11.มันขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าด้วย

1314 คำ
ความคิดกับการกระทำนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว เธอพยายามวิ่งหนีแต่ทว่าคนพวกนั้นไวมากกว่าเพราะว่าพวกเขาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว ปกติจะต้องมีพระเอกหรือไม่ก็ใครสักคนที่ขี่ม้าขาวมาช่วยสิแต่นี่..เธอกำลังถูกลากจูงไปที่ไหนสักแห่งแบบที่ไม่สามารถขัดขืนได้ด้วยซ้ำ “คือว่า..ข้าเป็นนักเดินทางและแน่นอนพี่ชายของข้าจะต้องมาช่วยข้าในไม่ช้า หากเป็นเรื่องเงินข้าคิดว่าข้าสามารถจ่ายให้พวกท่านได้..” ชายที่กำลังเดินนำหน้าปรายตามามองหน้าของเธอ “ที่เราอยากได้คืออำนาจต่างหากล่ะน้องสาว เพราะชนชั้นสูงก็คือชนชั้นสูง ส่วนพวกชาวบ้านก็คือชาวบ้านเท่านั้นไม่มีวันจะได้เป็นชนชั้นสูงเพราะว่าชนชั้นสูงที่นี่คลั่งเรื่องเลือดอันสูงส่งของพวกเขามากทีเดียว..” แล้วเธอไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ? เธอแค่เดินทางผ่านมาและกำลังจะกลับบ้านเท่านั้นเอง ทว่าในใจของไกอาไม่ได้รู้สึกกลัว ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ชายพวกนี้ไม่ได้ทำร้ายเธอแม้แต่นิดเดียว ตราบใดที่เธอยังคงเดินตามพวกเขาไปดีๆ น่ะนะ “อย่างที่พวกท่านรับรู้ ข้าเป็นแค่นักเดินทางและข้าไม่รู้ปัญหาภายในของพวกท่านเพราะอย่างนั้น..ปล่อยข้าไปเถอะนะคะ” ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมกับบรรยากาศเย็นยะเยือก ไกอาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติของตัวเอง เธอถูกชายเมื่อครู่ดันให้เดินมาเบื้องหน้า “นายท่านครับ เราพบเจอสตรีผู้นี้ซึ่งนางเป็นนักเดินทางและนาง..ยินดีที่จะรับใช้นายท่านในคืนนี้ครับ” ดวงตาสีอัญมณีของไกอาเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อเธอมองเห็นบุรุษที่นั่งอยู่ด้านใน เขามีใบหน้าที่นับได้ว่าหล่อเหลามากที่สุดคนหนึ่งเลย เส้นผมสีทองและดวงตาสีอำพันกำลังจับจ้องใบหน้าของเธออยู่ เรื่องความหล่อนั้น..เต็มสิบไม่หักเลย และเรื่องกลิ่นอายความดิบเถื่อนที่รายล้อมอยู่รอบๆ ตัวเขามันกร้าวใจชะมัด ทรงแบดแบบที่เธออยากจะยกมือขึ้นมาแล้วกรีดร้องออกมาดังๆ “พวกเจ้าออกไปก่อนเถิด ข้าต้องการเวลาส่วนตัวกับสตรีงดงามที่พวกเจ้ามีน้ำใจพานางมาหาข้า” ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังของไกอาก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอบคุณ “แล้วเรื่องงานของพวกเรา..” “ทุกอย่างจะเรียบร้อยหลังจากที่ข้าได้ทำความรู้จักกับสตรีพวกนี้ อย่าให้ข้าต้องพูดเป็นครั้งที่สอง..” ความเงียบปกคลุมเราทั้งหมดเอาไว้ ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงฝีเท้าของชายทั้งห้าคนที่เดินจากไป บอกตามตรงว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันชวนให้เธอมึนงงมากทีเดียว “ท่านเป็นหัวหน้าของคนพวกนั้นเหรอคะ?” เขาเดินเข้ามาหาเธอก่อนที่จะยกมือขึ้นมาพร้อมกับจับเข้าที่ปลายคางของไกอาเพื่อให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองสบตาเขา “จะเรียกแบบนั้นก็ไม่เชิง คนกระจอกพวกนั้นข้าไม่นับว่าพวกเขาคือลูกน้องหรอกนะ..” งดงาม..นั่นคือคำนิยามง่ายๆ ที่เคียนมอบให้สตรีผู้นี้ นางคงจะเป็นนักเดินทางอย่างที่โจรกระจอกพวกนั้นบอก อันที่จริงเขาค่อนข้างระมัดระวังตัวเองมากพอสมควร.. มันเหมือนคำสาปที่ติดตัวเพราะชนเผ่านอลข่านจะมีกำหนัดมากกว่าคนทั่วไป และเขาเองก็หลีกหนีไม่พ้นความต้องการที่แผดเผาร่างกายของเขาอยู่ทุกเช้าค่ำ เพราะอย่างนั้นในเมื่อมันเกิดความต้องการ เช่นนั้นเขาก็ต้องการที่จะปลดปล่อย ทว่าด้วยฐานะองค์รัชทายาท เขาไม่ต้องการให้สตรีทุกนางเกิดความคาดหวังขึ้นมาในใจ เพราะอย่างนั้นเขาจึงทำข้อตกลงกับคนพวกนั้น ให้พวกมันหาสตรีมาให้เขาแลกกับกรรมสิทธิ์ถือครองไร่ข้าวโอ๊ตเล็กๆ และแน่นอนสตรีที่เขาต้องการคือนักเดินทาง.. เขาต้องการสตรีที่มาจากที่อื่นและไม่รู้จักว่าเขาคือใคร อันที่จริงเขาออกงานน้อยมากเพราะอย่างนั้น..ทำให้สตรีสาวชาวบ้านเองก็ไม่เคยเห็นพระพักตร์ขององค์รัชทายาทเช่นกัน แต่ในวันนี้คนพวกนั้นกลับหาสตรีที่งดงามเช่นนี้มาให้เขาได้ เห็นทีว่าเขาจะต้องส่งมอบของรางวัลให้อย่างงามซะแล้ว “ข้ามองเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของเจ้านะสาวน้อย หากเจ้ายินยอมนอนกับข้า เงินทองมากมายจะเป็นของเจ้าเท่าที่เจ้าจะร้องขอเลย” อ่า..นี่คือเหตุผลที่เธอไม่ได้มีความรู้สึกหวาดกลัวเลยอย่างนั้นสินะ เพราะว่าทั้งชายห้าคนในตอนแรกและเขาที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเธอในยามนี้ไม่ได้มีท่าทีบังคับหรือว่าขู่เข็ญเลย.. “ข้ามีเงินมากพอแล้วค่ะ” เขาไล้ปลายนิ้วไปตามซอกคอของไกอา “เช่นนั้น..เจ้าต้องการสิ่งใดเล่า” ไกอาขบเม้มริมฝีปากเบาๆ “ข้าต้องการ..สามีค่ะ” เคียนชะงักในทันที สตรีงดงามเช่นนี้ยินดีจะมาเป็นภรรยาโจรอย่างนั้นหรือ ฐานะในยามนี้เขาไม่ใช่องค์รัชทายาท แต่เป็นหัวหน้าโจรกระจอกๆ เท่านั้น “ท่านมีภรรยารึยังคะ?” เคียนแค่นหัวเราะเบาๆ “ข้าไม่มีภรรยาและ..เงินทองที่ข้ามีมันไม่เพียงพอในการเลี้ยงภรรยาหรอกนะ” “อ่า..หากว่าเป็นเรื่องเงินข้ามีค่ะ ข้าเลี้ยงดูท่านได้ แต่งงานกับข้าแล้วก็เลิกเป็นคนไม่ดีเถอะนะคะ” แววตาของเธอเปล่งประกายขึ้นมาในขณะที่เคียนทำหน้าตกใจราวกับจะร้องไห้ออกมา “ข้าเป็นโจร ทั้งปล้นและนอนกับสตรีไปทั่ว..” ไกอาจับมือของเขาเอาไว้แน่น “เรื่องนั้นไม่เป็นอะไรเลย ทุกคนต่างก็มีอดีตด้วยกันทั้งนั้น ข้าไม่เก็บเรื่องในอดีตของท่านมาคิดมากหรอกค่ะ” เขามีใบหน้าที่ตรงสเปคเธอแบบสุดๆ ไปเลย ดูกล้ามแขนนั่นสิ อยากจะยกมือขึ้นมาลูบชะมัด แต่เธอหวาดกลัวว่าเขาจะหลบหนีไปเพราะคิดว่าเธอคือยัยโรคจิต เคียนหัวเราะเบาๆ เขาพึ่งจะเคยพบเจอสตรีเช่นนี้เป็นครั้งแรกเลยทีเดียว แววตาของเธอเผยให้เห็นถึงความจริงใจ และนี่คือครั้งแรกที่..เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกขอแต่งงานเลย “ข้าแต่งงานกับเจ้าไม่ได้หรอกนะ” แม้แต่โจรก็ยังไม่อยากแต่งงานกับเธองั้นเหรอเนี่ย บุรุษในเมืองนี้เป็นอะไรกันไปหมด!! “เพราะว่าข้า..ขี้เหร่มากใช่ไหมคะ เรื่องหน้าตาข้าอาจจะแก้ปัญหาไม่ได้..” เขาใช้นิ้วชี้ปิดริมฝีปากที่กำลังขยับไปมาของไกอาเพื่อเป็นสัญญาณให้เธอหยุดพูด “ที่ข้าแต่งงานกับเจ้าไม่ได้เพราะเรายังไม่ได้ลองนอนด้วยกันเลยไม่ใช่เหรอ นอลข่านมีธรรมเนียมและเจ้าที่เป็นนักเดินทางก็ควรจะรู้เอาไว้ ว่าก่อนจะตกลงปลงใจแต่งงานเราจะต้องทดลองนอนด้วยกันก่อน เพราะกฎหมายของที่นี่ไม่อนุญาตให้หย่าร้าง..” “....” ไกอาช้อนสายตามองหน้าเขา นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเธอมันเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่เลย เธอมองสบสายตาของนัยน์ตาสีอำพันที่แสนจะเร่าร้อน “หมายความว่า..ท่านจะยินยอมเป็นสามีของข้าใช่ไหมคะ” “เรื่องนั้นก็ต้องดูความสามารถของเจ้าด้วย ว่าเจ้าจะสามารถมัดใจของข้าเอาไว้ได้รึเปล่า?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม