายก็พลันมลายหายไป นิลอรซบหน้าลงกับแผ่นอกเปล่าเปลือยของสามี
“ฉันยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหาที่รัก และดีใจที่เธอยังให้โอกาสฉัน ให้โอกาสคนแก่ๆ คนนี้ได้พิสูจน์ความจริงใจ”
นิลอรรับรู้ถึงฝ่ามือหนาที่ลูบแผ่นหลังให้อย่างอ่อนโยน เขารู้ด้วยหรือว่าเธอกำลังเศร้า ไม่น่าเชื่อว่าแรงบีบอัดจากอดีตอันเจ็บช้ำจะสาดซัดเข้าสู่หัวใจจนเธอหลั่งน้ำตาออกมาไม่รู้ตัว
“คุณยังไม่แก่ซะหน่อย อย่างน้อยก็ครูเอลลี่นั่นไงที่มองเห็นตั้งคนหนึ่งแน่ะ” เธอรีบปาดน้ำตาพร้อมกับปัดความเศร้าหมองทิ้งไป เธอกลบลบมันให้สิ้นด้วยอารมณ์ขันติดประชดประชัน ก่อนจะจ้องคนที่นอนทับอยู่ด้วยแววตาของแม่เสือร้าย ที่พร้อมขย้ำเหยื่อตัวโตๆ อย่างเขาให้ย่อยยับ
“โอ...วกมาเรื่องนี้อีกจนได้ ฉันนึกว่าเธอลืมไปแล้วนะ ฉันไม่มีทางสนใจครูเอลลี่หรอกน่า ครูเอลลี่นั่นน่ะ เพื่อนรุ่นพี่ของฉันฝากมาอีกที ฉันต้องดูแลเจ้าหล่อนชนิดที่ว่าริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยที่รัก” โจนาธานชี้แจง
“เฮอะ...พี่เลี้ยงไฮโซ!” แม่แองจี้ยังเล่นไม่เลิก เรื่องของเรื่องครูเอลลี่นั่นสวยกว่าไงล่ะ มันยอมไม่ได้!
“โกรธครูเอลลี่เรื่องอื่นอยู่หรือเปล่าแองจี้ ฉันว่าเธอแปลกๆ นะที่รัก”
“ใช่!” นิลอรรับคำดื้อๆ ก็บอกแล้วไงว่าเธอจะบอกเขาทุกเรื่องเพื่อความโปร่งใสไร้สิ่งใดซ่อนเร้น “ฉันไม่ชอบที่ครูเอลลี่สวยกว่าฉัน สาวกว่าฉันแล้วก็ ขาว! กว่าฉันยังไงล่ะ”
“นั่นไง! ว่าแล้วเชียว”
“หมายความว่ายังไง นี่จะบอกว่ารู้ทันงั้นเหรอ ตาแก่!” นิลอรทุบอกสามีดังตุ้บๆ จนโจนาธานไอค่อกแค่กโบกไม้โบกมือยอมแพ้แม่เสือสาว
“ฉันไม่ได้หมาย...ความว่าอย่างนั้น แค่กๆ” สามีคนดีพยายามอธิบาย
“ไม่รู้ละ ฉันไม่ชอบนี่นา บ้านนี้ฉันต้องเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเพียงคนเดียวเท่านั้น รู้เอาไว้ซะด้วย”
“จ้าๆ รู้แล้วจ้า โธ่ๆๆ คนดีของฉันอย่าเพิ่งโมโหน้า เดี๋ยวแก่เร็วนะที่รัก”
“ก็ดีไงคะ จะได้แก่ทันคุณไง ไม่ดีเหรอ”
หนุ่มใหญ่ทำหน้าราวกับกลืนบอระเพ็ดไปทั้งต้น นี่เขาจะไม่ชนะเจ้าหล่อนสักเรื่องเลยใช่ไหม
“ฉันว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้แล้วลงไปข้างล่างดีกว่า ฉันยังไม่ได้แนะนำเธอกับคนในบ้านเลย อ้อ...แล้วก็เรื่องสำคัญ...”
โจนาธานอึกอักเล็กน้อยเมื่อต้องเอ่ยถึงเรื่องอดีตภรรยาและลูกๆ ของหล่อน แต่เขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ในเมื่อทุกคนต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน...อย่างสมานฉันท์
“เรื่องอะไรคะ?” นิลอรรีบลุกขึ้นนั่งก่อนจะลากสามีให้ลุกขึ้นมาด้วยเพื่อจะได้เจรจาให้เป็นเรื่องเป็นราว
“เรื่องของ...เอลิซ เกรย์” โจนาธานบอกแล้วก้มหน้าน้อยๆ ไม่กล้าสานสบสายตากับแม่ของลูก
“หมายความว่ายังไง! นี่คุณอย่าบอกนะว่าเมียเก่าคุณยังอยู่ที่บ้านหลังนี้!” นิลอรใจเต้นตึกตัก หมู่โลหิตในเรือนกายสูบฉีดเร็วแรงเพราะตื่นเต้นที่จะได้เจอต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องระเห็จกลับเมืองไทย โอ...คุณพระช่วย! ใครก็ได้ช่วยจับเธอไว้ตอนที่เผชิญหน้ากับยัยตัวแสบนั่นทีเถอะ อย่าให้เธอเผลอบีบคอขาวๆ ที่ห้อยเครื่องเพชรเป็นนางเอกลิเกของเจ้าหล่อนเลย
“ใช่ที่สุดจ้ะที่รัก ฉันรีบพาเธอมาที่นี่จนลืมไปว่ายังไม่ได้บอกให้เอลิซกับลูกๆ ของหล่อนย้ายออกไป ฉันขอโทษนะที่รัก สารภาพเลยว่าฉันไม่กล้าบอกให้หล่อนไป คือว่าเอลิซกับฉันเคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อน และตอนนี้หล่อนก็กำลังเดือดร้อน แล้วฉัน...ฉันรักเด็กๆ สองคนนั้น เอ่อ...ลูกๆ ของเอลิซน่ะ ฉันรักพวกเขามากและคงคิดถึงพวกเขาถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว...”
สามีตอบเสียงเกรงๆ จนภรรยาชักหมั่นไส้ เขากำลังจะบอกว่าสามสี่ปีที่ผ่านมา เขาเอาความรักที่ควรจะเป็นของสองแฝดไปให้กับลูกๆ ของเอลิซอย่างนั้นหรือ โง่เง่าเสียจริงพ่อคุณ!
“แต่ตอนนี้คุณมีลูกของเราแล้วนี่ไงคะ อีกไม่นานคุณจะลืมพวกแกได้แน่นอน” วอนขอด้วยเสียงอันราบเรียบ สามีเธออยากให้ภรรยาเก่าอยู่ที่นี่เพื่อคอยยุแยงตะแคงรั่วใส่ร้ายป้ายสีเธอหรืออย่างไร เขาไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ว่ายัยปีศาจหน้าขาววอกนั่น ทำอะไรกับเธอไว้บ้าง หรือว่าจนแล้วจนรอด เขาก็ยังไม่เชื่อว่ายัยเอลิซเป็นคนวางแผนทั้งหมด
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะที่รัก เด็กๆ น่าสงสาร พวกแกเป็นเด็กกำพร้านะแองจี้ ฉันอยากมอบความรักให้พวกแกบ้าง อย่างน้อยมันอาจจะช่วยให้พวกแกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เธอช่วยเห็นใจฉันในข้อนี้ด้วยเถอะนะ ฉันขอร้อง”
นิลอรน้ำตาหยดแหมะไม่รู้ตัว เธอไม่ได้ร้องไห้เพราะโกรธแค้นชิงชังยัยปีศาจที่ชื่อเอลิซ แต่เธอกำลังน้อยใจสามีที่พยายามทุกวิถีทางให้เธอยอมรับยัยปีศาจและลูกๆ ของหล่อน พูดง่ายๆ ว่าเขาต้องการให้เมียเก่ากับเมียใหม่อยู่ร่วมบ้านกันอย่าสันติ!
ทุเรศ! เอาไฟมาเผาบ้านเถอะ ถ้าคิดว่าวันข้างหน้าบ้านหลังนี้จะยังสงบสุข ยัยปีศาจเอลิซได้ออกอุบายใส่ไฟเธอจนเตียงนอนร้อนเป็นไฟแน่นอน
“โธ่...แองจี้ อย่าร้องไห้สิคนดี ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้นะที่รัก”
หนุ่มใหญ่พยายามอธิบายแต่นิลอรกลับส่ายหน้าไม่ยอมรับฟัง
“ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ งั้นคุณก็ต้องแก้ไขไม่ใช่ยัดเยียดให้ฉันยอมรับสิ่งที่คุณไม่ได้ตั้งใจอย่างนี้ ฉันจะบอกอีกครั้ง ถ้าคุณดันลืม...สี่ปีที่แล้วยัยเอลิซเป็นคนมาบอกฉันเองว่าหล่อนเป็นภรรยาของคุณ หล่อนต้องการให้ฉันไปจากคุณเพื่อที่ฉันจะได้ไม่เป็นมือที่สามทำให้คุณกับหล่อนต้องมาเลิกรากัน ถ้าคุณมั่นใจว่าฉันไม่ได้เป็นคนผิดในเรื่องนี้ ก็แสดงว่ายัยเอลิซผิดเต็มประตู แล้วคุณยังจะให้ยัยบ้านั่นมาอยู่สร้างความร้าวฉานให้ครอบครัวเราอีกงั้นหรือโจนาธาน!”
คุณแม่ลูกสองปาดน้ำตาแรงๆ พยายามอย่างที่สุดเพื่อจะไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาระหว่างประโยคอันยืดยาว เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงฟังสิ่งที่เธอระบายออกมาไม่รู้เรื่อง
“แองจี้! เราพูดเรื่องนี้กันอีกแล้วนะ ฉันบอกแล้วไงว่ามันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตอนนั้นเธออาจจะหึงฉันจนหูฝาดแล้วฟังคำพูดของเอลิซผิดไปก็ได้ เพราะไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้ ภรรยาของฉันก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือเธอนะแองจี้ ฉันรักเธอคนเดียวจริงๆ”
โจนาธานพยายามกอดร่างบางที่ปัดป้องอ้อมแขนเขาสุดชีวิต นิลอรแรงเยอะเหลือเกินเวลาโกรธเช่นนี้
“ฉันเสียใจที่สุด! เสียใจที่คุณเชื่อยัยปีศาจนั่นทั้งๆ ที่คุณยังไม่ได้ฟังคำแก้ต่างของหล่อนด้วยซ้ำ ความรักที่คุณเคยมีให้อดีตภรรยามันยังหลงเหลือในใจของคุณแน่ๆ คุณถึงเลือกเชื่อหล่อนมากกว่าฉัน ฉันที่เป็นเพียงแค่...นางบำเรอ...ฮือออ...”
“แองจี้...โธ่เอ๋ย...ทำไมถึงคิดไปไกลขนาดนั้นนะ ฉันไม่ได้รักเอลิซแล้ว เชื่อฉันเถอะคนดี อย่าร้องไห้เลยได้โปรด... แองจี้...ฉันขอโทษ...”
หนุ่มใหญ่กอดร่างที่สั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้นของภรรยา ทั้งลูบหลังปลอบประโลม ทั้งเพียรเช็ดหยดน้ำตาที่รินไหลออกมาไม่หยุด หล่อนคงเสียใจเพราะคิดว่าเขายังมีใจให้เอลิซ แต่เขาจะพิสูจน์ให้หล่อนเห็นเองว่าเขาจะไม่มีวันรักใครนอกจากหล่อนกับลูกเท่านั้น ได้โปรดใช้โอกาสนี้พิสูจน์หัวใจของสามีด้วยเถอะ แม่แองจี้น้อยนิลอร