EP 7/5 รักสาม (สี่) เส้า

1050 คำ
เมื่อคิดได้ดังนั้นอรุณฉันก็ลุกจากเก้าอี้แล้วก้าวเร็วๆ ออกจากห้อง มันเร็วจนแทบจะกลายเป็นวิ่งเลยก็ว่าได้ ชาร์ลส์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เสียงถอนหายใจถูกระบายออกมาอย่างหนักหน่วง เขาคงกลืนอะไรไม่ลงเช่นกัน ฝ่ามือทั้งสองสอดสางเข้าไปในกลุ่มเส้นผม สลัดไปมาเพื่อไล่หยดน้ำที่อรุณฉัตรเทใส่เมื่อครู่ ตอนนี้สภาพเขาดูไม่จืดจริงๆ ชายหนุ่มเดินออกจากห้องครัว เขาเดินกลับมาบ้านและตรงเข้าห้องนอนก่อนจะคว้าผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้ามาซับผม ร่างสูงใหญ่ออกไปยืนรับลมที่ระเบียงเพื่อที่ผมจะได้แห้งไวๆ มื้อแรกในรอบอาทิตย์ที่เขาได้กลับมาบ้าน ช่างน่าจดจำเสียนี่กระไร เอลิซยังคงยั่วยวนเขาด้วยเครื่องแต่งกายสุดวาบหวามทุกครั้งที่มีโอกาส ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหล่อนต้องการสิ่งใด หล่อนยังสาวยังสวย แต่เขาก็ทนต่อเสน่ห์อันเหลือร้ายของหล่อนได้ เพราะสำนึกอยู่เสมอว่าหล่อนเคยเป็นภรรยาของเจ้านายที่รัก แต่ทำไมหนอ อีกหนึ่งสตรีที่เป็นภรรยาคนปัจจุบันของเจ้านาย เจ้าสำนึกส่วนดีมันถึงไม่เคยทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็งสักครั้ง เขายังเผลอคิดถึงวงหน้านวลเนียนสีน้ำผึ้งของนิลอรอยู่ร่ำไป ป่านนี้เจ้าหล่อนคงจะหลับฝันดีในอ้อมแขนของโจนาธานไปเรียบร้อยแล้ว “ขอให้หลับฝันดีนะครับนาย...ทั้งสองคนเลย...” เขาอวยพรให้กับเจ้านายที่รักทั้งสองคน นิ้วเรียวแกร่งเผลอยกขึ้นลูบแก้มขวา มันยังรู้สึกชาๆ พอลองจับดูก็ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดผิดปกตินอกจากมีโลหิตติดมาเล็กน้อย “ยัยเอลิซตัวร้าย!” นึกพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันถึงต้นตอของรอยเลือด แล้วพลันสายตาสีเทาหม่นก็เผลอมองขึ้นไปบนบ้านหลังใหญ่ และได้เห็นแสงไฟสว่างโร่อยู่ในห้องห้องหนึ่งซึ่งมีระเบียงอยู่ตรงกับห้องเขาพอดี “ใครมาอยู่ห้องนี้นะ มีแขกมางั้นหรือ” พึมพำท่ามกลางบรรยากาศแสงจันทร์นวลแสนโรแมนติกบนเกาะ SENTOSA สายลมยามค่ำคืนหอบเอากลิ่นท้องทะเลมาลอยอ้อยอิ่งอยู่ที่ปลายจมูก เขาเผลอสูดเข้าไปเต็มปอด ขณะที่สายตายังจ้องมองระเบียงของห้องดังกล่าว ฉับพลันความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในสมอง เพราะถ้าวันนี้ไม่มีแขกมาพักที่นี่ คนที่พักอยู่ในห้องนั้นก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนที่เพิ่งมาอยู่ใหม่ แน่นอนว่าไม่ใช่นิลอร เพราะเจ้าหล่อนคงต้องพักอยู่กับโจนาธานทางปีกขวาของบ้านหลังงาม ฉะนั้นคนที่พักอยู่ห้องนั้นก็น่าจะเป็น... “เธอกล้าทำผมฉันเปียก ฉันว่าเธอน่าจะรับผิดชอบมันหน่อยนะเอลลี่” คิดได้ดังนั้นชาร์ลส์ก็ดึงผ้าออกจากลำคอแกร่ง ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวม ไม่ลืมเลือกสีที่กลืนกินไปกับความมืดมิดของยามราตรี แล้วปีนออกจากบ้านพักของตนทางระเบียงด้านข้าง เขากระโดดลงบนพื้นทราย ก้าวเดินเข้าไปในสวนที่คั่นกลางระหว่างบ้านสองหลัง นึกดีใจที่มันรกเรื้อไปด้วยสุมทุมพุ่มไม้ เพราะมันช่วยพรางตัวเขาได้ดีนัก แม้แต่ยามรักษาการสองคนที่เดินตรวจตรารอบๆ บ้าน ยังไม่สังเกตด้วยซ้ำว่าเขาเดินอยู่ในสวน “นี่นายกำลังทำอะไรอยู่วะชาร์ลส์” ถามตัวเองขณะป่ายขาขึ้นไปบนต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งมีกิ่งก้านสูงใหญ่พอจะรับน้ำหนักของเขาได้ ใช่แล้ว เขากำลังปีนต้นไม้เพื่อขึ้นไปยังระเบียงของห้องที่ยังเปิดไฟอยู่ ด้วยความเป็นชายที่นิยมเรื่องผาดโผนอยู่เป็นนิจ จึงไม่ยากเย็นเลยกับการปีนต้นไม้ แม้ว่ามันจะสูงมากก็ตาม ห้านาทีไม่ขาดไม่เกิน ชายหนุ่มก็มายืนอยู่บนระเบียงของห้องที่เขาหมายตาไว้ ความสามารถในการสะเดาะกลอนประตูถูกพับเก็บไว้ชั่วคราว นั่นเพราะเจ้าของห้องไม่ได้ปิดประตูกระจก เขาเลยเดินเข้าห้องได้อย่างง่ายดาย มือเรียวขาวราวอิสตรี สลัดใบไม้ออกจากศีรษะพลางมองไปรอบๆ ห้องที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายตามใบหน้าและเนื้อตัวเขาจนต้องถอดเสื้อคลุมออกเพราะมันเริ่มจะคันยิบๆ ตามผิวเนื้อ เหลือไว้เพียงกางเกงนอนตัวยาวและเสื้อกล้ามที่โอบอุ้มกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ “เรามาทำอะไรที่นี่วะเนี่ย ถ้าเกิดห้องนี้ไม่ใช่ห้องยัยครูนั่น เราจะตอบเจ้าของห้องว่ายังไง” ถามตัวเองอีกหน ใช้ดวงตาสีเทาชวนฝันกวาดมองรอบๆ ห้องอย่างใคร่รู้ มีกองหนังสือวางอยู่จำนวนหนึ่งบนโต๊ะที่ข้างหัวเตียง เมื่อเขาลองจับมาพลิกดูเนื้อหาข้างใน ก็เริ่มมั่นใจว่าห้องนี้ต้องเป็นห้องของครูเอลลี่อย่างแน่นอน เพราะหนังสือเล่มนี้เนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนการสอนสำหรับเด็กช่วงวัยอนุบาลและยังเป็นภาษาไทยอีกด้วย เขาวางมันลงที่เดิม ก่อนจะแลหาเจ้าของห้อง แล้วผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งที่พับวางอยู่ข้างหนังสือและกระเป๋าสตางค์ของเจ้าหล่อนก็สะดุดตาเขา พอจับมาคลี่ดูก็เห็นอักษรภาษาอังกฤษปักอยู่ แน่นอนว่าเป็นชื่อเจ้าของอย่างไม่ต้องสงสัย และเขาก็เข้าใจแล้วว่าหล่อนคงจำเขาได้ตั้งแต่แรก แต่เขาสิแค่คุ้นๆ หน้าหล่อนเท่านั้น “ที่แท้เธอก็คือยัยซุ่มซ่ามที่ทำไอติมเลอะเสื้อฉันนี่เอง” ริมฝีปากสีแดงระเรื่อคลี่ยิ้มน้อยๆ ด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะรีบผลุบลงข้างเตียงด้วยท่านอนคว่ำเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู แอ๊ด...ปัง! เจ้าของห้องระบายอารมณ์กับบานประตูเกิดเสียงดังสนั่น เธอต้องอาบน้ำอีกรอบเพื่อระงับความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นเพราะพ่อเทพบุตรสุดหล่อของตัวเอง “ปากหมา! ชีกอ! ใจแคบที่สุด! ถ้าไม่ติดว่าหล่อนะ ฉันไม่มองให้เสียลูกตาหรอกย่ะ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม